xs
xsm
sm
md
lg

ด่า“นิติเรด”ไม่เอา “สื่อแดง” รัฐบาลเพื่อไทยหนีเอาตัวรอด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง


แม้จะย้ำแล้วย้ำอีกหลายรอบ เกินกว่าสิบครั้งไปแล้ว พูดทั้งในที่ประชุมรัฐสภาและในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ทั้งตัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี-ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านกฎหมายให้กับรัฐบาล-ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรองนายกรัฐมนตรีลำดับที่1 -สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฏร-อุดมเดช รัตนเสถียร ประธานวิปรัฐบาล

ที่ประสานเสียงพร้อมเพียงกันว่า “ไม่เอาด้วย -ไม่เห็นความจำเป็น และเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จะก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายตามมาทางการเมืองไม่จบสิ้น”

แต่ไฉนการยืนยันดังกล่าว กลับถูกถามครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่จบสิ้น ทั้งจากสังคมและสื่อมวลชน ว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยจะมีท่าทีและจุดยืนเรื่องนี้อย่างไร?

เห็นด้วยหรือไม่กับข้อเสนอของคณะนิติราษฏร์ ที่ให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รวมถึงให้แก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการปฏิรูปสถาบันหลักของสังคมไทยทั้งหมด

ทั้งศาล กองทัพ องค์กรอิสระ รัฐสภา รวมถึง”สถาบันพระมหากษัตริย์”

เสมือนหนึ่ง สังคมไม่ไว้วางใจ เคลือบแคลงสงสัย ต่อท่าทีการเมืองของรัฐบาลเพื่อไทยว่า

ตีสองหน้า เล่นหลายขา

ไม่ต่างจากที่บอกว่า เพื่อไทยกับเสื้อแดงไม่มีอะไรต่อกัน เป็นคนละส่วน เสื้อแดงคือผู้เรียกร้องประชาธิปไตย พรรคเพื่อไทยคือพรรคการเมือง

ทว่าหากมีผลประโยชน์เกื้อหนุนกัน เช่น คนเสื้อแดงช่วยพรรคหาเสียง เป็นฐานคะแนนจัดตั้งให้ทั่วทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ ภายใต้แคมเปญแดงทั้งแผ่นดิน สร้างหมู่บ้าน-อำเภอจนถึงจังหวัดเสื้อแดง แบบนี้เพื่อไทยก็จะบอกว่าเสื้อแดงเป็นผู้รักประชาธิปไตยต้องสนับสนุน แต่หากดูแล้วอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์ ก่อให้เกิดผลเสียกับรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ก็จะรักษาระยะห่างเฉพาะหน้าเอาไว้ แต่ “ลับหลัง”ก็เกื้อหนุนจุนเจือกันไป

เพราะทุกวันนี้ ใครๆ ก็รู้กันดีว่า การขยายตัวของหมู่บ้านเสื้อแดงหลายพันหมู่บ้านทั่วประเทศ ก็ล้วนได้รับการสนับสนุนทางการเงินและการช่วยเหลือในด้านต่างๆ จากส.ส.พรรคเพื่อไทยหรือผู้สมัครส.ส.ของพรรคที่สอบตกที่มีทั้งตำแหน่งทางการเมืองและไม่มีตำแหน่ง เพื่อให้ฐานหมู่บ้านและอำเภอเสื้อแดงคือกลุ่มหัวคะแนนจัดตั้งที่ถาวรในแต่ละจังหวัด เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ทางการเมืองได้

ทักษิณ ชินวัตร และแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ต้องคอยดูแลพวกแกนนำเสื้อแดง -ส.ส.สอบตกสายเสื้อแดง ให้ได้มีตำแหน่งทางการเมืองเป็นการตอบแทนทั้งที่ปรึกษารัฐมนตรี-เลขานุการรัฐมนตรี

ซึ่งในรายชื่อที่ผ่านความเห็นชอบจากครม.ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา จะพบว่า แม้อารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ดแดง จะโดนเด้งจากเลขานุการรมว.มหาดไทย แล้วก็โดนลดชั้นไปเป็นผู้ช่วยเลขานุการรมว.เกษตรและสหกรณ์ คือไปเป็นหน้าห้องให้ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์

แต่พวกคนสายเสื้อแดงก็ยังได้ตำแหน่งกันหลายคนทั้งในกระทรวงคมนาคม-พาณิชย์-ศึกษาธิการ เป็นต้น แม้บางคนชื่ออาจหลุดไปบ้าง

ที่ทักษิณต้องทำเช่นนี้ก็เพื่อเอาใจแกนนำนปช.เอาไว้ต่อไป เพื่อเป็นให้พวกนี้เลี้ยงมวลชนคนเสื้อแดงเอาไว้ต่อไปเรื่อยๆจะได้เป็น “เครื่องมือการเมืองนอกรัฐสภา”คอยปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ยามเมื่อต้องออกศึกสำคัญ หากเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด

