ศูนย์ข่าวศรีราชา -เสร็จสิ้นภารกิจหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดในน่านน้ำอ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย ของกองทัพเรือไทย หลังปฏิบัติภารกิจอันยาวนาน 140 วัน สร้างชื่อและเกียรติยศสู่ประเทศ เดินทางกลับสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของครอบครัว และเพื่อนทหาร ผบ.ทหารสูงสุด จัดพิธีต้อนรับเหล่านักรบอย่างสมเกียรติ
วันนี้ (28 พ.ย.) พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประการ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีต้อนรับ เรือหลวงสิมิลัน และเรือหลวงนราธิวาส พร้อมกำลังพลหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ชุดที่ 2 ซึ่งเสร็จสิ้นภารกิจการปฏิบัติราชการเดินทางเข้าร่วมกองกำลังผสมทางเรือนานาชาติ ในการปราบปรามโจรสลัดบนน่านน้ำอ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย เมืองซาลาล่าห์รัฐสุลต่านโอมาน ณ ท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะนายทหารระดับสูง ตลอดจน ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภารเอกชน ประชาชน และครอบครัวข้าราชการ ที่เดินทางเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ อย่างสมเกียรติ และอบอุ่น ท่ามกลางบรรยากาศของเหล่าบรรดาญาติ พี่น้อง โดยเฉพาะภรรยาและบุตร ที่มาตั้งตารอผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว กลับคืนสู่อ้อมกอด หลังเดินทางนับเดินทางนับหมื่นไมล์ทะเล ในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเพื่อประเทศชาติ
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประการ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนาย ที่ได้สร้างเกียรติ และผลงานที่นับเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทย ในการเดินทางเข้าร่วมกับกำลังผสมทางเรือนานาชาติเป็นครั้งที่ 2 เพื่อปกป้องเรือสินค้าให้พ้นจากการถูกปล้นของเหล่าโจรสลัดโซมาเลีย ในภารกิจครั้งนี้ ส่งผลให้กองทัพเรือไทยเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก ถึงศักยภาพและขีดความสามารถ รวมถึงได้แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับนานาประเทศ เพื่อรักษาความสงบ และสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น ทั้งนี้ ผลสำเร็จจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และสนับสนุนงบประมาณในการไปปฏิบัติภารกิจครั้งนี้จนสำเร็จลุล่วง
สำหรับการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจปราบโจรสลัดในน่านน้ำอ่าวเอเดน และชายฝั่งโซมาเลีย ครั้งที่ 2 กองทัพเรือ ได้จัดมอบหมายให้ เรือหลวงสิมิลัน ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือ ปฏิบัติการร่วมกับ เรือหลวงนราธิวาส ซึ่งเป็นเขี้ยวเล็บที่มีสมรรถนะด้านการรบสูงสุด พร้อมเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง แบบ เบลล์ 212 ชุดซีลทีม จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ และกำลังพลหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด จำนวน 368 นาย โดยมี พลเรือตรี ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ เป็นผู้บังคับหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด และนาวาเอก ภราดร พวงแก้ว เป็นผู้บังคับหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัด โดยมีห้วงระยะเวลาในการปฏิบัติภารกิจจำนวน 140 วัน
โดยในภารกิจครั้งนี้ หมู่เรือปราบปรามโจรสลัด ได้ทำการลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบ รวม 6 ครั้ง สามารถคุ้มครองเรือสินค้าให้ปลอดภัยจากการคุกคามของโจรสลัด จำนวน 830 ลำ สามารถสกัดกั้นการกระทำอันเป็นโจรสลัด จำนวน 1 ครั้ง และช่วยเหลือเรือที่ประสบภัยในทะเล จำนวน 1 ครั้ง นอกจากนี้ หน่วยเรือยังได้ปฏิบัติการอิสระในพื้นที่ (National Tasking ) รวม 10 ครั้ง คุ้มครองเรือในพื้นที่รับผิดชอบ จำนวน 42 ลำ 16 สัญชาติ ในจำนวนนี้ เป็นเรือสินค้าไทย จำนวน 2 ลำ คือ เรือ MV THOR HRMONY และ เรือ MV TROR FRIENDSHIP และให้ห้วงการปฏิบัติภารกิจไม่มีเรือสินค้า และเรือประมงไทยถูกปล้นยึดโดยโจรสลัด
และหนึ่งในภารกิจซึ่งเป็นผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพเรือไทยนี้ เกิดขึ้นในวันที่ 23 สิงหาคม 2554 เวลา 09.25 น.(ตรงกับเวลาในประเทศไทย 12.30 น.) เรือหลวงสิมิลัน ได้เข้าช่วยเหลือเรือสินค้าชื่อ MSC NAMIBIA II มีขนาด 24,000 ตัน สัญชาติ ไลบีเรีย ขณะกำลังแล่นเรือออกจากปากอ่าวเอเดน และถูกโจรสลัด จำนวน 6 คน โจมตีโดยเรือ SKIFF และทำการยิงจรวด RPG เข้าใส่ทางกราบขวา-ซ้าย แต่เกิดระเบิดในอากาศ ก่อนจะยิงใส่ด้วยกระสินปืนเล็ก ผู้บังคับหน่วยเรือปราบปรามโจรสลัด จึงสั่งการให้ เฮลิคอปเตอร์ แบบ BELL 212 บินขึ้นยังจุดเกิดเหตุ เพื่อขัดขวางการโจมตี ทำให้เรือโจรสลัดล่าถอยแล่นหนีไปทางทิศใต้ทางฝั่งโซมาเลีย จึงทำการบินกดดันจนเรือหยุดเครื่อง ขณะเดียวกัน กองกำลังผสมนานาชาติทางทะเล ได้สั่งการให้ เรือ USS HOWARD ส่ง เฮลิคอปเตอร์ 1 ลำ เข้าตรวจสอบและตรวจค้นเรือโจรสลัด หลังจากนั้น เรือหลวงสิมิลัน จึงสั่งการให้ เฮลิคอปเตอร์ แบบ BELL 212 บินคุ้มกันเรือสินค้าลำดังกล่าวจนพ้นพื้นที่รับผิดชอบ ต่อมาในเวลา 13.51 น. เรือสินค้า MSC NAMIBIA II ได้ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ขอบคุณทหารเรือไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพบรรยากาศในวันนี้ เต็มไปด้วยความปราบปลื้มปีติของเหล่าครอบครัว และเครือญาติที่มาตั้งตารอการกลับมาของเหล่านักรบปราบปรามโจรสลัด โดยเฉพาะ น.ส.นงนุช โตไธสง อายุ 30 ปี สาวแม่ลูกอ่อน ที่อุ้ม ด.ช.กิติพันธ์ โตไธสง หรือน้องปรองปราม วัยเพียง 2 เดือน ยืนรอการกลับมาของสามี คือ จ่าเอก เฉลิม น้อยแก้ว อายุ 32 ปี หนึ่งในนักรบหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด โดยเปิดใจว่า รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ผู้เป็นพ่อ ที่ได้จากไปปฏิบัติภารกิจ ขณะตั้งท้องได้เพียง 7 เดือน จะได้เห็นหน้า