xs
xsm
sm
md
lg

ปี 55 ของจริงกำลังมา ระวังคนกันเองหันหัวเรือถล่มปู!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ขายผ้าเอาหน้ารอดไปได้เปลาะหนึ่งแล้วสำหรับปัญหาม็อบแท็กซี่ รถขนส่ง รถโดยสาร หลังจากยอมสลายตัวกลับบ้านใครบ้านมัน เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยอมอ่อนข้อโดยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาข้อเสนอภายใน 4 เดือน แต่วันที่ 16 มกราคมนี้ก็ยังมีการปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีตามกำหนดราคากิโลกรัมละ 50 สตางค์ ขณะที่ฝ่ายพวกรถขนส่งต่างๆ ก็จะได้คูปองส่วนลดราคาก๊าซในราคาเดิมไปก่อนชั่วคราว หรือถ้าไม่มีเงินสดก็สามารถใช้บัตรเครดิตพลังงานรูดปรื๊ดๆ ไปก่อนก็ได้

แต่เดี๋ยวก่อนพี่น้องอย่าเพิ่งไชโย เพราะดูแล้วไม่ต่างกับการถูกต้มตุ๋น เพราะหากตั้งสติฝ่ายที่ได้ประโยชน์มีแต่บริษัทปตท.เท่านั้น หลังจากมีการปรับราคาก๊าซเอ็นจีวีตามสเต็ปแรก หรือตามขั้นบันไดที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ได้อนุมัติเอาไว้ ถ้าปรับขึ้นเดือนละ 50 สตางค์ 4 เดือนก็เท่ากับ 2บาท ขณะที่ฝ่ายคนขับรถขนส่งทั้งหลายต้องเติมก๊าซในอัตราใหม่ แม้ว่าจะบอกว่ามีการช่วยเหลือเรื่องคูปองและมีบัตรเครดิตให้รูด แต่เชื่อเถอะพอเอเข้าจริงจะต้องเจอกับปัญหาอุปสรรคยุบยับไปหมด บทเรียนเรื่องคูปอง 2 พันบาทยังมั่วกันไม่เลิกเลย แล้วเรื่องแบบนี้จะไปเหลืออะไร

ขนาดรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่เป็นตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมเจรจากับม็อบยังออกมายอมรับแบบไม่อายเลยว่าที่ผ่านมา “ประสานงานไม่ดี” ทำให้เข้าใจกันผิด จนทำให้มีการประท้วงเกิดขึ้น ความหมายก็คือ “มั่ว” นั่นแหละ

ขณะเดียวกัน หากพูดกันถึงเรื่องบัตรเครดิตพลังงาน (เรียกให้ถูกคือบัตรส่วนลด) มันก็ต้องไปเกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน เกี่ยวข้องกับธนาคารของรัฐที่ถูกบังคับให้เข้าร่วมโครงการให้ปล่อยสินเชื่อ ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่ต้องมีเงื่อนไข มีการตรวจสอบกันค่อนข้างละเอียด มันไม่สวยหรูอย่างที่พูดหาเสียงเอาไว้หรอก และที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 9 มกราคมหลังการเจรจากับม็อบแท็กซี่ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ก็ยอมรับออกมาเองว่าการทำบัตรเครดิตดังกล่าวยังล่าช้า เนื่องจากธนาคารต้องตรวจสอบรายละเอียด ทำให้ยังไม่เข้าเป้า

ในความเป็นจริงก็คือ แม้ว่าจะมียอดผู้สมัครขอรับบัตรจำนวนนับหมื่นคนแล้ว แต่จะได้รับการอนุมัติเหลืออยู่กี่ราย ปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละ

ดังนั้น ถ้าบอกว่างานนี้คนที่ได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ก่อนใครก็คือ ปตท.เจ้าเก่านั่นแหละ เพราะตารางเวลาการขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีสเต็ปแรกก็เดินไปตามกำหนด หลังจากนั้นอีก 4 เดือนค่อยมาว่ากัน ส่วนพวกแท็กซี่รถโดยสารก็รอรับคูปองส่วนลดกันไป ซึ่งรับรองว่าจะต้องมีรายการมั่วตามมาแน่นอน

แม้ว่าการสลายม็อบของบรรดาแท็กซี่ รถขนส่ง รถโดยสาร ดังกล่าวจะเป็นไปด้วยหลายปัจจัย ทั้งเรื่องการกดดันตัวเอง จากการปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านจนมีเสียงด่ากันขรม ซึ่งแน่นอนว่าขืนยืนระยะแบบนี้ต่อไปก็ยิ่งเป็นลบ อีกทั้งเบื้องหลังย่อมมีการต่อสายล็อบบี้กันอย่างหนัก เพราะล้วนแล้วแต่คนกันเองทั้งนั้น แต่ถึงอย่างไรนี่ถือว่าเป็นการขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อน

อย่างไรก็ดี เชื่อเถอะว่าในระยะเวลานับจากวันที่ 16 มกราคมเป็นต้นไป ปัญหามันจะเกิดขึ้นกับคนขับแท็กซี่ และผู้ประกอบการขนส่ง เพราะต้นทุนจะต้องสูงขึ้น ก็ต้องมาบวกเพิ่มเอาข้างหน้า เป็นลูกโซ่ เป็นความเดือดร้อนของพวกรากหญ้าที่เป็นฐานของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และบูชาทักษิณ ชินวัตร

ขณะเดียวกัน คำถามที่เริ่มผุดขึ้นมาอีกก็คือ การปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีของ ปตท.มันมีเบื้องหลังอย่างไรกันแน่ เป็นเพราะ “ไม่ยอมขาดทุนกำไร” หรือเป็นเพราะ “ฝรั่งหัวดำหน้าเหลี่ยมๆ” อยู่เบื้องหลังหรือเปล่า อีกทั้งที่ผ่านมามีการเจรจาหาแหล่งก๊าซใหม่จากพม่าได้สำเร็จ ก็บังเอิญว่า มี ทักษิณ ชินวัตร ดอดไปเจรจาปูทางเอาไว้ล่วงหน้า ทำให้น่าสงสัยว่านี่คือ “นายหน้า” ข้ามชาติหรือเปล่า กลายเป็นคนเดินเกมสำคัญทั้งในพม่าและกัมพูชา เหมือนกับว่าจะเกี่ยวข้องกันชอบกล

แม้ว่าจะซื้อเวลาไปได้อีกอย่างน้อย 4 เดือน แต่ในช่วงเวลานี้ความจริงมันก็ต้องประจานออกมาให้เห็นจนได้ โดยเฉพาะในปีนี้หลายปัญหาจะเริ่มถาโถมเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องปัญหาปากท้องจะต้องปะทุออกมาจนได้ ซึ่งคนที่เดือดร้อนก็คือพวกที่อยู่ปลายน้ำ พวก “รากหญ้า” คนกันเองทั้งนั้น ซึ่งครั้งสองครั้งมันก็ยังพอกัดฟันทนกันได้ แต่ยิ่งนานไปมันก็เหลืออดเหมือนกัน และเมื่อนั้นแหละถ้าบอกว่าตัวเร่งที่ทำให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์พังเร็วก็มาจากคนพวกนี้แหละ!!
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
กำลังโหลดความคิดเห็น