สะเก็ดไฟ
ต้องจับตาดูกันว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันอังคารที่ 10 มกราคม 2555 นี้ ที่ประชุม ครม.จะเห็นชอบด้วยหรือไม่
กับข้อเสนอของคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธาน
หลังจากที่ “ปคอป.”เห็นด้วยกับข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ หรือ คอป.ชุด คณิต ณ นคร ที่ให้รัฐบาลดำเนินการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมือง
เบื้องต้น “ปคอป.” เสนอให้รัฐบาลเยียวยาผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548-2553 คนละ 3 ล้านบาท
ครม.จะเห็นด้วยหรือไม่ จะปรับลดหรือเพิ่มขึ้นก็เป็นอำนาจของ ครม.
และต้องดูกันว่า รัฐบาลเพื่อไทยที่ก็คือรัฐบาลเสื้อแดง จะมีมติในเรื่องนี้อย่างไร
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “ปคอป.” เป็นกรรมการที่ตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “ปคอป.” ถือกำเนิดขึ้นมา เพราะยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลได้เขียนและแถลงไว้ต่อรัฐสภาเมื่อครั้งแถลงนโยบายการบริหารประเทศต่อรัฐสภาว่า จะเดินหน้านโยบายสร้างความปรองดองด้วยการยึดหลักแนวทางของคอป.
คำแถลงดังกล่าวถือเป็นสัญญาที่ให้ไว้กับรัฐสภาและต่อประชาชน แต่ด้วยความที่ คอป.เป็นกรรมการที่ทำงานแบบอิสระ ไม่ขึ้นต่อหน่วยงานใด อีกทั้งตั้งขึ้นมาสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรรมการทุกคน คณิต ณ นคร เป็นคนสรรหาและคัดเลือกเองทั้งหมด
รัฐบาลยิ่งลักษณ์เองก็เกรงว่า หากจะทำอะไรทุกอย่างตามข้อเสนอของ คอป.โดยไม่มีการกลั่นกรองก่อนคงไม่ดี รวมถึงรัฐบาลต้องมีกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อคอยติดตามการทำงานของ คอป.ว่ามีการทำงานไปถึงไหนอย่างไร ข้อเสนออันไหนทำได้ทำไม่ได้
จึงตั้ง “ปคอป.” ขึ้นมาเพื่อไปคอยทับ คอป.อีกชั้นหนึ่ง
ถ้าข้อเสนอไหนเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล “ปคอป.” ก็น่าจะสนับสนุนและมีท่าทีเอาด้วย แต่เรื่องไหนดูแล้วยังไม่สมควรรับไม้ต่อก็จะไม่เข้าไปแตะ เห็นได้จากข้อเสนอเรื่องมาตรา 112 ของ คอป.ทาง “ปคอป.” ก็ยังไม่ได้นำไปหารือกัน
เรื่องการจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ทางการเมืองตั้งแต่ปี 48-53 ว่ากันตามจริงถือเป็นหลักการที่ดี คนหลายฝ่ายก็ได้ประโยชน์จากการนี้ ทั้งเสื้อแดง-เสื้อเหลือง-ทหาร-ตำรวจ-คนบริสุทธิ์ที่โดนลูกหลง จากการชุมนุมทางการเมืองทุกครั้งก็จะได้รับการเยียวยาช่วยเหลือ
แต่สิ่งที่ “ปคอป.” จะต้องบอกให้ชัดก็คือ ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่จะได้รับการเยียวยาดังกล่าว มีหลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างไร
ทุกคนคงเห็นว่าเป็นธรรมแน่ หากครอบครัวของ “เสธ.เปา” พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตเมื่อ 10 เมษายน 2553 หรือครอบครัวของ “น้องโบว์” อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อ 7 ตุลาคม 2551 จะได้รับการเยียวยา
รวมถึงครอบครัวของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตเพราะการต่อสู้ทางการเมืองด้วยใจบริสุทธิ์จริงๆ แต่กลับอีกหลายคนที่เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด หรือมูลเหตุแห่งการตายไม่แน่ชัดว่าเป็นการตายเพราะเหตุใด ทาง ปคอป.จะมีการกลั่นกรองอย่างไร
เพราะเงินที่ “ปคอป.” บอกว่าจะเสนอต่อ ครม.อังคารนี้ให้เห็นชอบวงเงินดังกล่าวประมาณ 2 พันล้านบาท หลังก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยตั้งกรอบวงเงินสำหรับการเยียวยาฯ ไว้ 11,480 ล้านบาท ซึ่งใช้ไปแล้ว 8,340 ล้านบาท ยังเหลืออีกประมาณ 3,140 ล้านบาท จึงจะขอกันเงินมา 2 พันล้านเพื่อใช้เยียวยาช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต
จะว่าไปก็ไม่ใช่เงินมากมายอะไรนักกับชีวิตของมนุษย์ ขอเพียงแต่การช่วยเหลือดังกล่าวต้องทำอย่างทั่วถึง เป็นธรรม มีการกลั่นกรองตรวจสอบให้ดี
ซึ่งหาก “ปคอป.” และรัฐบาล ทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา มีความเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ได้หวังผลทางการเมือง ก็คงไม่เสียงคัดค้านอะไร
แม้ท่าทีของฝ่ายแกนนำ นปช.ดูจะไม่พอใจกับวงเงินช่วยเหลือดังกล่าว อย่าง “เจ๊ธิดา” ธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. ก็ดักคอกลางทีวีเสื้อแดงทันทีหลังรู้ข่าวรัฐบาลจะให้เงินช่วยเหลือแก่ญาติผู้เสียชีวิตศพละ 3 ล้านบาท
ว่าน่าจะน้อยเกินไป เพราะสมัยพฤษภาทมิฬ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว ครอบครัวผู้เสียชีวิตยังได้เกือบ 5 ล้านบาท
ส่วน ส.ส.เสื้อแดงในเพื่อไทย ก่อนหน้านี้จตุพร พรหมพันธุ์ ก็บอกว่าควรต้องให้ 10 ล้านบาท
เลยไม่รู้ว่า “ปูแดง” จะว่ายังไง ถ้าพวกคนเสื้อแดงจะขอมากกว่า 3 ล้านบาท
มาเพราะ “เสื้อแดง” ก็อย่างงี้แหละ ขัดใจได้ซะที่ไหน?