“เฉลิม” แบไต๋รายวัน! แนะแก้ ม.291 เปิดทางเลือกตั้ง 99 ส.ส.ร.3 ไม่สังกัดพรรค ไปยกร่าง ยันไม่ขัดข้องหากเสียงส่วนใหญ่อยากแก้ แต่ย้ำควรทำอย่างอื่นก่อน โต้ “ประสงค์” โวจบ ดอกเตอร์ กม.คอนเฟิร์มไม่ได้แก้เพื่อคนๆ เดียว ยันไม่มีแดงขู่ขนม็อบ ชี้ ถ้าร่างแล้วชาวบ้านไม่เอาด้วยก็จบ เชื่อ ปล่อยผี 111 มีได้ขึ้นนั่ง รมต.แน่
วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.00 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า โดยหลักแล้วต้องแก้ไขมาตรา 291 แล้วก็มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง 77 จังหวัด ที่เหลือก็เป็นนักปราชญ์ ราชบัณฑิต ตัวเลขสวยก็ 99 ท่านเหล่านั้นจะไปคิดว่าจะทำอย่างไร เรื่องนี้ตนปราศรัยตั้งแต่ปี 2552 ส่วนคนที่ระแวงว่า ส.ส.ร.จะมาจากพรรคใดนั้น ก็เขามาจากการเลือกตั้ง คือ สังกัดพรรคไม่ได้อยู่แล้ว ก็ไปยกร่าง และจากนั้นก็ไปทำประชามติ ถ้าประชาชนเอาด้วย ก็เข้ารัฐสภา และรัฐสภาพูดได้ 2 คำว่า รับหรือไม่เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ตั้งคณะกรรมาธิการ เพราะ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง ก็มากำหนดทิศทาง ต้องเลือกประธาน ส.ส.ร.ประธานยกร่าง จะยกร่างแบบไหน ให้ประชาชนเห็นชอบก็จบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังไม่เริ่มจะทำก็มีประชาชนไม่เห็นด้วย เพราะห้วงเวลาไม่เหมาะสม และท่านเคยระบุว่า ในที่ประชุมพรรคว่าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเช่นเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนบอกว่า อาจจะเห็นแตกต่าง แต่ไม่แตกแยก ตนมองว่า เพิ่งออกมาได้ยังไม่ถึง 4 เดือน แล้วเราก็บอกเป็นนโยบายเร่งด่วนภายใน 1 ปี รออีก 8 เดือนได้ หรือไม่ ครบ 1 ปี ค่อยทำ แต่ถ้าเสียงส่วนใหญ่เอาอย่างไร ตนก็เอาอย่างนั้น ตนไม่ขัดข้อง
เมื่อถามว่า น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ระบุว่า หากแก้เพื่อคนเพียงคนเดียวจะเกิดปัญหาแน่นอน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ท่านวิจารณ์อย่างนี้มาตลอด อย่าไปพูดถึงท่านเลย ท่านเป็นผู้ใหญ่ ท่านเป็นคนอาวุโสทางการเมืองเหมือนกัน แล้วจะเป็นไปได้อย่างไร จะไปแก้เพื่อคนๆเดียว
“ผมเนี่ยนะ ทั้งโททั้งเอกกฎหมายมหาชนโดยเฉพาะ แล้วมันแก้อย่างไรเพื่อคนๆ เดียว มันไม่ใช่ เป็นความเข้าใจของท่าน มันเป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าพูดไปก็ว่าเฉลิมสู่รู้ทุกเรื่อง ก็มาถามเรื่องกฎหมายผมไม่รู้ได้อย่างไร ก็เรียนมาทางนี้ มันเป็นไปไม่ได้หรอก รัฐธรรมนูญมันเป็นกติกา ของระบอบประชาธิปไตย เป็นกฎหมายสูงสุด เป็นนามธรรม ไม่ใช่รูปธรรม แล้วจะแก้เพื่อคนๆ เดียวตรงไหน ยกตัวอย่างดูซิ ผมจะได้อธิบายได้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ที่เร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเป็นเพราะคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหวกดดันพรรคเพื่อไทย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนยังไม่รู้ว่าสรุปแล้วพรรคจะเอาอย่างไร วันนั้นที่อธิบายในพรรคเสียงส่วนใหญ่ก็คล้อยตามตน หลักการแค่นี้ แค่วัน วอ.เวลา นอ.เอาเมื่อไหร่ ตนบอกขอปราบยาเสพติดให้เยอะๆ ก่อน ให้นายกฯแก้ปัญหาความยากจน ให้ตนปราบเว็บไซต์หมิ่นสถาบัน ขจัดทุจริต เพราะสายรัดก็บอกแล้วว่าเบิกเงินจากบริษัทไหน พอ 4 เรื่องนี้นิ่งถึงเวลาก็พลั้วะ ทำความเข้าใจตกผลึกกันในพรรค สุดท้ายในพรรคเพื่อไทยไม่ได้แตกแยก แตกต่างกันเท่านั้น
