ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เจ้าหน้าที่ชายแดนใต้สนธิกำลัง 3 ฝ่ายรักษาความปลอดภัยครู นักเรียน พร้อมตรึงกำลังในโรงเรียนพื้นที่เสี่ยงป้องกันกลุ่มคนร้ายป่วน หลังพบสถิติคนร้ายมักฉวยโอกาสลอบกัดก่อเหตุในช่วงวันเปิดเทอมวันแรกเป็นพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1พ.ย.) ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2554 เป็นวันแรกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในพื้นที่ จ.ยะลา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ปกครองต่างทยอยส่งบุตรหลานไปโรงเรียนกันตั้งแต่เช้า ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยครูยังมีการนัดหมายให้ครูมารวมตัวกันตามที่จุดนัดพบต่างๆ ตามที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และครูได้มีการประชุมตามข้อตกลงในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ก่อนหน้านี้
ส่วนพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้ประสานการปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยตามแผนการรักษาความปลอดภัยที่ประชุมหารือร่วมกัน ซึ่งในการเดินทางของคณะครูแต่ละเส้นทาง และแต่ละอำเภอจะมีเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นทีรับผิดชอบนั้นๆ ให้การดูแลรักษาความปลอดภัย นำส่งคณะครูไปจนถึงโรงเรียนและจะมีเจ้าหน้าที่ทหารอีก 1 ชุดคอยดูแลรักษาความปลอดภัยร่วมกับ ชรบ.ซึ่งสร้างความอุ่นใจให้แก่คณะครูและนักเรียนได้ในระดับหนึ่ง
ส่วน จ.ปัตตานี ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้กระจายกำลังเฝ้าดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั้งลาดตระเวนตามเส้นทางทุกสายที่เป็นเส้นทางเดินทางไปโรงเรียน และวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามถนนเพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุ ส่วนคณะครูต่างพร้อมใจกันเดินทางมายังจุดนัดพบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดกำลังเดินทางไปส่งตามโรงเรียนอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ภายในโรงเรียนทุกแห่งก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เฝ้าดูแลความปลอดภัยครูและนักเรียนตลอดทั้งวันด้วย
ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามอำเภอต่างๆ ทางผู้บังคับบัญชาทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง มีการจัดกำลังเพิ่มเป็นพิเศษ โดยจัดชุดลาดตระเวนเส้นทางทุกๆ 1 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีการประสานไปยังชุมชนให้คอยเห็นหูเป็นตา หากพบสิ่งผิดปกติในพื้นที่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์ร้ายใดๆ เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน บรรยากาศการเปิดเทอมวันแรกในโรงเรียนทั้ง 369 โรงที่ขึ้นตรงต่อสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาทั้งเขต 1, 2 และ 3 เขต ในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส พบว่าในช่วงเช้าได้มีกองกำลังผสมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกระจายกำลังกันรักษาความปลอดภัยโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวดเช่นกัน โดยเฉพาะการจัดกำลังรับและส่งคณะครู รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกผู้ปกครองส่งบุตรหลานเดินทางมาเรียนหนังสือตามเส้นทางต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะ 5 อำเภอคือ ศรีสาคร รือเสาะ เจาะไอร้อง จะแนะ และระแงะ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.ยังช่วยดูแลความปลอดภัยภายในเขตโรงเรียนด้วย เพื่อสกัดกั้นและป้องกันกลุ่มคนร้ายไม่ให้ฉวยโอกาสแฝงตัว เพื่อลอบก่อเหตุร้ายเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตามถนนสายหลักและสายรองใน จ.นราธิวาส ยังมีตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในแต่ละพื้นที่อำเภอกระจายกำลังกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อคอยตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมถึงยานพาหนะทุกชนิดที่สัญจรไปมา เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ไม่หวังดีลอบก่อเหตุร้ายในอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ประเมินและพบว่าในช่วงที่โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนวันแรก กลุ่มคนร้ายมุ่งที่จะปฏิบัติการณ์ทุกวิถีทางเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการประกาศหยุดการเรียนการสอนของโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเดินทาง รปภ.