xs
xsm
sm
md
lg

“กิตติรัตน์” รับถูก “ปู” โกรธแจงไม่ชัด ยันออกบัตรเครดิตแท็กซี่ให้ทันขึ้น NGV

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ ยันบัตรเครดิตขนส่งรวมส่วนลดเอ็นจีวีด้วย จะออกให้ทันก่อนขึ้นราคา ชี้รถบรรทุกใช้ก๊าซแค่ส่วนน้อย เผยราคาสินค้าอยู่ที่ต้นทุนดีเซลมากกว่า หวังปรับราคาสู่มาตรฐาน เชื่อคุยกันได้ รับขออภัยแจงไม่ชัด ระบุดึงแท็กซี่นั่งคณะทำงานร่วมหารือ เล็งเพิ่มจุดบริการ ลั่นค่าโดยสารไม่ขึ้นแน่ รับนายกฯ โกรธสื่อสารไม่ชัด



วันนี้ (9 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่มีแนวทางบัตรเครดิตรถขนส่งโดยสาธารณะจะครอบคลุมส่วนลดราคาเอ็นจีวีด้วย นอกเหนือจากวงเงินบัตรเครดิตที่จะจัดให้กับผู้ประกอบการ ดังนั้นได้ชี้แจงต่อกลุ่มผู้ประกอบการแท็กซี่ว่าอยู่ในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ขณะนี้เรื่องบัตรเครดิต หรือบัตรส่วนลดที่ติดกับรถ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งดำเนินการ ฉะนั้น รถแท็กซี่ทุกคันที่มีการจดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกจะได้รับบัตรส่วนลดทันกำหนดอย่างแน่นอน ดังนั้นเรื่องราคาเอ็นจีวีที่จะปรับขึ้นในงวดแรกวันที่ 16 ม.ค.นี้ หรือว่าในงวดเดือนถัดไปครั้งละ 50 สตางค์ บัตรส่วนลดก็จะดูแลกลุ่มนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เลือกปฏิบัติเพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีต้นทุนในการดำเนินการ และเป็นผู้คิดค่าโดยสาร รัฐบาลต้องการดูแลผู้โดยสารที่ใช้บริการให้ได้ใช้ในราคาต่ำที่สุด ในช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้ประกอบการรถแท็กซี่ก็มีความเข้าใจที่ดี จึงแยกย้ายกันกลับไปแล้ว ส่วนอีก 2 กลุ่ม รถขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯที่เป็นรถร่วม ที่เป็นผู้ประกอบการเอกชน รถเมล์ ขสมก.ทุกคันยังใช้ระบบดีเซลอยู่ การให้บริการจึงไม่เกี่ยวกับตรงนี้ จึงเรียนให้ผู้โดยสารได้สบายใจว่ารถ ขสมก.จะเดินรถตามปกติ และให้การบริการอย่างดีเหมือนเดิม ส่วนรถร่วมขนส่งมวลชนที่มาร่วมคัดค้านการขี้นราคาเอ็นจีวีก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่เป็นตัวแทน เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินรถ ซึ่งตนได้ชี้แจงแล้วว่ารถร่วมฯ อยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ที่จะได้ส่วนลดของราคาเอ็นจีวีจะสอดคล้องเหมือนแท็กซี่ แรกๆ อาจไม่มั่นใจหรือไม่เข้าใจ

นายกิตติรัตน์กล่าวว่า บัตรที่จะออกประจำรถร่วมฯ แต่ละคัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือ ปตท.ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ผู้ประกอบการได้รับบัตรทันเวลากับการปรับค่าเอ็นจีวีในงวดแรก ส่วนกลุ่มรถบรรทุกสินค้านั้น ตัวแทนได้บอกว่าไม่อยากให้ราคาเอ็นจีวีขึ้น เกรงจะกระทบต้นทุน ทำให้ต้องบวกค่าบริการทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นนั้น ตนยืนยันว่าการปรับจากราคา 8.50 บาท เชื่อว่าผู้ประกอบการรถบรรทุกสินค้าทราบดีว่าควรมีการปรับเพราะราคานี้ต่ำมากจนทุกท่านทราบ ขณะนี้ผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วประเทศมีจำนวนกว่า 7 แสนคัน ร้อยละ 90 น่าจะเติมน้ำมันดีเซล ส่วนจำนวนที่น้อยกว่าร้อยละ 10 เติมเอ็นจีวี เชื่อว่าราคาสินค้าที่กำหนดอยู่นั้น กำหนดจากต้นทุนจากน้ำมันดีเซลเป็นหลัก เพราะถือว่ามีต้นทุนสูงกว่า ทั้งในเชิงราคาต่อลิตร และระยะทางที่วิ่ง เชื่อว่าราคาสินค้าอิงน้ำมันดีเซล จึงจะขอความเข้าใจและขอความร่วมมือจากรถขนส่งสินค้าเอกชน จำนวนหนึ่งนี้ขอให้ช่วยกันคิดในการทำงานร่วมกันเพื่อปรับกลไกราคาเอ็นจีวี ให้เข้าสู่มาตรฐานและท่านทราบว่าราคา 8.50 บาทนี้มันต่ำไป การขยับขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีปรับเดือนละ 0.50 บาทเท่านั้น แม้ว่ากลุ่มนี้ไม่ได้ส่วนลดแต่เชื่อว่าการขึ้นในเดือนแรกๆ หลายๆ เดือนก็อยู่ในระดับ 0.50 บาท 1 บาท 1.50 บาท 2 บาท เท่านั้นเอง เวลาจะปรึกษากันว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่อยากทำให้ท่านเดือดร้อน ถ้ามีความไว้วางใจกันเชื่อว่าคุยกันได้