ก็เหมือนกับที่ทักษิณและแกนนำพรรคเพื่อไทย ต้องทำสื่ออย่าง “ช่องแดง-เอเซีย อัพเดท”เอาไว้เพื่อเป็นเครื่องมือการเมืองและการโฆษณาชวนเชื่อให้กับ “สาวกแดง” แต่พอเกิดกรณีมีข่าวว่าช่างภาพของสถานีแห่งนี้ ซึ่งประจำทำเนียบรัฐบาลไปโพสต์ข้อความเข้าข่ายหมิ่นสถาบันฯ ตัว เฉลิม กลับบอกว่า เพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับช่องเสื้อแดง ไม่มีทีวี

พูดลิงหลอกเจ้าแบบนี้ ก็มีแต่คนไร้ปัญญาเท่านั้นที่เชื่อ เพราะใคร ๆก็รู้ว่าทีวีช่องนี้ แกนนำพรรค-ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีจนถึงส.ส.ของพรรคล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำคลอดสถานีมาตั้งแต่ต้น

ผ่านการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเดโมเครซี นิวส์ เน็ตเวิรค์ จดทะเบียนเมื่อปี 2552 ทุนประเดิม 5 ล้านบาท

มีจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคและรมว.คมนาคมคนปัจจุบัน เป็นกรรมการบริษัท

แถมมีอีกหลายคนที่เปิดตัวร่วมก่อตั้งอาทิ จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ลูกสาวพล.ต.ท.ชัชจ์ รมช.คมนาคม -จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นต้น

อีกทั้งรายการต่างๆของสถานี ก็ล้วนมีแต่คนของเพื่อไทยและเสื้อแดงไปนั่งจัดรายการกันทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นรายการที่มีเรตติ้งสูงสุดของสถานีอย่างรายการ “ชูธง”ที่เดิมจัดกันสองคนคือจตุพร พรหมพันธุ์ กับณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แต่ตอนนี้จตุพรคงต้องจัดคนเดียวแล้ว หลังณัฐวุฒิได้เป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์

จะปฏิเสธได้อย่างไรว่า เอเซีย อัพเดท ไม่ใช่ทีวีเสื้อแดงภายใต้การดำเนินการของคนเพื่อไทย ก็เห็นกันโต้งๆ แบบนี้ ทุกคืนวันมาหลายปี ซึ่งทุนใหญ่ทีวีเสื้อแดงก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน ทักษิณ ชินวัตรนั่นเอง

เพื่อไทยกับเสื้อแดง จึงแนบแน่นติดกันมาตลอด เพียงแต่บางจังหวะอาจรักษาระยะห่างกันบ้าง แต่ก็ไม่ปล่อยมือทอดทิ้งกัน แม้ภายนอกจะพยายามบอกว่า

เพื่อไทยกับเสื้อแดง เป็นคนละส่วนกัน

เช่นเดียวกัน เมื่อแกนนำรัฐบาลตั้งแต่ตัวยิ่งลักษณ์ นายกฯยิ่งลักษณ์-เฉลิม-ยงยุทธ -สมศักดิ์ ประธานสภาฯ พยายามบอกว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุนข้อเรียกร้องของนิติราษฎร์ที่กำลังรวบรวมรายชื่อประชาชน 1 หมื่นรายชื่อเพื่อส่งให้สภาฯแก้ไขมาตรา 112

แม้จะยืนยันหลายรอบ แต่สังคมกลับไม่เชื่อสนิทใจ และแคลงใจว่าเพื่อไทย แม้ภายนอกจะไม่เอาด้วยกับข้อเสนอนิติราษฏร์ ในบางส่วนคือเรื่อง การปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์และมาตรา 112

ทว่าในบางเรื่องเช่น การให้แก้รัฐธรรมนูญโดยโละทิ้งรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วให้มีผลพวงย้อนหลังไปถึงการลบล้างคดีความทางการเมืองที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน 19 ก.ย. 49 คือให้เป็นโมฆะทั้งหมด อันเท่ากับว่าเป็นการลบล้างความผิดของทักษิณ ชินวัตร และคืนเงิน 4.6 หมื่นล้านที่ถูกยึดทรัพย์กลับคืนไปให้ทักษิณ

กลับพบว่า ข้อเสนอแบบนี้ เฉลิม-พรรคเพื่อไทย-ส.ส.และแกนนำรัฐบาล กลับบอกว่าเป็นข้อเสนอที่น่านำไปพิจารณาไตร่ตรอง และชมว่าเป็นความคิดที่ดี น่าสนับสนุน

สรุปแล้ว เพื่อไทยและรัฐบาล ก็ไม่ได้ถึงกับปิดประตูไม่เอาด้วยกับ “นิติราษฏร์”ทุกอย่าง

