“ธีระชัย” โอ่รัฐเก็บรายได้เข้าเป้า อ้างน้ำท่วม จำเป็นโอนหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ซุก แบงก์ชาติโดยเร็ว เพื่อกู้เงินเพิ่ม สร้างอนาคต เยียวยาประเทศเดินหน้า ยันไม่บีบให้พิมพ์แบงก์เพิ่ม ไม่กระทบวินัยการคลัง และเงินสำรองประเทศ
วันนี้ (4 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง รองประธานคณะกรรมาธิการชี้แจงว่า การจัดเก็บรายได้ 1.98 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมาย หลังจากเกิดปัญหาอุทุกภัย เป็นเรื่องท้าทาย สิ่งที่น่าสนใจ เมื่อดูการจัดเก็บจริง ในช่วงเดือน ต.ค.และ พ.ย.ในช่วง 2 เดือนแรกในการจัดการเก็บรายได้ประจำปี 2555 ยังเข้าตามเป้า รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้ได้ 2.6 แสนล้านบาท สูงกว่าที่ประมาณการไว้ 2.8 พันล้านบาท และคาดการณ์การนำส่งรายได้จากรัฐวิสาหกิจ 4.2 พันล้านบาท
นายธีระชัย กล่าวต่อว่า ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของผู้ประสบความเสียหาย ธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรม จะกลับคืนเข้ามาภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งในการจ่ายเงินชดเชยให้ประชาชนผู้เสียหาย ให้ธุรกิจนำเข้าเครื่องจักรในสถานประกอบการ และการจัดสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ จึงมั่นใจว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจปี 2555 จะอยู่ในอัตราที่สูง ทุกอย่างยังขยายตัวได้ร้อยละ 5 ตามที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนบริษัทที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนบริหาร และได้รับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ เพราะรัฐบาลยังเอื้ออำนวยให้บริษัทผลิตยานยนต์ที่ไม่สามารถผลิตรถได้ รัฐบาลก็ให้สามารถนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนได้ชั่วคราว จึงมั่นใจว่า ทำให้การจัดเก็บภาษีรถยนต์ได้รายได้ในอัตราเท่าเดิม
ส่วนที่มีความกังวลว่า รัฐบาลเตรียมแผนเอาหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ 1.1 ล้านล้านบาท ไปซุกไปหมกไว้ในบัญชีของ ธปท.เพื่อเอื้อให้รัฐบาลกู้ยืมเงินได้เพิ่มขึ้นนั้น นายธีระชัย กล่าวว่า เนื่องจากเกิดอุทกภัย เราจำเป็นต้องฟื้นฟู เยียวยา มีการลงทุนโครงสร้างพื้นที่ต่างๆ และในการจัดการน้ำ การส่งการจัดการพื้นที่และการผลิตในอุตสาหกรรม ซึ่งมันจะต้องมีการลงทุนเกิดขึ้น จึงจะไม่ปฏิเสธในระยะต่อไป รัฐบาลจำเป็นต้องมีการลงทุนเพื่อจัดการประเทศให้ดี คงใช้เงินจำนวนไม่น้อย อาจจำเป็นต้องกู้ยืนเงินเพิ่ม หากดำเนินการถูกต้อง เหมาะสม กู้เงินในระดับเหมาะสม เพื่อนำไปใช้กับรัฐบาลในการสร้างรายได้เพื่อให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน เชื่อมั่นจะทำให้การกู้เงินไม่เกิดความเสียหาย และเอาเงินกู้ไปลงทุนให้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ คุ้มค่าสังคม ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่เกิดการฉ้อราษฎร์บังหลวง ทุจริต คอร์รัปชัน
“แต่วันนี้ รัฐบาลจำเป็นเอาหนี้ไปซุกใน ธปท.เพราะอัตราหนี้ถือว่ายังต่ำมาก เมื่อเทียบกับประเทศเอเชีย และในยุโรป แต่ปัญหาหนี้ที่ค้างอยู่ที่เกี่ยวกองทุนฟื้นฟูฯ 1.1 ล้านล้านบาท จำเป็นต้องบริหารจัดการซึ่งหนี้ตรงนี้ ถ้าไม่จัดการปัญหาให้ดีจะสร้างภาระให้งบประมาณ ตลอดที่ผ่านมา รัฐบาลจะต้องหาเงินไปชำระดอกเบี้ยอีก ขอยืนยันว่า ไม่ใช่เป็นหนี้ ที่จะเอาไปซุกซ่อนใน ธปท.เพื่อบีบให้ ธปท.พิมพ์เงินขึ้นมา แต่รัฐบาลจำเป็นจะต้องเข้าไปบริหารหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯจำนวน 1.1 ล้านล้านบาทโดยเร็ว เพื่อให้สามารถบริหารประเทศต่อไป ซึ่งจะไม่เกิดปัญหาด้านวินัยทางการเงิน การคลัง รวมถึงจะไม่เป็นกระบวนการไปบีบ ธปท.ให้พิมพ์แบงก์ และส่งผลกระทบต่อเงินทุนสำรองของประเทศอย่างแน่นอน” รมว.คลัง กล่าว