นราธิวาส - ทหารถกเครียด 3 ฝ่ายปิดช่องโหว่โจรใต้ป่วนเปิดเทอม พบ 11 โรงเรียนในเขตเมืองมีความเสี่ยงสูง ก่อนนำ 5 มาตรการหลักปรับใช้อย่างเข้มข้น
วันนี้ (12 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมฐานปฏิบัติการณ์ ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 33 อ.เมือง จ.นราธิวาส น.ท.วิรัตน์ ตะโจปะรัง ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 เรียกประชุมเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ทหาร ฉกนราธิวาส 33 ในแต่ละกองร้อย ตัวแทนจาก ฉก.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 สภ.คือ สภ.เมือง สภ.โคกเคียนและ สภ.ตันหยง และฝ่ายปกครองรวมกว่า 20 นาย ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 7 ตำบลของ อ.เมืองนราธิวาส ได้แก่ ต.บางนาค โคกเคียน มะนังตายอ ลำภู กะลุวอเหนือ กะลุวอและบางปอ เพื่อหามาตรการในการ รปภ.ครู ช่วงเปิดเทอมในวันที่ 18 พ.ค.54 ที่จะถึงนี้ โดยเป็นการประชุมลับและเป็นไปอย่างเคร่งเครียดกว่า 4 ชั่วโมง
โดยพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส มีโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 รวม 152 โรง จำนวนครูทั้งหมด 933 คน และพบว่ามีโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและล่อแหลมต่อการก่อเหตุร้ายจากกลุ่มก่อความไม่สงบ จำนวน 11 โรง อาทิ โรงเรียนบ้านโต๊ะนอ โรงเรียนบ้านจูดแดง โรงเรียนบ้านโคกสุมุและโรงเรียนบ้านตะโล๊ะแน็ง ซึ่งในปีที่ผ่านๆมา กลุ่มผู้ไม่หวังดีได้พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายขวัญของข้าราชการครูมาแล้วหลายครั้ง
ขณะเดียวกันทางด้าน น.ท.วิรัตน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 ย้ำว่า สำหรับมาตรการที่ได้วางกรอบไว้และนำไปปฏิบัติได้ผลเป็นอย่างดีในเทอมที่ผ่านมา ขอให้กองกำลังทุกนายซึ่งต้องมีการบูรณาการร่วมกัน โดยไม่แยกกลุ่มแยกหน่วยนำไปปรับใช้ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งต้องมีการศึกษาทั้งรูปแบบและสภาพแวดล้อมอย่างชัดเจนก่อนลงมือปฏิบัติ โดยยึดหลัก 5 แนวทางที่ต้องใช้กำลังแต่ละชุดจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการสนธิกันทั้งในจุดรวมพล ระหว่างเส้นทางลาดตระเวน ช่วงเวลาการส่งครูไปโรงเรียน ระหว่างทำการเรียนการสอน รวมทั้งคุ้มครองเป็นรายบุคคลถ้าหากมีการร้องขอ
ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 กล่าวว่า ช่วงอันตรายคือเวลา 07.00-09.00 น.และ 14.30-16.30 น.อย่างไรก็ตามกำลังทุกนายต้องไม่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่เด็ดขาด โดยเฉพาะการประสานหากครูแต่ละคนจะมีภารกิจส่วนตัวนอกเวลาที่ต้องใช้เส้นทางทั้งสายหลัก 8 สายและสายรอง 7 สาย ต้องจัดหน่วยจรยุทธ์ในจุดที่ล่อแหลมตลอดทั้งวันตามแผนพิทักษ์เมืองนราฯ โดยจากการประเมินพบว่าช่วงเปิดเทอมนี้ เขตเทศบาลเมืองเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าเป็นห่วง จะมีเพียงรอบนอกที่ต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น
วันนี้ (12 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมฐานปฏิบัติการณ์ ชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 33 อ.เมือง จ.นราธิวาส น.ท.วิรัตน์ ตะโจปะรัง ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 เรียกประชุมเจ้าหน้าที่กองกำลังผสม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ทหาร ฉกนราธิวาส 33 ในแต่ละกองร้อย ตัวแทนจาก ฉก.นราธิวาส รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 สภ.คือ สภ.เมือง สภ.โคกเคียนและ สภ.ตันหยง และฝ่ายปกครองรวมกว่า 20 นาย ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 7 ตำบลของ อ.เมืองนราธิวาส ได้แก่ ต.บางนาค โคกเคียน มะนังตายอ ลำภู กะลุวอเหนือ กะลุวอและบางปอ เพื่อหามาตรการในการ รปภ.ครู ช่วงเปิดเทอมในวันที่ 18 พ.ค.54 ที่จะถึงนี้ โดยเป็นการประชุมลับและเป็นไปอย่างเคร่งเครียดกว่า 4 ชั่วโมง
โดยพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส มีโรงเรียนที่อยู่ในสังกัดของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 1 รวม 152 โรง จำนวนครูทั้งหมด 933 คน และพบว่ามีโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงและล่อแหลมต่อการก่อเหตุร้ายจากกลุ่มก่อความไม่สงบ จำนวน 11 โรง อาทิ โรงเรียนบ้านโต๊ะนอ โรงเรียนบ้านจูดแดง โรงเรียนบ้านโคกสุมุและโรงเรียนบ้านตะโล๊ะแน็ง ซึ่งในปีที่ผ่านๆมา กลุ่มผู้ไม่หวังดีได้พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อทำลายขวัญของข้าราชการครูมาแล้วหลายครั้ง
ขณะเดียวกันทางด้าน น.ท.วิรัตน์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 ย้ำว่า สำหรับมาตรการที่ได้วางกรอบไว้และนำไปปฏิบัติได้ผลเป็นอย่างดีในเทอมที่ผ่านมา ขอให้กองกำลังทุกนายซึ่งต้องมีการบูรณาการร่วมกัน โดยไม่แยกกลุ่มแยกหน่วยนำไปปรับใช้ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งต้องมีการศึกษาทั้งรูปแบบและสภาพแวดล้อมอย่างชัดเจนก่อนลงมือปฏิบัติ โดยยึดหลัก 5 แนวทางที่ต้องใช้กำลังแต่ละชุดจำนวน 1 ชุดปฏิบัติการสนธิกันทั้งในจุดรวมพล ระหว่างเส้นทางลาดตระเวน ช่วงเวลาการส่งครูไปโรงเรียน ระหว่างทำการเรียนการสอน รวมทั้งคุ้มครองเป็นรายบุคคลถ้าหากมีการร้องขอ
ผบ.ฉก.นราธิวาส 33 กล่าวว่า ช่วงอันตรายคือเวลา 07.00-09.00 น.และ 14.30-16.30 น.อย่างไรก็ตามกำลังทุกนายต้องไม่ปล่อยให้เกิดช่องโหว่เด็ดขาด โดยเฉพาะการประสานหากครูแต่ละคนจะมีภารกิจส่วนตัวนอกเวลาที่ต้องใช้เส้นทางทั้งสายหลัก 8 สายและสายรอง 7 สาย ต้องจัดหน่วยจรยุทธ์ในจุดที่ล่อแหลมตลอดทั้งวันตามแผนพิทักษ์เมืองนราฯ โดยจากการประเมินพบว่าช่วงเปิดเทอมนี้ เขตเทศบาลเมืองเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าเป็นห่วง จะมีเพียงรอบนอกที่ต้องเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น
