“ส.ว.วีรวิท” ถามกระทู้เยียวยาแดง “ยงยุทธ” แจงอ้างทำตามข้อเสนอ คอป. ยันครอบคลุมทุกฝ่าย โบ้ยถ้ารัฐ “มาร์ค” ไม่สลายความรุนแรงไม่เกิด ชี้จ่ายเป็นรายกรณีไป ลั่นไม่ยกเลิกแน่ วอนคนเสียภาษียอมเพื่อสมานฉันท์ “ส.ว.สมชาย” โวยเจอ ส.ว.เบรกเปิดคลิป “ไอ้ตู่-เต้น” ปลุกม็อบ “ส.ว.ตรึงใจ” ติงเงินให้เยอะเกิน แนะรวมน้ำท่วม-ไฟใต้ด้วย จี้ทบทวนด้วย
วันนี้ (30 ม.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา มีนายนิคม ไวยรัชพาณิชย์ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม มีวาระการพิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการจ่ายเงินเพื่อชดเชยเยียวยาและฟื้นฟูเหยื่อและผู้เสียชีวิต ตลอดจนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงและความขัดแย้งจากการชุมนุมทางการเมือง พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ ส.ว.สรรหา ระบุว่า รัฐบาลปรับเปลี่ยนการจ่ายเงินเยียวยาเป็นเงินชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม โดยใช้หลักการว่าเกิดจากการกระทำของรัฐบาลเอง แต่เห็นว่าสิ่งสำคัญจะทำอย่างไรให้การชดเชยมีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และเป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต จึงเสนอให้รัฐบาลชะลอการจ่ายเงินออกไปก่อน เพื่อไม่ให้ปัญหาตามมาภายหลัง และตรวจสอบข้อเท็จจริงรวมถึงแยกแยะพฤติกรรมของผู้ที่เข้าข่ายได้รับเงินชดเชย ทั้งนี้จะต้องใช้การพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อไม่กระทบต่องบประมาณ พร้อมเสนอตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาดูแลในเรื่องงบเยียวยาดังกล่าวด้วย
ด้าน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ชี้แจงแทน ยอมรับว่า มติการเยียวยานี้มีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่รัฐบาลได้ดำเนินการตามข้อเสนอของคอป.และครอบคลุมทุกฝ่าย ซึ่งมีการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมระบุว่าหากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาใช้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้องต่อผู้ชุมนุม ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่รัฐบาลที่จะต้องชดเชยเยียวยาเป็นพิเศษ
“บางคำถามที่ผมได้ฟังนั้นดูเหมือนว่าจะถูกเชื่อมโยงไปสู่ความไม่ปรองดอง การดำเนินการทุกอย่างนั้นเป็นไปตามที่ คอป.เสนอทั้งสิ้น ซึ่งหลักฐานทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้จากลายลักษณ์อักษรในรายงานต่างๆ ทั้งนี้ คำว่า ยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เป็นข้อเสนอของ คอป.เพราะฉะนั้นการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดก็ล้วนเป็นหน้าที่ของ คอป.ส่วนข้อเสนอต่างๆ ที่เสนอมา” นายยงยุทธ กล่าว
ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า สิ่งที่สังคมตั้งคำถามอยู่ในขณะนี้ สภาพสังคมที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือภาวะน้ำท่วม กับการเยียวยาให้แก่ผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งการเยียวยานั้นแตกต่างกันมาก ประชาชนคือผู้เสียภาษี ตนจึงอยากตั้งคำถามว่า รัฐบาลใช้เกณฑ์อะไรมาเป็นหลักว่าใครจะได้รับการเยียวยาเท่าไหร่ ซึ่งการเยียวยาดังกล่าวแม้จะอ้างหลักการของ คอป.ก็ตาม แต่สิ่งที่ออกมานั้น การเยียวยามีความแตกต่างกันหลายสิบเท่า และการเยียวยาอาจจะอ้างถึงความปรองดอง แต่ตนอยากจะถามว่าสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความปรองดองหรือไม่ และในอนาคตกฎเกณฑ์เช่นนี้ จะถูกเอาไปใช้กับทุกๆ กรณีหรือไม่
“มาตรการที่รัฐสร้างขึ้นมาเช่นนี้ ต้องมีคำถามตามมาว่า ในอนาคตหากเกิดกรณีเช่นนี้ พวกเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย ส่วนกรณีแกนนำการชุทนุมที่พาคนมาตาย ซึ่งนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช.เคยระบุว่า หากได้เป็นรัฐบาลจะมีการเยียวยาให้เท่านี้เท่านั้น ผมจึงไม่แน่ใจว่าการเยียวยาดังกล่าวทำขึ้นเพื่อความปรองดอง หรือเป็นตัวเลขที่มีการต่อรองกันมาแล้ว” นายสมชายกล่าว
