ปัญหาน้ำท่วมยังคงเป็นปัญหาและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตมากขึ้นกับประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งความเครียด รวมถึงการออมก็ลดลงไปด้วย เพราะสินค้าบางอย่างหาซื้อยากขึ้น ขณะที่การติดต่อสื่อสารและเดินทางยากก็ยากขึ้นด้วย แต่ในส่วนการทำงานของภาครัฐกับพบว่าประชาชนมีไม่พอใจกับการให้ข้อมูลข่าวสารมากที่สุด บวกกับการประกาศเตือนภัยและการจ่ายเงินชดเชยด้วย
นอกจากนี้แล้วภาระในช่วงที่ไม่มีงานทำหรือขาดรายได้ช่วงน้ำท่วมประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา หลายคนหารายได้ไม่พอรายจ่ายก็ต้องกู้ยืม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดหนี้นอกระบบมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยดูแลการปล่อยสินเชื่อให้กับประชาชนรายย่อยให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้บางส่วนจะนำเงินออมมาใช้ หรือขายทรัพย์สินที่มีเพื่อนำมาใช้จ่าย ดังนั้นสิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการหลังน้ำลดคือเร่งให้เงินชดเชยความเสียหาย รวมถึงสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้านราคาถูก และช่วยจัดการอุปกรณ์ประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนทุกคนกลับคืนสู่สภาพปกติได้เร็วที่สุด...
สำหรับคอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง” ฉบับนี้ทีมงานได้เข้าไปสัมภาษณ์ “ดีเจบุ๊คโกะ” หรือ “ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล” กลับอีกมุมมองหนึ่งของการบริหารเงินออม ซึ่ง “บุ๊คโก๊ะ” บอกกับเราว่า คุณพ่อคุณแม่จะสอนเสมอในช่วงตอนเราเป็นเด็ก ๆ ให้รู้จักเก็บเงินซื้อสิ่งของที่เราอยากได้เอง จำได้ว่าสิ่งของที่เก็บสตางค์ซื้อเองเป็นโทรศัพท์มือถือ มันทำให้เราภูมิใจมาก ที่เราสามารถเก็บเงินซื้อมันมาได้ด้วยตนเอง
สำหรับรายได้แรกที่ “บุ๊คโก๊ะ” สามารถหาได้ด้วยตนเองเป็นช่วง ป. 1 - ป.2 กับการขายขนมในโรงเรียนให้กับเพื่อน ๆ และเงินที่ได้เล็ก ๆ น้อย ๆ จากตรงนี้เราก็นำไปหยอดกระปุก ต่อจากนั้นเมื่อเต็มเราก็นำไปฝากธนาคาร ดีใจมากตามประสาตอนช่วงเป็นเด็ก ๆ เมื่อเห็นเงินเต็มกระปุกออมสิน
ปัจจุบัน “บุ๊คโก๊ะ” เป็นดีเจอยู่ที่คลื่น 94 EFM ช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 - 18.00 น. ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ นอกจากนี้แล้วกำลังจะมีผลงานพ็อกเก็ตบุ๊คที่ชื่อว่า “บุ๊คโก๊ะแซ่บเวอร์” เป็นเรื่องราวของการทำอาหารในแบบฉบับของ “บุ๊คโก๊ะ” เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบทำอาหาร ซึ่งได้วิธีการทำอาหารมาจากคุณพ่อ คุณพ่อจะทำเก่งมาก ขณะเดียวกันในปีหน้า “บุ๊คโก๊ะ” จะเข้าไปเป็นพิธีกรรายการอาหาร แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน ช่องไหนต้องคอยติดตามกันต่อไป