หากอะไรที่รับไปทำแล้ว เกิดประโยชน์กับตัวเองและทักษิณ ก็พร้อมสนับสนุน หากอันไหนที่เสี่ยง กระแสสังคมไม่เอาด้วย ก็พยายามบอกปัด แต่ก็ปัดไม่หมด คนในพรรคเพื่อไทยบางคนก็มีท่าทียังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่ ว่าจะเอาด้วยกับนิติราษฎร์

คนจึงวางใจไม่ได้ว่า รัฐบาลและเพื่อไทย จะไม่เอาด้วยแบบล้านเปอร์เซนต์กับนิติราษฎร์ในเรื่องการแก้ไข 112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์

คือในทางการเมืองหน้าฉาก รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอาจไม่รับลูก แต่ก็ไม่ขัดคอ ไม่ดำเนินการทางกฎหมายใดๆ ด้วยการอ้างว่าเป็นสิทธิที่กลุ่มนิติราษฎร์จะเคลื่อนไหวทั้งการจัดสัมมนาที่ระยะหลังเริ่มมีการอภิปรายพาดพิงถึงสถาบันมากขึ้นทุกที หรือการเคลื่อนไหวล่ารายชื่อแก้ 112

แม้ล่าสุดแกนนำรัฐบาลอย่างร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีจะออกมาสั่งสอนกลุ่มนิติราษฎร์เสียยกใหญ่ก็ตาม

“รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่มีทางไปทำเรื่องแก้ประมวลกฎหมายอาญาม.112 เวลากลุ่มนิติราษฎร์เขานั่งแถลงใครก็ใส่เสื้อสีอะไรได้ อย่าไปแปลความเหมารวม ไม่มีด้วยเด็ดขาด แค่คิดก็ตกนรกแล้ว
อีกทั้งผมเห็นว่า ม. 112 ที่มีอยู่ดีอยู่แล้ว พวกกินยาผิดซอง พวกเพ้อ ไม่มีใครเขาเอาด้วยหรอก โถ บ้านเมืองร่มเย็นมาได้นับร้อยนับพันปีก็เพราะพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น จริง ๆ เพราะพระปรีชาสามารถ ทุกอย่างดีหมดแล้ว

แต่ไอ้พวกกินยาผิดซอง ร้องเพลงยิ่งยง ยอดบัวงาม ที่นึกว่าตัวเองหล่ออย่างนั้นอย่างนี้ พวกนี้คิดอะไรอยู่ ไม่เข้าท่า ผมพูดไม่กลัวเป็นศัตรูกับพวกนิติราษฎร์ แต่ไม่มีสิทธิไปปราม ถ้าผิดกฎหมายก็ว่ากันไป พวกนี้บางครั้งคิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น เก่งกว่าคนอื่น ก็เรียนกฎหมายมาด้วยกัน เพียงแต่ผมไม่ใช้ดอกเตอร์เมืองนอกเท่านั้น

มันไปคิดอะไร จะรื้อหมวดนั้นหมวดนี้ ไอ้พวกกินยาผิดซอง ทำไม่ได้หรอก ไม่มีใครเอาด้วย"

นี้คือคำกล่าวของเฉลิมที่ดูจะชัดเจนมากที่สุดตลอดช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาของรัฐบาลเพื่อไทยต่อการแก้ไขมาตรา 112 ก็ไม่รู้ว่า เหลิม ตอกฝาโลง นิติราษฏร์ ไปแบบนี้แล้ว

วรเรดแอนด์เดอะแก๊ง จะหงายหลังหรือเปล่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็โดนจวกและประณามอย่างหนักจากหลายฝ่าย ทั้งกระแสสังคม และเสียงวิจารณ์จากบุคคลหลายคนเช่น บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าที่สั่งสอนผ่านเฟซบุ๊คของตัวเองโดยตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของกลุ่มนิติราษฏร์โดยเฉพาะตัววรเจตน์ นักศึกษาทุนมหิดลที่ได้รับทุนจนไปจบปริญญาโทและเอกที่เยอรมันซึ่งเป็นแกนนำออกมาเคลื่อนไหวว่าควรหรือไม่ควร เป็นการเนรคุณหรือไม่

ไม่นับรวมกับที่ตอนนี้ เริ่มมีกลุ่มประชาชนหลายส่วนออกมาเปิดตัวพร้อมชนกับนิติราษฏร์แล้วเช่นที่นครราชสีมา ขอนแก่น ที่มีการตัวหัวและเผาหุ่นจำลองติดชื่อกลุ่มนิติราษฏร์และ ถึงขั้นประกาศหากรู้ว่าคนในกลุ่มนี้ มาที่จังหวัดจะไม่ต้อนรับ เพราะเป็น

พวกเนรคุณแผ่นดิน

หากเป็นแบบนี้ ถ้าสังคม ไม่เอาด้วยกับนิติราษฏร์มากขึ้นเรื่อยๆ ทำท่า ว่า พวกนี้ จะไม่มีที่ให้ยืนเสียแล้วกระมัง
กำลังโหลดความคิดเห็น