ครม.เซ็นตั้ง ขรก.การเมืองหลายอัตรา “ภักดีหาญส์” นั่งรองโฆษกฯ

ที่ประชุม ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ.พัฒนาชีวิตคนพิการฯ ดูแลสิทธิและสวัสดิการคนพิการ พร้อมเซ็นตั้ง “ภักดีหาญส์” ขึ้นนั่งรองโฆษกรัฐบาล ส่ง “อนุตตมา” ไปเป็นเลขาฯ รมว.พม. พร้อมตั้ง “นิวัฒน์ธำรง” เป็นครูใหญ่นั่ง ปธ.กก.ตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ เห็นชอบตั้ง “เลขาฯ-ที่ปรึกษา” รมว.พลังงานด้วย

วันนี้ (7 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมและพิจารณาพัฒนาชีวิตคนพิการ ฉบับที่ พ.ศ... และร่างปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม ฉบับที่ พ.ศ.... ทั้ง 2 ฉบับที่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว โดยมีสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและพิจารณาพัฒนาชีวิตคนพิการ คือ ให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ มีผู้อำนวยการที่เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ เป็นผู้รับผิดชอบการปฎิติราชการของสำนักงาน ให้สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ มีอำนาจตรวจสอบการได้รับสิทธิผลประโยชน์ของคนพิการ ให้คำแนะนำและช่วยเหลือคนพิการให้สามารถเข้าถึงและได้รับประโยชน์จากสิ่งอำนวยความสะดวก และได้รับสวัสดิ์การและความช่วยเหลือ

นายอนุสรณ์ยังกล่าวอีกว่าที่ประชุมอนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แทน น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ที่ได้รับการเสนอให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แทน น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ที่ลาออกจากตำแหน่งมาตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา

นายอนุสรณ์กล่าวด้วยว่า ครม.ได้อนุมัติตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.55 เป็นต้นไป พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วยภาครัฐและภาคเอกชน โดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นประธานกรรมการ และมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ประกอบด้วย 1. องค์ประกอบ มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นรองประธานกรรมการ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง จำนวน 28 คน รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่เกิน 5 คน ร่วมเป็นกรรมการ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นกรรมการและเลขานุการ และเจ้าหน้าที่สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จำนวน 2 คน เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และ 2. อำนาจหน้าที่ พิจารณาจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางนโยบาย และมาตรการในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศให้สามารถแข่งขันในระดับสากล และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการต่อไป โดยมีอำนาจหน้าที่อีก 6 ประการ

นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ครม.ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ แต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกอบด้วย พล.ต.ต.ลัทธสัญญา เพียรสมภาร เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และนายเอกธนัช อินทร์รอด เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.เป็นต้นไป รวมทั้งยังได้อนุมัติเป็นหลักการในการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ คือ นายภูมิ สาระผล และนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เป็นผู้รักษาราชการแทนตามลำดับ

ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุสรณ์เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้มีผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ คือ 1. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี และ 2. นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งยังเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญเฉพาะรายให้ นายธวัชชัย คูภิรมย์ กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเฉิ่นหยาง สาธารณรัฐประชาชนจีน ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต จากเดิม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป รวมไปถึงแต่งตั้ง นายรูเบน คูเปอร์แมน (Mr. Reuben Kooperman) เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ นครเพิร์ท เครือรัฐออสเตรเลีย แทน พลจัตวา ดับลิว ดี. เจมีสัน (Brigadier W.D. Jamieson) ซึ่งเกษียนอายุ โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมรัฐออสเตรเลียตะวันตก เครือรัฐออสเตรเลีย

ทั้งนี้ นายอนุสรณ์ยังกล่าวด้วยว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอแต่งตั้งนายสุวิทย์ ดิษยวงศ์ เป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาสถาปนิกแทนตำแหน่งที่ว่างลง และให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.55 เป็นต้นไป