xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ย้ำ ปกป้องสถาบันเต็มที่ เผยในหลวงทรงเมตตาไม่อยากเอาโทษใคร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” ดีใจผลโพลติดอันดับ 1 ซีอีโอภาครัฐ บอกเป็นเกียรติกับคนในกองทัพทุกคน และส่วนราชการอื่นที่ช่วยทำงาน ไม่กังวลสถานการณ์การเมือง วอนทุกคนช่วยกันทำให้ประเทศปลอดภัยเดินไปข้างหน้า ส่วนการละเมิดสถาบันกองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจ ถือเป็นหน้าที่ พร้อมเฝ้าระวังอยู่แล้ว ระบุ รัฐบาลใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ในการดำเนินการ เพื่อไม่ให้พระองค์เดือดร้อน เผยในหลวงทรงเมตตาไม่อยากเอาโทษกับใคร

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ให้สัมภาษณ์  

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงผลสำรวจเอแบคโพลล์ ที่ติด 1 ใน 5 สุดยอดซีอีโอ ของภาคราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐแห่งปี 2554 ว่า ดีใจตรงที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้เกียรติ และให้ความไว้วางใจกับทหาร ตนบอกแล้วว่า การทำอะไรต่างๆ ไม่ได้ทำด้วยตัวของตนเพียงคนเดียว ตนเป็นเพียงจัดระเบียบงานต่างๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ และทำให้เกิดประสิทธิผลโดยเร็ว สิ่งที่ทำไปแล้วนั้น ต่อให้เป็นซีอีโอ แต่หากไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ใต้บังคับบัญชาที่เป็นหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก และส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องทั้ง พลเรือน ตำรวจ รวมถึงภาคประชาชน และ ภาคประชาสังคม ซึ่งทั้ง 3-4 ส่วนไปช่วยทหารทำงาน อันนี้ถือเป็นตัวอย่างอันดีอันหนึ่งที่อยากจะเรียนว่าการทำงานอะไรก็ตามสิ่งที่จะต้องคำนึงถึง คือ การทำงานร่วมกันทุกคนจะต้องร่วมกันเสียสละ และมีจิตสาธารณะ จิตอาสาที่จะทำงาน และมุ่งประโยชน์ว่าจะเกิดที่ไหนอย่างไร โดยไม่ได้คำนึงถึงจะได้ชื่อเสียงหรือไม่ได้ชื่อเสียง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ผลโพลที่ได้รับในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเกียรติกับกองทัพทุกคนไม่ใช่ตนเพียงคนเดียว นอกจากนี้ อยากจะเฉลี่ยแบ่งไปให้คนอื่นด้วยคงไม่ใช่ทหารเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะมีบางส่วนไม่ได้กล่าวถึง หรืออาจจะมองไม่เห็นทั้งๆ ที่หนักหนาสาหัสเหมือนกับเรา แต่เผอิญว่ากองทัพมีกำลังพลเยอะ และมียุทโธปกรณ์มาก และมีสื่อประชาสัมพันธ์มาก จึงกลายเป็นว่าทหารทำดีที่สุด แต่ทุกอย่างอยากจะให้เฉลี่ยกันไป ทุกคนได้ที่หนึ่งเหมือนกันทั้งประเทศ แต่ถึงอย่างไรก็ขอบคุณ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองในปี 2555 หรือไม่ เพราะมีหลายฝ่ายกังวลว่าจะเกิดความรุนแรง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คงไม่ เรากังวลแบบนี้มาหลายปีจนมันไม่มีความสุข ฉะนั้น ทุกคนจะต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำให้ประเทศชาติปลอดภัยก้าวเดินไปข้างหน้าได้ และให้ประเทศชาติสามารถมีอำนาจ 3 อำนาจ คือ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และ อำนาจตุลาการ ได้ทำงานตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ และมีประชาชนเป็นคนตัดสินใจ แต่ทั้งหมดก็จะต้องอยู่กับขอบเขตในความถูกต้อง ความเหมาะสม ตนคิดว่า ทหารไม่มีบทบาทอะไรไปขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น เพราะว่าถ้าบ้านเมืองปกติสุขก็เป็นอำนาจของ 3 ฝ่าย ในการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ทหารก็จะทำตามหน้าที่ของทหาร

