เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ต้องเรียกว่าได้ดัง ได้เท่ สมใจอยากกันทั่วหน้าสำหรับพวก “นักรับจ้างสอนกฎหมาย” พวก “เด็กเมื่อวานซืน” เหล่านี้ หลังจากออกมาสร้างกระแสในนามกลุ่ม “นิติราษฎร์” แต่ตอนนี้กำลังกลายเป็น “นิติเนรคุณ” ในสายตาของชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว เพราะบางคนอย่าง วรเจตน์ ภาคีรัตน์ ที่ทำตัวเป็น “หัวโจก” เดินนำหน้านี่ก็เคยได้รับ “ทุนอานันทมหิดล” ไปเล่าเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา กลับมาแทนที่ตั้งหน้าตั้งตาสร้างสรรค์ความคิด เลือกรับเอาสิ่งที่ดีกลับมา แต่นี่กลายเป็นว่าตั้งหน้าตั้งตาจะทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ท่าเดียว อย่างนี้ไม่เรียกว่า “เนรคุณ” ก็ไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไรแล้ว
00 มองอีกมุมหนึ่งก็ยิ่งสมเพชเวทนากับอดีตผู้นำนักศึกษาที่ทำตัวเป็นศิลปินอย่าง เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ที่เคยร่วมลงชื่อสนับสนุนแก้ไข ม.112 ทำนองว่าไม่รู้เรื่อง ไม่รู้จักกับพวก “เด็กเมื่อวานซืน” เหล่านี้และที่ร่วมลงชื่อไปนั้นเพราะ “ผู้ใหญ่ขอร้อง” ความหมายก็ไม่ต่างจาก “ถูกหลอก” ให้ลงชื่อ ลองคิดดูแล้วกันว่าถ้าคนอย่าง เสกสรร ไร้เดียงสาได้ถึงเพียงนี้ แสดงว่าสังคมไทย การเรียนรู้ข้อมูลข่าวสารไม่ไปถึงไหนจริงๆ แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งเป็นการ “แก้ตัวแบบจวนตัว” หลังจากสังคมรับไม่ได้กับข้อเสนอทุเรศของพวกเด็กเมื่อวานซืนกลุ่มนั้น มันก็ทำให้กลุ่ม “หัวหงอก” ที่เป็นอีแอบอยู่ข้างหลัง ต้องรีบโดดชิ่งหนีออกมาก่อน
00 สังคมวิปริตผิดเพี้ยนกันไปหมดแล้ว หลังจากได้รับทราบผลเอแบคโพลล์ ที่ระบุล่าสุดตอกย้ำอีกว่าสังคมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่เกินกว่าร้อยละ 50 และร้อยละ 60 ยอมรับได้หากรัฐบาลโกงแต่ตัวเองได้ประโยชน์ ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นตรรกะที่สวนทางกัน เพราะถ้ารัฐบาลโกงมันก็เป็นไปไม่ได้ที่ชาวบ้านจะได้ประโยชน์ และสิ่งที่คิดว่าได้นั้นมันเพียงแค่ชั่วคราวหรือเฉพาะหน้าเท่านั้น
00 จุดอ่อนแบบนี้กระมังที่ทำให้ ทักษิณ ชินวัตร นำ “ประชานิยม”มาใช้ให้ชาวบ้านได้เสพติด โดยการแบ่งปัน “เศษเนื้อ” ที่เหลืออยู่ข้างเคียงแล้วโยนมาให้ ขณะเดียวกันก้อนใหญ่ที่มาในรูปแบบงบประมาณรัฐ ลักษณะทุจริตทางนโยบาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน และตกทอดมาจนถึงปัจจุบันในยุคนายกฯนกแก้ว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างไรก็ดีในปัจจุบันแม้ว่าพวกที่หลงใหลเสพติดกับประชานิยมที่หยิบยื่นมาให้ แต่ก็มีพวกที่รู้ทันเพิ่มขึ้นไม่น้อยเมื่อเทียบกับในยุคโน้น อย่างที่เห็นกำลังขัดขวางการรุกคืบเข้ามาฮุบ ปตท.ไปอยู่ในมือกลุ่มทุนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์
00 มีเรื่องให้ต้องจับตา ต้องระแวงได้ตลอดเวลา สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร ที่ล่าสุดก็โม้ออกมาเองว่าไปลงทุนน้ำมันที่เลบานอน แถมยังคุยฟุ้งต่อเนื่องว่าธุรกิจกำลังไปได้สวย แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่จะรวยที่เลบานอนแค่ไหน ประเด็นมันย้อนกลับมาโยงไปถึงเรื่องที่กำลังผลักดันให้รัฐบาล โดย กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลังเดินเครื่องทำให้ ปตท.พ้นจากการเป็นรัฐวิสาหกิจให้เอกชนเข้ามาฮุบธุรกิจด้าน “พลังงาน” มากกว่า เรียกได้ว่า “รวยเล็กๆไม่ ใหญ่ๆแม้วชอบ” หรือเปล่า อีกทั้งเวลานี้คำถามตัวโตๆก็คือการทำหน้าที่เป็น “นายหน้า” ข้ามชาติ ไปแล้ว !!
00 วันนี้ (30 ม.ค.) ปชป.จะไปยื่นให้ศาลรธน.ตีความว่า พรก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯไปให้แบงก์ชาติรับภาระรวมไปถึงการการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทโดยอ้างตัวเลขลอยๆว่ามาฟื้นฟูแก้ปัญหาน้ำท่วมว่าขัด รธน.หรือไม่ เพราะถือว่าไม่ใช่เป็นเรื่องเร่งด่วนแบบคอขาดบาดตาย ขณะที่วันรุ่งขึ้นอังคารที่ 31 ม.ค.ก็ต้องเจอกับ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมานและเพื่อน ส.ว.ไม่น้อยกว่า 30 ยื่นให้ตีความซ้ำอีก งานนี้ทำท่าจะอ่วม เพราะมันทำท่า “ไม่ด่วนจริง” เสียด้วย