“เฉลิม” เตรียมแก้ กม.ประหารนักค้ายาเสพติดไม่ต้องรอฎีกา

“เฉลิม” เตรียมแก้ กม.กำหนดเวลาประหารชีวิตนักค้ายาเสพติด หลังศาลชั้นต้น อุทธรณ์ ตัดสินตรงกัน เพื่อไม่ให้ทำผิดซ้ำซาก เฉ่งขนาดอยู่ในคุกยังทำชั่วได้อีก อ้างฝ่ายค้านโวยใช้งบฯปราบยาจำนวนมากเพราะอิจฉาเห็นมีผลงานเลยดีสเครดิต เตรียมลุยเวิร์กชอปภาคเหนือ ยกเป็นวาระแห่งภูมิภาคให้ประเทศเพื่อนบ้านแบ่งทุกข์เรื่องยาเสพติดจากไทยไปบ้าง

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอจาก ป.ป.ส.ให้เพิ่มโทษนักโทษที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด ว่า คดีเรื่องยาเสพติดเมื่อศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษแล้ว หากจะอุทธรณ์ ต้องมาอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์กลาง ศาลอุทธรณ์แต่ละภาคไม่มีสิทธิพิจารณาคดี ซึ่งเมื่อศาลอุทธรณ์ตัดสินลงโทษเหมือนศาลชั้นต้น จำเลยจะไม่มีสิทธิฎีกา ที่ผ่านมาหากศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์ก็ตัดสินตามศาลชั้นต้น จำเลยก็มักจะหาช่องทางไม่ให้มีการประหารชีวิต

“ผมกำลงจะแก้กฎหมายว่า ถ้าคดีไหนก็ตาม เมื่อศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์ก็ประหารชีวิต จะแก้ให้ชัดเลยว่า ให้ประหารภายในระยะเวลาเท่าใด เพราะโทษยาเสพติดถ้ามีมากก็ประหารชีวิตอยู่แล้ว ไม่ต้องเพิ่มโทษ ซึ่งผมจะปรึกษากับเลขาฯกฤษฎีกาว่าจะทำอย่างไรได้ ให้เขียนไว้เลยว่าหาก 2 ศาลเห็นตรงกันก็ให้ประหารชีวิตในระยะเวลาเท่าใด ไม่งั้นไม่ตายเสียที แล้วก็มาสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านเมือง วันนี้เราต้องทำให้กระชับ ไม่เช่นนั้นไม่เข็ดราบ และพวกนี้ไม่น่าปราณี ขนาดอยู่ในคุกยังทำชั่ว เดี๋ยวจะส่งไปที่คุกเขาบินให้หมด”

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีนักโทษที่โทษยังไม่ถึงประหารชีวิต แต่ไปกระทำความผิดซ้ำ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ ถือว่าคนละคดี คดีที่ตัดสินไปแล้วก็คดีหนึ่ง ถ้ามีคดีใหม่ก็อีกคดีหนึ่ง เอามารวมกันไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงแต่ละคดีไม่เหมือนกันและศาลก็ใช้ดุลพินิจไม่เหมือนกัน

ต่อข้อถามว่าจะเป็นลักษณะของการปิดการฎีกาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า กฎหมายเขียนไว้ชัดว่าถ้าศาลชั้นต้นลงโทษ จะอุทธรณ์ที่ไหนไม่ได้เลย ต้องมาที่ศาลอุทธรณ์กลางเท่านั้น ถ้าศาลอุทธรณ์ลงโทษก็จบ จะไปฎีกาไม่ได้ ถ้า 2 ศาลเห็นเหมือนกัน เมื่อถามว่าโดยข้อเท็จจริงแล้ว ต้องดูที่จำนวนหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ส่วนใหญ่ศาลใช้ดุลพินิจ ถ้ายาบ้าถึง 4 พันเม็ดก็จบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กระบวนการตรงนี้จะใช้ระยะเวลานานหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนขอปรึกษากฤษฎีกาก่อน ไม่งั้นต่างชาติจะหาว่าเราโหดร้ายรุนแรง บางทีการทำงานอย่างนี้ก็ลำบาก เราก็ต้องเคารพกฎหมายไทย