ผบ.ทบ.กล่าวว่า วันนี้มีหลายประการน่าเป็นห่วงทั้งปัญหาชายแดนปัญหาใต้ และปัญหาภัยพิบัติ ที่นับว่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ ตนกังวลในเรื่องนี้ดีกว่าจะไปกังวลในเรื่องที่ไม่ใช่หน้าที่ของตนตรงนี้ มันไม่ใช่เวลา แต่เป็นอำนาจของ 3 ฝ่าย ในการดำเนินการอยู่ ตนคิดว่า คนไทยทั้งประเทศเข้าใจ และทุกสื่อก็จะต้องช่วยกัน ทั้งนี้ เราได้ตกลงกับสื่อว่าปีใหม่เราคาดหวังว่าอะไรมันน่าจะดีในปีใหม่ปีนี้โดยให้พรกับตัวเอง และประเทศชาติ และข้อสำคัญคือถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแข็งแรงโดยเร็ว และ สถาบันปลอดภัย ประเทศชาติมั่นคงแข็งแรง ตอนนี้ต้องค่อยๆ ทำกันไปแก้กันไป

“หลักการของบ้านเมืองมีอยู่แล้วไม่มีใครเปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ เพราะว่าประเทศชาติเจริญเติบโตมาถึงวันนี้สถาบันพระมหากษัตริย์มีมา 700 กว่าปีแล้ว เราเจริญมานานมากพอสมควร ตนคิดว่าจะต้องมีการพัฒนาการไปตามโลกที่เป็นอยู่ แต่บ้านเมืองของเราก็จะต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะบ้านเมืองเรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีสถาบัน และคนไทยมีธรรมะ ส่วนใหญ่เป็นคนไทยพุทธ แม้ว่าจะมีศาสนาอื่นรวมอยู่ด้วย แต่ทุกคนก็อยู่อย่างมั่นคง และสิ่งที่น่าห่วงคือสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ เราพยายามทำอย่างเต็มที่แล้วในกรอบของรัฐบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) และ กองกำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.) และกระทรวง ทบวง กรม ก็ช่วยกันทำงานตลอด แต่ปัญหามันมีอยู่มากก็จะต้องช่วยกันปรับแก้กันไป

ประเด็นคือว่า มันใช้วิธีการทำให้คนบาดเจ็บเสียชีวิตแย่มาก และคนพวกนี้ผมคิดว่ามันอันตรายที่จะให้เขาใช้วิธีการแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เราจะต้องช่วยกันปกป้องชีวิตของคนไทยด้วยกันเองให้มากกว่านี้ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลครู วัด พระ และโรงเรียน หากปล่อยให้ทหารอย่างเดียวก็ไม่ได้ หรือใช้ทหารมากเกินไป ใช้กฎหมายมากเกินไป ก็จะถูกตอบโต้ในกระแสสังคม ในกระแสของสากลอีกเยอะแยะ มันมีหลายด้าน คิดด้านเดียวคงไมได้ เพราะวันนี้โลกมันไม่มีพรหมแดน โลกวันนี้เต็มไปด้วยโซเชียลมีเดีย ดังนั้น การแก้ไขปัญหาจะยากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นท่านในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนฐานันดรหนึ่งที่จะช่วยประเทศปลอดภัยได้ก็ขอร้องให้ช่วยนิดหนึ่ง และใครไม่ดีก็ประฌามคนไม่ดี คนดีก็ให้กำลังใจ ถ้าคนดีถูกทำร้ายไปเรื่อย ๆ และไม่ประฌามคนไม่ดี ประเทศก็อยู่ไม่ได้ในวันข้างหน้า”

ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่สบายใจ คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ที่กำลังจะถูกคุกคามจากนักวิชาการ หรือ คนกลุ่มหนึ่ง ในฐานะที่กองทัพดูแลปกป้องสถาบันจะดูแลอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า บทบาทของทหารก็เฝ้าดูอยู่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของอำนาจนิติบัญญัติดูอยู่ แต่ตนคิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ รับรู้ รับทราบแล้วว่าอะไรมันคืออะไร ประเด็นคือว่า จะต้องช่วยกันระมัดระวังให้พระองค์ท่าน ตราบใดถ้าเราดูความเหมาะควร

