xs
xsm
sm
md
lg

คาดปีหน้าธุรกิจประกันชีวิตโต15% ความต้องการเพิ่ม-เศรษฐกิจโตช่วยหนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-เมืองไทยประกันชีวิตรับพิษน้ำท่วมฉุดภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตหลุดเป้า แต่มั่นใจเติบโตในระดับ 10% แน่ ส่วนปีหน้าแนวโน้มสดใสอาจเติบโตถึง 15% เหตุปัจจัยหนุนเพียบทั้งเศรษฐกิจ และความต้องการของคนไทยต่อการคุ้มครองชีวิตที่เพิ่มขึ้น ระบุการเปิดเสรีเบี้ยประกันจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคแน่ทั้งด้าน การบริการ และสินค้าที่ต้องแข่งขันกันมากขึ้น

นายสาระ ลำซำ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ถือว่าได้รับผลกระทบจากอุทกภัยพอสมควรทำให้การเติบโตไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% แต่เชื่อว่าน่าจะสามารถเติบโตอยู่ในระดับ 10% ได้ ส่วนในปีหน้าการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตน่าจะเติบโตได้ในระดับ 15% เพราะในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจนี้เติบโตมากว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ประมาณ 3 เท่าอยู่แล้ว

"ธุรกิจประกันชีวิตปีหน้ายังเห็นการเติบโตอยู่ เพราะสัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ของคนไทยยังน้อยอยู่มาก และปัจจุบันคนไทยเองยังเริ่มเข้าใจการทำประกันชีวิตมากขึ้น รวมถึงปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้คนไทยได้เข้ามาสัมผัสและใช้ระบบประกันชีวิตมากขึ้นอีกด้วย ทั้งเรื่องของความเสียหาย การประกันอุบัติเหตุ และการประกันชีวิต"นายสาระกล่าว

นอกจากนี้ ปัจจัยที่น่าจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตมากขึ้นอีกจะมากจากผลิตภันฑ์และช่องทางการจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันการออกกรมธรรม์ที่หลากหลายทั้งแบบออมระยะสั้น และระยะยาว รวมถึงการวางแผนการเงิน การลงทุน และการคุ้มครองชีวิต เริ่มเข้ามามีบทบาทและตอบโจทย์ด้านความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งนับเป็นรูปแบบการพัฒนาเช่นเดียวกับต่างประเทศที่มีสัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ในระดับสูง

ขณะที่ ช่องทางการจำหน่ายเองยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีช่องทางตัวแทนเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ที่มีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงช่องทางจำหน่ายตรงผ่านโทรศัพท์ และการขายแผนโทรทันศ์เริ่มเข้ามามีบทบาทในปัจจุบัน

นายสาระ กล่าวอีกว่า นอกจากปัจจัยภายในของการธุรกิจประกันชีวิตแล้ว ปัจจัยเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ย น่าจะผลต่อการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตด้วยเช่นกัน โดยกาขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้าน่าจะทำให้กำลังซื้อ และการบริโภคเพิ่มมากขึ้นได้ และอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับต่ำน่าจะจูงใจให้คนไทยหันมาสนใจการออกมพร้อมการคุ้มครองชีวิตมากขึ้นได้

"เศรษฐกิจเป็นตัวหนุนและเป็นปัจจัยลบด้วย ซึ่งถ้าเศรษฐกิจไม่ดีกำลังซื้อก็จะหดตัว และยิ่งการทำประกันชีวิตในไทยยังไม่อยุ่ในปัจจัยต้นๆ ของการดำรงชีวิต ความสำคัญก็จะยิ่งน้อยลง แต่เชื่อว่าตามแผนการพัฒนาทั้งของภาคธุรกิจ และคปภ.เองยังคงขยายตัวและเดินหน้าได้ตามแผนที่วางไว้แน่นอน"นายสาระกล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของการเปิดเสรีของอัตราเบี้ยประกันที่มีการกล่าวถึงกันในปัจจุบันนั้น ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ แต่เชื่อว่าหากเกิดขึ้นจริงน่าจะมีผลดีต่อผู้บริโภคมากขึ้น เนื่องจากหากเกิดการแข่งขันจะทำให้บริษัทประกันมีการพัฒนาทั้งในด้าน สินค้า และบริการหลังการขายที่ดีขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าของแต่ละบริษัท

ฟิทช์เพิ่มอันดับเครดิตเป็น ‘AA+(tha)’

ด้านฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ของบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (MTL) เป็น ‘AA+(tha)’ จาก ‘AA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Insurer Financial Strength (IFS)) คงไว้ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ การเพิ่มอันดับเครดิต สะท้อนถึงการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของความสามารถในการทำกำไร ความแข็งแกร่งของเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการตลาดของ MTL รวมทั้งระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินยังคำนึงถึงการให้การสนับสนุนด้านการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องจากผู้ถือหุ้นของ MTL ซึ่งได้แก่ Ageas Insurance International N.V. (Ageas) (อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ (IDR) ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ) และ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK (อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ (IDR) ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น