ครู เพื่อเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของครู ให้เกิดความหวาดกลัวที่ขยายผลไปสู่การประกาศปิดการเรียนการสอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (1พ.ย.) ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2554 เป็นวันแรกในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในพื้นที่ จ.ยะลา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ปกครองต่างทยอยส่งบุตรหลานไปโรงเรียนกันตั้งแต่เช้า ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยครูยังมีการนัดหมายให้ครูมารวมตัวกันตามที่จุดนัดพบต่างๆ ตามที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ และครูได้มีการประชุมตามข้อตกลงในมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ก่อนหน้านี้
ส่วนพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน (ชรบ.) ได้ประสานการปฏิบัติในการดูแลความปลอดภัยตามแผนการรักษาความปลอดภัยที่ประชุมหารือร่วมกัน ซึ่งในการเดินทางของคณะครูแต่ละเส้นทาง และแต่ละอำเภอจะมีเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นทีรับผิดชอบนั้นๆ ให้การดูแลรักษาความปลอดภัย นำส่งคณะครูไปจนถึงโรงเรียนและจะมีเจ้าหน้าที่ทหารอีก 1 ชุดคอยดูแลรักษาความปลอดภัยร่วมกับ ชรบ.ซึ่งสร้างความอุ่นใจให้แก่คณะครูและนักเรียนได้ในระดับหนึ่ง
ส่วน จ.ปัตตานี ตั้งแต่ช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้กระจายกำลังเฝ้าดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั้งลาดตระเวนตามเส้นทางทุกสายที่เป็นเส้นทางเดินทางไปโรงเรียน และวางกำลังเจ้าหน้าที่ตามถนนเพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุ ส่วนคณะครูต่างพร้อมใจกันเดินทางมายังจุดนัดพบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดกำลังเดินทางไปส่งตามโรงเรียนอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ภายในโรงเรียนทุกแห่งก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เฝ้าดูแลความปลอดภัยครูและนักเรียนตลอดทั้งวันด้วย
ส่วนโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยตามอำเภอต่างๆ ทางผู้บังคับบัญชาทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง มีการจัดกำลังเพิ่มเป็นพิเศษ โดยจัดชุดลาดตระเวนเส้นทางทุกๆ 1 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีการประสานไปยังชุมชนให้คอยเห็นหูเป็นตา หากพบสิ่งผิดปกติในพื้นที่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์ร้ายใดๆ เกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน บรรยากาศการเปิดเทอมวันแรกในโรงเรียนทั้ง 369 โรงที่ขึ้นตรงต่อสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาทั้งเขต 1, 2 และ 3 เขต ในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส พบว่าในช่วงเช้าได้มีกองกำลังผสมตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองกระจายกำลังกันรักษาความปลอดภัยโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเข้มงวดเช่นกัน โดยเฉพาะการจัดกำลังรับและส่งคณะครู รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกผู้ปกครองส่งบุตรหลานเดินทางมาเรียนหนังสือตามเส้นทางต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะ 5 อำเภอคือ ศรีสาคร รือเสาะ เจาะไอร้อง จะแนะ และระแงะ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุด ชรบ.ยังช่วยดูแลความปลอดภัยภายในเขตโรงเรียนด้วย เพื่อสกัดกั้นและป้องกันกลุ่มคนร้ายไม่ให้ฉวยโอกาสแฝงตัว เพื่อลอบก่อเหตุร้ายเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ตามถนนสายหลักและสายรองใน จ.นราธิวาส ยังมีตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในแต่ละพื้นที่อำเภอกระจายกำลังกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อคอยตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมถึงยานพาหนะทุกชนิดที่สัญจรไปมา เพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ไม่หวังดีลอบก่อเหตุร้ายในอีกทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ประเมินและพบว่าในช่วงที่โรงเรียนเปิดทำการเรียนการสอนวันแรก กลุ่มคนร้ายมุ่งที่จะปฏิบัติการณ์ทุกวิถีทางเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการประกาศหยุดการเรียนการสอนของโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่ขณะเดินทาง รปภ.ครู เพื่อเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของครู ให้เกิดความหวาดกลัวที่ขยายผลไปสู่การประกาศปิดการเรียนการสอน
