ก.ต.ช.เผยตำรวจขาดแคลน 1.5 หมื่นอัตรา ชี้ภาคใต้วิกฤตสุดต้องการเป็นพัน ผ่านเกณฑ์แค่ 18 คน เตรียมยกเว้นระเบียบ เปิดช่องพิเศษรับวุฒิตำกว่าปริญญาตรี สอบเข้าตำรวจได้ “ปู” สบช่องตบหน้า “มาร์ค” สั่งรื้อโครงสร้างย้ายตำรวจออกจาก 3 จว.ชายแดนใต้ได้
วันนี้ 26 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) แหล่งข่าวที่ประชุม ก.ต.ช.เปิดเผยว่า ที่ประชุม ก.ต.ช.ได้มีการพิจารณาถึงการเปิดสอบข้าราชการตำรวจในอัตราพิเศษ ที่เดิมเปิดให้ผู้จบปริญญาตรีสอบเข้าตำรวจ หากสอบได้จะอบรม 3 เดือน ซึ่งจะได้ยศสิบตำรวจตรี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นการเกษียณอายุราชการกับการเข้ารับราชการไม่สมดุลกัน ตำรวจที่ปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ส่วนใหญ่อายุมากแล้ว เพราะเริ่มรับอายุเฉลี่ยประมาณ 27 ปี ถือว่ามาก มีบางคนพูดถึงขนาดว่าเข้ามาก็แก่เลย เพราะฉะนั้น จึงอยากจะขอยกเว้นระเบียบข้าราชการตำรวจในส่วนของการรับราชการตำรวจว่า ขอในช่วงหนึ่งปีนี้ ขอรับต่ำกว่าปริญญาตรี ซึ่งหมายถึงผู้ที่จบ ม.6 ปวช. ปวส. สามารถเข้ารับราชการตำรวจได้ แต่ทาง สตช.จะขอปรับเงื่อนไข โดยจะรับบุคลากรภายนอกโรงเรียนตำรวจ ซึ่งยศจะเริ่มที่สิบตำรวจตรี ที่จะมียศตำกว่าปริญญาตรี เมื่อสอบได้จะได้รับการบรรจุก็จะมีการฝึกอบรม 1 ปี
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้ที่จบปริญญาตรีแล้วมาสมัครเป็นข้าราชการตำรวจ ถ้าอายุ 27 ปีแล้วก็จะไม่เอาอะไรแล้ว เลยไม่มีจิตวิญญาณของการเป็นตำรวจ บางคนรอเพื่อจะสอบเป็นนายร้อย ทำให้ในช่วงเวลานั้นไม่เป็นอันทำงาน ส่วนใหญ่จะใช้เวลาอ่านหนังสือสอบ บางคนยังมีเวลาไปเรียนปริญญาโท และไม่เชื่อฟังผู้บังคับบัญชา เพราะคิดว่าวันหนึ่งตัวเองก็จะเป็นนายร้อยทำให้ขาดวินัยไม่เคารพเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา ซึ่งตอนนี้ตำรวจขาดแคลนอยู่ประมาณ 15,000 อัตรา แต่ใน 3 ปีจะขาดแคลนถึง 60,000 ถ้าไม่ทำอะไรเลย อย่างเช่นภาคใต้ต้องการ 1,000 อัตราแต่มาสมัครเพียงแค่ 200 และใน 200 นี้ผ่านแค่ 18 คน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้ช่องทางนี้ในการที่จะรับพิเศษ 1 ปี แต่ถ้าครบ 1 ปีแล้วยังไม่ได้ก็สามารถขอผ่อนผันต่อไปได้
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ในที่ประชุม นายเรวัติ ฉ่ำเฉลิม ก.ตร.ได้แสดงความเห็นว่า ตำรวจก็คือตำรวจ มีวิจารณญาณ มีคุณสมบัติ และมีความนิ่งทางอารมณ์ ถ้าจบ ม.6 แล้วมาสมัคร หากมาบังคับใช้กฎหมายไม่ถูกต้องจะทำอย่างไร ดังนั้นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้วที่ประชุมจะผ่อนผันให้ 1 ปี โดยนายกฯ กำชับว่า ใน 1 ปี ที่รับตำรวจวุฒิ ม.6 ขึ้นไป จะต้องไปเขียนรายละเอียดมาให้ถูกต้องว่าทำหน้าที่อะไรบ้างที่ไม่เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งนี้ นายกฯ ได้วางกรอบไว้ว่าในเรื่องของการขาดแคลนกำลังพลจะต้องให้แล้วเสร็จก่อนเดือนมีนาคม 55 ส่วนการโอนย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปมหาดไทยจะต้องไม่เกินเดือนพฎษภาคม
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาระเบียบข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการทำประกันชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีกรรมการ ก.ต.ช.บางท่านเสนอว่าควรจะมีการใช้เงินจากค่าปรับตามระเบียบจราจร แต่นายกฯ ไม่เห็นด้วย โดยเห็นว่าอาจจะมีการปรับสวัสดิการอะไรก็แล้วแต่ ไม่ควรจะไปเอาเงินจากส่วนอื่นมา แต่อยากให้เป็นการอนุมัติเงินจริงๆ เพราะประชาชนคงไม่เข้าใจหากตำรวจจะไปเร่งในการจับและปรับประชาชนเพื่อเอาเงินมาเข้าประกันชีวิต และจะทำให้ตำรวจเร่งจับกันใหญ่ ดังนั้นหากจะให้มีการทำประกันชีวิตก็ควรจะนำเข้า ครม. และควรจะให้แก่ข้าราชการส่วนอื่นในอัตราและระนาบเดียวกัน
ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังมีการพิจารณาเรื่องระเบียบการบริหาราชการตำรวจ ซึ่งขณะนี้กองบัญชาการนครบาลตำรวจภูธรมี 9 ภาค โดยเฉพาะกรณี พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีตผู้กำกับบันนังสตา จังหวัดปัตตานี ที่ขอย้ายมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ไม่ได้รับการพิจารณาจนถูกผู้ก่อความไม่สงบสังหาร อันเกิดจากปัญหาตำรวจในพื้นที่ 3 จังหวัด ไม่สามารถ ขอย้ายออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดได้ เนื่องจากจะเป็นการผิดระเบียบ ขณะที่รัฐบาลที่แล้วต้องการดึงส่วนนี้ให้มารวมอยู่ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 9 เพื่อให้เกิดการโยกย้ายได้ ไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายไปอยู่ใน จ.สงขลา หรือพัทลุง แต่ทำไม่ได้ ขณะที่นายกฯ เองก็ไม่เห็นด้วย เพราะความจริงแล้วไม่ได้ติดขัดในเรื่องของระเบียบข้อบังคับ และที่ประชุมเองก็ไม่เห็นด้วย การทำงานของตำรวจหน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ส่วนหน้านั้นก็ต้องดำเนินการต่อไป แต่ขณะเดียวกันถ้าหากมีกรอบระเบียบปฏิบัติ ซึ่งหากมีกรอบระเบียบปฏิบัติซึ่งควรจะพิจารณาเรื่องปรับโครงสร้างให้มีการโยกย้ายได้