ส่วนที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตถึงการใช้งบประมาณค่อนข้างเยอะในเรื่องการปราบปรามยาเสพติด ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พอการปราบยาเสพติดมีเครดิตก็มาบอกว่าใช้เงินมาก ตนไม่ได้ตั้งงบประมาณเลย รัฐบาลนี้งบประมาณยังไม่ได้ใช้เลย เมื่อถามว่ามีข่าวรัฐบาลจะสร้างคุกพิเศษ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่ เขาอุปมา อุปมัย ตนบอกมีเท่าไหร่ ใช้เท่านั้น มีของเก่าอยู่ก็ใช้ไปก่อน ซึ่งหากปีนี้สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้เราจะเหลือเงินเป็นล้านๆ บาท ซึ่งงบประมาณที่ใช้ปัจจุบันนำมาจากไหน หรือนำมาจาก ป.ป.ส.หรือไม่ตนไม่ทราบ และตนไปยุ่งกับเขาไม่ได้ เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านเรียกร้องให้ชี้แจงเรื่องนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียด เพราะตนไม่ได้ใช้ แต่ถ้าสงสัยก็ยื่นกระทู้สดมา จะได้เสียแต้มเพราะชาวบ้านกำลังชอบนโยบายนี้ วิธีการเบิกจ่ายเงินถ้าคนไม่รู้เรื่องก็ช่างพูดไป แต่คนที่รู้เรื่องเขาจะรู้เลยว่าเป็นอย่างไร ไม่รู้ว่าพวกนี้เอาสมองส่วนไหนคิด

ต่อข้อถามว่า การที่รัฐบาลใช้นโยบายอย่างนี้ คิดว่าระยะเวลาแค่ไหนจึงจะเห็นผล ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนว่า 1 ปีเห็นผล จากวาระแห่งชาติ จะยกให้เป็นวาระแห่งภูมิภาค จากที่เราทุกข์อยู่ประเทศเดียว ก็ให้ประเทศอื่นมามีหุ้นส่วนในความทุกข์บ้าง และต้องมีหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้วยเพราะเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อถามว่าทำไมไทยจึงกลายเป็นตลาดใหญ่ในการค้ายาเสพติด รองนายกฯ กล่าวว่า ไทยอยู่ใกล้ มาง่าย เราพยายามสกัดสารตั้งต้น แต่ตอนนี้มาใหม่แล้ว ทั้งยาแก้หวัด ยาแก้ไอจากเกาหลี แต่ยืนยันว่าตนตามจับทันแน่นอน ให้เวลาตนนิดหนึ่ง

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า จะมีการเวิร์กชอปยาเสพติดในภาคเหนือ โดยวันที่ 24 ก.พ.จะไปที่จ.ลำปาง วันที่ 25 ก.พ. จะมีการประชุม 8 จังหวัดภาคเหนือ ที่.เชียงใหม่ ตอนนี้ตำรวจขยัน ส่วนทางใต้ไม่ได้ไป เพราะไม่มียาเสพติด แหล่งจริงๆ อยู่ที่พม่า ซึ่งการทำงานจะทำงานเป็นคู่แฝดกันเหมือนที่นายกฯบอก และได้ทำมานานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ตอบกระทู้สด ที่ประชุมวุฒิสภา เรื่อง การดำเนินนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. สรรหา เป็นผู้ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี

โดย นพ.เจตน์ กล่าวชื่นชมการดำเนินนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล แต่เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินนโยบายเชิงบูรณาการเชื่อมโยงการทำงานจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การปราบปรามยาเสพติดได้ผลมากขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหานักโทษล้นเรือนจำ เนื่องจากกังวลว่า การคุมขังนักโทษยาเสพติดร่วมกับนักโทษอาญาร้ายแรงจะยิ่งเป็นการเกื้อกูลกันในการกระทำความผิด พร้อมกันนี้ ยังแสดงความเป็นห่วงเรื่องการบำบัดยาเสพติดของรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ได้รับการบำบัดจำนวนมากกลับมาเป็นผู้เสพยาเสพติดอีกครั้ง

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม ชี้แจงว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามยาเสพติด โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัดเร่งดำเนินการป้องกันยาเสพติดในจังหวัดของตัวเอง พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้เร่งดำเนินการป้องกันสารตั้งต้นที่จะนำมาทำเป็นยาเสพติด รวมทั้งยืนยันว่า ตำรวจในรัฐบาลชุดนี้จะไม่มีการฆ่าตัดตอนผู้ค้ายาเสพติดอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการแยกผู้ต้องขังคดียาเสพติดออกจากผู้ต้องขังทั่วไป ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดำเนินการ

ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ตอบกระทู้ถาม เรื่อง การดำเนินนโยบายเร่งด่วนเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐ ว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล ทั้งนี้ ประเทศได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 ไว้แล้ว และจะเร่งดำเนินการนำร่างกฎหมาย 3 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามการทุจริต ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ฉบับที่ พ.ศ....ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด พ.ศ.... และร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติความร่วมมือระหว่างประเทศว่าด้วยเรื่องในทางอาญา ฉบับที่ พ.ศ....เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาโดยเร็วที่สุด