นราธิวาส - ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส สั่งปรับแผนกองกำลัง 2 อำเภอ รับมือโจรใต้หวั่นก่อเหตุป่วนสงกรานต์ ระบุเตรียมเพิ่มรับอัตรา อส.อำเภอละ 400 นาย เพื่อเป็นหน่วยรบ ช่วยตำรวจ ทหาร
วันนี้ (13 เม.ย.) ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.นราธิวาส นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จ.นราธิวาส ได้เรียกประชุมด่วนกองกำลังผสม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่รับผิดชอบในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมืองและ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง และล่อแหลมต่อการก่อเหตุจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี
เพื่อปรับแผนรับมือโจรใต้หลังได้รับรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ว่า แกนนำและแนวร่วมมีการซ่องสุมประชุมวางแผนเตรียมก่อเหตุร้ายป่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เพื่อทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาสที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศมาเลเซียเดินทางมาร่วมฉลองวันปีใหม่ของไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ อ.สุไหงโก-ลกที่มีพรมแดนติดต่อกัน และมีการเล่นน้ำสงกรานต์กันทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะย่านสถานบันเทิงต่างๆ
โดยการประชุมมี พ.อ.สมพล ปานกุล รอง ผอ.กอ.รมน.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ ปลัด จ.นราธิวาส นายสุรชัย ชวาลารัตน์ นายอำเภอเมืองนราธิวาส พ.ท.วิวัฒน์ หงส์บันดาลสุข ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครรักษาดินแดนประจำที่ว่าการอำเภอเมืองและสุไหงโก-ลก รวมกว่า 40 นาย เข้าร่วมประชุมลับอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง
ซึ่งที่ประชุม นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งปรับแผนอย่างเร่งด่วน โดยให้เพิ่มกำลังของ อส.ทั้ง 2 อำเภอจากที่มีอยู่แล้วอำเภอละ 200 นาย เป็นเท่าตัว โดยทั้ง 3 จังหวัด คือ จ.นราธิวาส จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี จัดสรรโควตาสำหรับอัตรากำลังพล อส.เพิ่มรวมเป็น 6 อำเภอให้ครบตามจำนวนอำเภอละ 400 นาย เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัด ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังพลที่มีอยู่ซึ่งถือว่าเป็นภาคประชาชนที่สมัครใจเข้ามาร่วมมือกับทางการไม่เพียงพอกับการเฝ้าระวัง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนที่เข้ามาเป็น อส.ต้องมีความพร้อมที่จะรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร ตำรวจเช่นกัน จึงเป็นหน้าที่ของทหารที่ต้องฝึกฝนให้ อส.มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญยุทธวิธีการรบตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนที่ทหารจะต้องถอนตัวออกจากเขตชุมชนไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่เป็นป่าเขาแทน ซึ่งในสถานการณ์เร่งด่วนขณะนี้ที่กำลังพลยังขาดแคลน ขอให้ อส.ทุกนายที่มีอยู่ผนึกกำลังกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยอย่างเต็มกำลังคุมเข้มทุกตารางนิ้วโดยเฉพาะย่านการค้าและสถานบันเทิง โดยไม่เปิดช่องโหว่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุร้ายได้
อย่างไรก็ตามปัญหาที่ได้รับทราบขณะนี้คือ เรื่องของโรงนอนของ อส.ที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งทาง จ.นราธิวาสได้ขออนุมัติงบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย จำนวน 7 ล้านบาท มาใช้ในการจัดสร้างที่พักให้รองรับกำลังพลที่จะเพิ่มขึ้นแล้วด้วย
วันนี้ (13 เม.ย.) ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.นราธิวาส นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จ.นราธิวาส ได้เรียกประชุมด่วนกองกำลังผสม 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่รับผิดชอบในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อ.เมืองและ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง และล่อแหลมต่อการก่อเหตุจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี
เพื่อปรับแผนรับมือโจรใต้หลังได้รับรายงานจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ว่า แกนนำและแนวร่วมมีการซ่องสุมประชุมวางแผนเตรียมก่อเหตุร้ายป่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ เพื่อทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของ จ.นราธิวาสที่มีนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน คือประเทศมาเลเซียเดินทางมาร่วมฉลองวันปีใหม่ของไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ อ.สุไหงโก-ลกที่มีพรมแดนติดต่อกัน และมีการเล่นน้ำสงกรานต์กันทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะย่านสถานบันเทิงต่างๆ
โดยการประชุมมี พ.อ.สมพล ปานกุล รอง ผอ.กอ.รมน.จ.นราธิวาส พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาส นายอมรเศรษฐ์ สุวรรณมาศ ปลัด จ.นราธิวาส นายสุรชัย ชวาลารัตน์ นายอำเภอเมืองนราธิวาส พ.ท.วิวัฒน์ หงส์บันดาลสุข ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร และอาสาสมัครรักษาดินแดนประจำที่ว่าการอำเภอเมืองและสุไหงโก-ลก รวมกว่า 40 นาย เข้าร่วมประชุมลับอย่างเคร่งเครียดเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง
ซึ่งที่ประชุม นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งปรับแผนอย่างเร่งด่วน โดยให้เพิ่มกำลังของ อส.ทั้ง 2 อำเภอจากที่มีอยู่แล้วอำเภอละ 200 นาย เป็นเท่าตัว โดยทั้ง 3 จังหวัด คือ จ.นราธิวาส จ.ยะลา และ จ.ปัตตานี จัดสรรโควตาสำหรับอัตรากำลังพล อส.เพิ่มรวมเป็น 6 อำเภอให้ครบตามจำนวนอำเภอละ 400 นาย เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัด ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กำลังพลที่มีอยู่ซึ่งถือว่าเป็นภาคประชาชนที่สมัครใจเข้ามาร่วมมือกับทางการไม่เพียงพอกับการเฝ้าระวัง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกคนที่เข้ามาเป็น อส.ต้องมีความพร้อมที่จะรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหาร ตำรวจเช่นกัน จึงเป็นหน้าที่ของทหารที่ต้องฝึกฝนให้ อส.มีความเชี่ยวชาญ และชำนาญยุทธวิธีการรบตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนที่ทหารจะต้องถอนตัวออกจากเขตชุมชนไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่เป็นป่าเขาแทน ซึ่งในสถานการณ์เร่งด่วนขณะนี้ที่กำลังพลยังขาดแคลน ขอให้ อส.ทุกนายที่มีอยู่ผนึกกำลังกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยอย่างเต็มกำลังคุมเข้มทุกตารางนิ้วโดยเฉพาะย่านการค้าและสถานบันเทิง โดยไม่เปิดช่องโหว่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุร้ายได้
อย่างไรก็ตามปัญหาที่ได้รับทราบขณะนี้คือ เรื่องของโรงนอนของ อส.ที่ยังไม่เพียงพอ ซึ่งทาง จ.นราธิวาสได้ขออนุมัติงบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย จำนวน 7 ล้านบาท มาใช้ในการจัดสร้างที่พักให้รองรับกำลังพลที่จะเพิ่มขึ้นแล้วด้วย