“การเป็นดีเจเป็นความฝันตั้งแต่เด็กแล้วว่าเราไม่ได้มีโอกาส แต่เราก็ได้ฝึกพูดมาตลอดนะ ว่า “คุณกำลังอยู่กับบุ๊คโกะ 94 EFM นะ ” เพราะตอนเรียนเราชอบฟัง EFMอยู่แล้ว แฉแต่เช้า เราก็ฝึกพูด แต่พอวันนึงเราได้มาทำ ไม่ต้องท่องเลยอ่ะ เค้าบอกว่าให้ท่องจิงเกิ้ลก่อนเข้ารายการนะ เราไม่ต้องท่องเพราะเราจำได้ตลอด 8 ปีที่ฟังมา ”
กับรายได้ที่เข้ามาจากการทำงาน ณ ปัจจุบัน “บุ๊คโก๊ะ” จะนำไปลงทุนในกองทุนรวม และประกันชีวิต เพราะใน 2 ส่วนนี้สามารถเป็นเงินออมได้และนำไปลดหย่อนทางภาษีได้ ขณะเดียวกันเงินที่ได้จากการเป็นพิธีกรตามงานอีเว้นท์หรือโชว์ตัวจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน นอกจากนี้แล้วการซื้อคอนโดมิเนียมก็ถือว่าเป็นการเก็บเงินออมเหมือนกัน
ส่วนในอนาคตการลงทุน “บุ๊คโก๊” อยากที่จะเปิดร้านอาหาร ซึ่งได้ดูสถานที่ได้เรียบร้อยแล้ว คงเป็นแถวรามอินทรา ซึ่งรูปแบบของร้านอาหารเป็นอาหารที่หลากหลาย ทั้งอาหารไทย จีน และก็มีบุฟเฟต์ในตัวด้วย ร้านนี้คาดว่าจะสามารถเปิดได้ในช่วงปีหน้า ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างจัดสรรและเตรียมความพร้อม
“บุ๊คโก๊ะ มองว่าการออมเงินหรือการลงทุนเป็นสิ่งที่ดี และต้องรู้จักจังหวะให้เหมาะสมก็จะเกิดผลกำไร และต้องออมให้ถูกวิธี ในสิ่งที่เราเข้าใจก็จะไม่เกิดปัญหาขาดทุนด้วย ซึ่งเราต้องมีการวางแผนให้เป็นระบบแบบแผนว่าเงินส่วนไหนจะนำไปลงทุน และส่วนไหนที่เราจะเก็บไว้ใช้จ่ายหรือต่อยอดในการลงทุนต้องมีความชัดเจน”
นอกจาการทำงานแล้ว “บุ๊คโก๊ะ” ยังต้องหาเวลาว่างเพื่อเป็นการพักผ่อนให้กับตัวเองในการชาร์ตแบตด้วยการนอน หรือทำอาหารอร่อย ๆ และชวนเพื่อน ๆ มาทานที่บ้าน มีปาร์ตี้กันเล็ก ๆ ทำกินกันให้หมู่เพื่อนฝูง แบบนี้ก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนอย่างหนึ่งที่มีความสุข
สุดท้าย “บุ๊คโก๊ะ” ฝากบอกว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่คาดคิดหรือไม่คาดฝันอย่างแรกเลยเราควรมีสติ ตั้งสติให้ดี และยิ่งบ้านเมืองเป็นแบบนี้เราไม่ควรไปตื้นเต้น บวกกับเศรษฐกิจที่ดูจะยังไม่ค่อยดีนักเราควรที่จะใช้จ่ายกันอย่างระมัดระวัง ไม่ฟุ่มเฟือย ขณะเดียวกันต้องรู้จักพึ่งพาตนเองก่อนที่จะไปพึ่งพาคนอื่นให้เขาต้องเดือดร้อนไปกับเรา และในบางครั้งคนที่เราไปพึ่งพาอาจจะตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเราก็ได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีสติในการจับจ่ายใช้สอย
ชื่อ - นามสกุล ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล
วันเดือนปีเกิด 19 มีนาคม 2528
การศึกษา ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ผลงานปัจจุบัน ดีเจคลื่น 94EFM