ทั้งนี้ นายสมชายได้เปิดคลิปวิดีโอที่เสนอเกี่ยวกับการปลุกระดมกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงของแกนนำเสื้อแดงอย่างนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ และนายจตุพร จึงเกิดการประท้วงของกลุ่ม ส.ว.บางคน ที่เห็นว่าไม่ควรจะเอาภาพเหล่านี้มาเสนอเพื่อสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม การเสนอคลิปวิดีโอดังกล่าวจึงต้องยุติการฉายไป
นายสมชายจึงกล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่คิดว่าในการประชุมวุฒิสภาจะมีการประท้วงกันแบบนี้เหมือนกับทางสภาผู้แทนราษฎรด้วย ภาพที่ตนนำเอามาเสนอนั้นเพียงเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่ายังมีกลุ่มผู้เสียชีวิตด้วยความบริสุทธิ์ และไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการชุนนุม ไม่ว่าจะเป็นคนขับรถแท๊กซี่ หรือคนส่งอาหารย่านบางรักที่นำเอาอาหารไปส่งที่บริเวณสีลม ซึ่งคงจะไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจอย่างแน่นอน คนเหล่านี้จะได้รับการเยียวยาอย่างไร ตนจึงอยากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบหาหลักฐานมาสนับสนุนการจ่ายเงินเยียวยา ทั้งนี้ตนสนับสนุนให้มีการเยียวยา แต่ไม่ใช่จะมากเกินไป เพราะไม่เช่นนั้นอีกไม่นานก็จะมีการพาคนมาตายกันอีก
นายยงยุทธกล่าวชี้แจงต่อคำถามของนายสมชายว่า การเยียวยาดังกล่าวเกิดจากมาตรการของรัฐที่ไปละเมิดสิทธิมุษยชน และจะต้องมีการเยียวเพื่อความปรองดอง และมาตรการดังกล่าวนี้จะใช้ในทุกกรณี เนื่องจากผู้เสียชีวิตก็ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมต่อพวกเขาเช่นนี้ ซึ่งคนไทยก็ต้องเข้าใจในเรื่องนี้ด้วย การเยียวยาจะต้องดูเป็นรายๆ ไป ไม่ใช่ว่าใครจะผิดหรือถูกก็ต้องเยียวยา
ขณะที่ นางตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า เหตุการณ์การชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงที่เราไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งผู้ที่กระทำผิดก็ไม่ควรที่จะได้รับการเยียวยา ประชาชนหลายๆ คนไม่เห็นด้วยกันการเยียวยาด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ของทาง คอป.เนื่องจากพวกเขาเห็นว่า จำนวนเงินดังกล่าวไม่ได้เยียวยาให้กับผู้ที่เสียชีวิตด้วยเหตุการณ์อื่นๆ อย่าง ผู้ที่ถูกไฟฟ้าดูดจากเหตุการณ์น้ำท่วม หรือเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ทางรัฐบาลควรที่จะคำนึงถึงคนทั้งประเทศไม่ใช่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง การสร้างความปรองดองจะต้องมีความยุติธรรม และต้องรับผิดชอบคนทั้งประเทศ การกำหนดหลักเกณฑ์ในการเยียวยา กำลังก่อให้เกิดความขัดแย้งต่อความในสังคมหรือไม่
นายยงยุทธได้ชี้แจงว่า การมองข้อเท็จจริงสำหรับคนสองคนนั้น อาจจะมีการมองเห็นด้านหนึ่งและอีกด้านหนึ่งไม่เท่ากัน ถ้ารัฐบาลไม่ทำเรื่องนี้ ประชาชนผู้เสียภาษีจะรู้สึกอย่างใด เพราะความยุติธรรมในช่วยเปลี่ยนผ่านนั้นเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องกระทำ มติที่ออกมาคงจะไม่มีการยกเลิก ส่วนภาษีที่ประชาชนต้องเสียไปนั้น ตนคิดว่าก็ต้องยอมเสียไปเพื่อความสมานฉันท์ในสังคม และส่วนตัวตนคิดว่าคุ้มค่า ซึ่งความยากลำบากที่เกิดขึ้น คือเราจะตีราคาความตายของคนว่าเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ
นางตรึงใจกล่าวต่อว่า ตนไม่ได้เสนอให้มีการยกเลิกให้มีการเยียวยา แต่เสนอให้มีการลดจำนวนเงินลงมา เนื่องจากในอนาคตจะได้ไม่มีใครที่หลอกคนมาตายและได้ดิบได้ดี ซึ่งคนดังกล่าวก็ได้ดีมาแล้ว แต่คงไม่ต้องระบุว่าเป็นใคร การขอให้รัฐบาลรับฟัง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมให้เกิดกับประชาชน และรัฐบาลควรที่จะออกกฎหมายการชุนนุม เพราะไม่เช่นนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะต้องเกิดขึ้นมาอีก ตนคิดว่าถึงแม้ว่ามติคณะรัฐมนตรีแก้ไม่ได้ แต่สามารถทบทวนได้ ทั้งนี้ ตนอยากจะขอรายละเอียดในการพิจารณาหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวครั้งนี้ว่า จ่ายใคร จำนวนเท่าไหร่ เพื่อความโปร่งใสในการปกครองที่เป็นธรรม