ทั้งนี้ ตนไม่อยากใช้คำว่าไปยุ่งกับมาตราโน้นมาตรานี้ มันเหมาะหรือไม่เหมาะตนไม่ทราบ แต่ในส่วนของทหารมันมีคำตอบของทหารอยู่แล้ว เพราะเราเป็นทหารมีหน้าที่โดยตรงอยู่แล้ว ถ้าถามทหารก็ตอบอย่างที่เคยตอบ ดังนั้นจะต้องไปถามคนอื่น แต่ถ้าคิดว่าประเทศไทยเป็นแบบนี้ แล้วเรามีสถาบันที่มีคุณประโยชน์กับเรามาตั้งแต่ยุคพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา และ ยาย เราจะดูแลท่านอย่างไรเมื่อถึงเวลาวันนี้ จะปล่อยให้ทหารดูแลคนเดียว หรือมันไม่ใช้ ทุกคนจะต้องออกมาช่วยดูแล แต่ทั้งหมดก็จะต้องเคารพในกติกาของบ้านเมือง ทั้งหมดจะต้องไปด้วยกันให้ได้เราจะใช้กำลังสู้กันอย่างเดียวก็มีแต่จะแย่กันไปทั้งประเทศ ดังนั้นทุกคนมีบทบาทที่จะทำอะไรตรงไหนก็มาช่วยกัน ออกมาแสดงตามรัฐธรรมนูญที่ได้กำหนดไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การพูดจา และการดำเนินการของกลุ่มคนเหล่านี้เริ่มหนักข้อขึ้นทุกวัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันผิดกฎหมายหรือเปล่า หรือผิดกฎหมายหรือยัง หากผิดกฎหมายเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการ และการใช้กฎหมายอย่างเดียวก็มีปัญหา แต่ขณะนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องก็พยายามใช้นิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในการดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ไม่ใช่พวกเรานิ่งนอนใจ หรือไม่ใช่เราไม่ยืนหยัดในการรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่พูดไปก็ขัดแย้งกันมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ก็จะต้องดูว่าใครออกมาพูด พูดแล้วได้ประโยชน์กับประชาชน ประเทศชาติหรือไม่ ถ้าไม่ได้กระบวนการก็มีอยู่แล้วว่าจะแก้ด้วยวิธีไหน ถ้าทุกคนไม่เห็นด้วยมันก็แก้ไม่ได้

ส่วนรัฐบาลจะต้องเข็มแข็งในการดูแลเรื่องนี้หรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็พยายามอยู่แล้ว ตนบอกแล้วว่าจะต้องใช้หลักนิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ จะใช้หลักนิติศาสตร์อย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะจะทำพระองค์ท่านเดือดร้อนเหมือนกัน พระองค์ท่านทรงรับสั่งว่าเวลาคนที่มีปัญหาก็ถึงพระองค์อยู่ดี ดังนั้นพวกเราจะต้องช่วยกันว่าทำอย่างไรถึงไม่มีคนไปละเมิด ส่วนจะมีโทษอย่างไรก็ว่าอีกที

“จริงๆ แล้วพระองค์ท่านมีพระเมตตาอยู่แล้ว ไม่อยากมีโทษกับใครทั้งสิ้น ดังนั้น เราจะต้องช่วยกัน ถ้าเราคนนี้ชอบทำแบบนี้อยู่และยังไปคบค้าสมาคมด้วยก็ไม่ดีก็ต้องเลิกคบค้าไปเพราะเราไม่ชอบคนพวกนี้ เราไม่ชอบใครที่ทำไม่ดีก็อย่าไปคบเขาก็เท่านั้นแต่หากยังคบอยู่แล้วจะแก้ไขอย่างไร จะเอาตำรวจไปจับหรือ มันไม่ใช่ ถ้าใครที่เป็นคนไม่ดีที่ทำให้ประเทศชาติเสียหายก็อย่าไปคบ แต่ตัวเราจะต้องดีพอถึงจะไปตัดสินว่าคนนั้นดีหรือไม่ดี อย่าตัดสินด้วยความไม่ชอบหน้า แต่จะต้องตัดสินว่าดีหรือไม่ดี หากไม่ดีก็อย่าไปคบ ถ้าทุกคนไม่คบเขามาก ๆ แล้วเขาจะไปคบกับใคร หรือจะไปทำอะไรได้ เขาก็ไม่มีน้ำหนัก ไม่มีพลังที่จะไปทำในสิ่งที่ไม่ดีต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น