“รัฐบาลต้องขอโทษด้วยที่ชี้แจงไม่ชัดเจน ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้าที่ส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดีเซลอยู่ การที่มีผู้ประกอบการเอ็นจีวี ในขณะนี้ส่วนใหญ่ใช้ดีเซล ราคาสินค้าที่อ้างอิงได้คงทำให้ท่านสามารถยอมรับการปรับราคาเอ็นจีวีได้ในระดับหนึ่ง รัฐบาลเองไม่ได้ดึงดันอะไร เพราะค่อยๆปรับ แม้ว่าเป้าหมายการปรับสุดท้ายมันจะสูงไป และเทียบเคียงกับดีเซลไม่ได้ แต่ยังมีเวลาคุยกัน จึงอยากปรึกษาหารือกัน รัฐบาลได้ตกลงกันว่าจะมีผู้แทนแท็กซี่มาร่วมเป็นคณะทำงาน ย้ำว่าคณะทำงานไม่ใช่คณะเจรจา จะอยู่ในคณะเดียวกัน ปลัดกระทรวงพลังงานจะเป็นประธาน จะมีอธิบดีกรมขนส่งทางบก และจะมีอธิบดีสำนักนโยบายและแผนพลังงาน ร่วมกันที่จะหารือกับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ ไม่ใช่เป็นการนั่งโต๊ะเจรจาคนละฝ่าย แต่จะนั่งคุยด้วยกัน” นายกิตติรัตน์กล่าว

นายกิตติรัตน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังจะมีการหารือกันเรื่องสถานีบริการ ถ้าจุดไหนน้อยเกินก็ช่วยกันคิด เพราะมีที่ดินของกรมธนารักษ์ ที่ดินหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจที่จะมาทำที่ในการให้บริการประชาชนได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ค่าโดยสารจะผลักภาระให้ประชาชนหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ค่าโดยสารยังถูกควบคุมอยู่ กรมการขนส่งทางบกดูแลอย่างใกล้ชิด ค่าโดยสารรถแท็กซี่ยังเท่าเดิม ค่าโดยสารรถร่วมก็ยังควบคุม การจะปรับค่าโดยสารต้องได้รับค่าเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก

เมื่อถามว่า ยืนยันว่าจะไม่มีการทบทวนมติใดๆ ทั้งสิ้น นายกิตติรัตน์กล่าวว่า เรื่องที่อาจสื่อสารไม่ชัดต้องสื่อสารกันให้ชัด พอสื่อสารชัดแล้วผู้ประกอบการก็เข้าใจ พอใจ การสื่อสารอาจไม่ใกล้ชิดมากนักจึงต้องมีคณะทำงานมานั่งคุยกัน เมื่อถามว่ากลุ่มรถขนส่งจะทำอย่างไรให้เปิดทาง นายกิตติรัตน์กล่าวว่า เวลาสื่อสารกัน ก็มีความเข้าใจระดับหนึ่งช่วงบ่ายจะหารือผู้ประกอบการที่ทำเนียบรัฐบาล คงมีความคืบหน้า

“ยืนยันว่าปัญหานี้ความจริงไม่ใช่เรื่องคุณขอมาแล้วเราไม่ยอม แต่มันเป็นเรื่องเดิม ซึ่งเข้าใจกันดี บางกลุ่มก็เข้าใจ หากตรงไหนไม่เข้าใจก็ให้คณะทำงานคุยกัน” นายกิตติรัตน์กล่าว

เมื่อถามว่าจะสลายการชุมนุมได้เมื่อไหร่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ตนมองในแง่ดีว่าเราได้ปรึกษากันซึ่งไม่มีใครแพ้ชนะ เรื่องนี้ได้ผ่านนโยบายพลังงาน ผ่านคณะรัฐมนตรี จะมีการปรับอะไรต้องให้คณะกรรมการภาครัฐ ภาคเอกชน พิจารณา พอนำมติเดิมมาคุยกันก็ไม่มีการต่อรองอะไร

เมื่อถามว่า ท่าทีนายกรัฐมนตรีเป็นอย่างไร นายกิตติรัตน์กล่าวว่า นายกฯ ก็โกรธที่สื่อสารไม่ชัดเจน ตนก็รับว่าส่วนไหนไม่ชัดก็จะสื่อสารให้ดี และเกิดความเข้าใจ นายกฯ กำชับให้พูดคุยกัน และมติคณะรัฐมนตรีได้คิดอย่างมีเหตุมีผล ก็ต้องอธิบายให้ผู้แทนผู้ประกอบการเข้าใจและร่วมกันคิด เมื่อถามว่า ไม่ใช่ว่านายกฯ สั่งให้ไม่ยอม นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ไม่ใช่ นายกฯยินดีรับฟังปัญหา

เมื่อถามว่า ราคารถแท็กซี่เริ่มต้น 50 บาท กิโลเมตรแรกถือว่าตกไปเลยหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกันเรื่องนี้ แต่ 4 เดือนแรกที่ราคาเอ็นจีวีนี้แท็กซี่จะใช้บัตรส่วนลดได้อยู่ ถ้าไม่คุยให้เข้าใจเดี๋ยวผู้โดยสารจะเดือดร้อนเร็ว หลายๆ ปีไม่ค่อยได้ปรับ เมื่อถามว่า หลัง 4 เดือน โอกาสปรับค่าแท็กซี่จะมีขึ้นหรือไม่ นายกิตติรัตน์กล่าวว่า ตนคิดว่าที่หารือกันไม่ได้เป็นการต่อรองอะไร
กำลังโหลดความคิดเห็น