เมื่อถามย้ำว่า ไม่ได้เป็นเพราะเสื้อแดงขู่ว่าหากไม่แก้จะออกมาชุมนุม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่มี ไม่เห็นเสื้อแดงที่ไหนขู่ วันนั้นเสื้อแดงจะมาบริจาคสิ่งของแล้วกำหนดให้ตนเป็นคนรับด้วย ทั้งที่ตนไม่เคยไปขึ้นเวที เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะมีใครต้องการเอาใจใครหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐธรรมนูญไม่แล้วเสร็จง่าย มีเวลา อย่างคราวที่แล้ว ส.ส.ร.1 สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ 8 เดือน 240 วัน ระหว่างยกร่าง มันไม่ใช่ปิดประตูตีแมว มันจะมีมาตรานี้มาตรานั้น แต่ไปร่างแล้วประชาชนไม่เอาด้วยก็พรึบ
เมื่อถามว่า หากเคลื่อนไหวตอนนี้แล้วประชาชนไม่เอาด้วยใครจะรับผิดชอบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องคิด สมัยนี้ทำอะไรตามใจเราไม่ได้แล้ว อยู่ๆ ตนไม่ได้หลับได้นอน เอาคนทำสวนไปบอกว่าเป็นคนวางระเบิด บ้านเมืองไกลแล้ว
เมื่อถามว่า ได้นำเสนอความคิดเห็นกับนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่กล้า เว้นแต่นายกรัฐมนตรีถาม เพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา แต่ในพรรคมีเวลาให้ตนวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง มันอาจมีผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่มันถูก 90 เปอร์เซ็นต์ เมื่อถามว่าหากแก้รัฐธรรมนูญจะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าจะวุ่นวาย หากแก้แล้วเป็นประโยชน์ต่อคนส่วนรวม แต่เห็นว่ารัฐบาลเพิ่งเข้ามา ยังไม่ถึงปีตามที่หาเสียงไว้ แต่หากเสียงส่วนใหญ่บอกเอาก็เอา แต่ถามตนว่าควรแก้หรือไม่แก้ เมื่อไหร่ ก็ตามนโยบายที่พูดไว้ หาเสียงก็บอก 1 ปี แถลงนโยบาย 1 ปี ช้า 9 เดือนก็ไม่ถือว่าผิดสัญญา
เมื่อถามว่า มาตรา 237 จำเป็นต้องเร่งแก้ไขหรือไม่ เพราะ พ.ค.2555 ผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์ 111 คน ก็จะออกมา ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนคิดว่าหลายคนเข้าใจผิด ถ้าเราไม่ทำผิดจะยุบพรรคได้อย่างไร อย่าไปเอาเล็กๆ น้อยๆ มาหักหลักการ ซึ่งระบบมันไม่ได้ พวกทำผิดแต่พวกเยอะ ก็ไม่ถูกยุบเหมือนกัน มันมี 2 มุม
“บางคนไปเขียนกระทั่งคนอ่านแล้วตกใจว่าเดี๋ยวถ้า บ้าน 111 กลับมาแล้วจะทำอย่างไร ก็ 111 ออกหมดแล้ว ในพรรคเหลือนิดเดียว ไปเขียนวิเคราะห์คนนั้นเป็นเกจิการเมือง อีกคนจะมาเป็นนายกฯ จะมาเป็นอย่างไรนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ยังอยู่ แล้วบางคนก็ออกจากพรรคไปแล้ว เข็มทิศก็ไม่มี เดินกลับพรรคไม่ถูกแล้ว แล้วจะมาเป็นไร ก็ออกจากพรรคไปอยู่ที่อื่นเยอะแยะ อย่าไปเขียนการเมืองให้มันแรง พอพฤษภาฯต้องอย่างนี้ แล้วจะมีอะไรพฤษภาฯ พฤษภาฯก็หลังเมษายน และก็ก่อนมิถุนายน ไม่มีอะไรเลย ผมจะวิเคราะห์ให้ฟัง ก็มันออกไปหมดแล้วไม่ได้อยู่ในพรรคเพื่อไทย ก็มี นายจาตุรนต์ ฉายแสง คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายวราเทพ รัตนากร ก็มี 4-5 คน ส่วนอื่นก็ไม่มี เชื่อผมเถอะพฤษภาฯก็ก่อนเมษาฯ หลังมิถุนาฯเท่านั้นเอง” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากบ้าน 111 ออกมาจะทำให้พรรคเพื่อไทยแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พวกนั้นเก่งทั้งนั้น แต่ตนถามว่าจะไปลงสมัคร ส.ส.แทนใคร ใครจะลาออกให้ลง ผู้แทนอยากเป็น ส.ส.นะ
“ผมวิเคราะห์ให้ฟังพอหลังเสร็จเรียบร้อย เอามาเป็นรัฐมนตรีนะมี ประเมินการเพราะเก่ง แต่ถามว่าจะเป็นส.ส.ได้มั้ย ได้ยังไง คนเป็นอยู่เขาไม่ลาออก เมื่อไม่เป็น ส.ส.แล้วจะมีบทบาทในสภาได้หรือไม่ ก็ลำบาก และอำนาจก็อยู่ที่นายกฯ ตนไม่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์เดี๋ยวถูกดุ กลัวอย่างเดียวกลัวนายกฯ ดุ ”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า แสดงว่า พ.ค.นี้จะมีการปรับ ครม. ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่กล้าพูด นึกยังไม่เคยนึก เพราะไม่มีหน้าที่ใดๆ ทั้งสิ้น
