“เป็ดเหลิม” นกรู้ ปัดตอบจุดยืนรัฐบาลกรณี “นช.แม้ว” เข้าเขมร บอกพูดไปทำบ้านเมืองสับสน ปัดยังไม่ทราบเรื่องย้าย “ทวี สอดส่อง” นั่ง ศอ.บต. โยนเป็นหน้าที่ยุติธรรม-มหาดไทยพิจารณา เผยเรียกประชุม “ดอกเตอร์ตำรวจ” เร่งตรวจเว็บหมิ่นสถาบัน พัฒนาสถาบันตำรวจ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางมายังกัมพูชาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าไม่ตอบเพราะไม่รู้ว่าจะมาจริงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการเดินทางเข้าไปจริงจะถูกพรรคประชาธิปัตย์นำไปโจมตีหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ก็ว่าไป พรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไรก็ทำไป ตนบอกแล้วว่าทำอะไรได้ทั้งนั้น ส่วนพรรคเพื่อไทยจะจะวางจุดยืนเกี่ยวกับกรณี พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรนั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ตอบเพราะตอบแล้วไม่จบสิ้น บอกไม่ได้ทำอะไรก็ไม่เชื่อ พูดจนบ้านเมืองสับสนหมด ขอเวลาปราบยาเสพติดและแก้ไขอบายมุขให้ลูกหลานได้กลับบ้านหัวค่ำ
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมครม.ถึงกระแสข่าวโยกย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไปดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ว่า ไม่ทราบเรื่องเพราะเรื่องยังไม่ผ่านมาที่ตน แต่ถ้ามีการโอนย้ายจริงจะต้องร่วมกันเสนอมา 2 กระทรวง คือ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น ตนแสดงความเห็นไม่ได้เพราะเป็นความจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในสมัยที่ พ.ต.อ.ทวีเป็นตำรวจกองปราบปรามกับเป็นรองอธิบดีและอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็เคยลงไปทำงานที่ภาคใต้ แต่ในฐานะเลขาฯ ศอ.บต.ตนก็ไม่มั่นใจว่ากระทรวงมหาดไทยจะยอมรับหรือไม่ เพราะการทำงานใน ศอ.บต.เป็นภาพรวมด้านโยบายมากกว่าปฏิบัติ
ส่วนการเรียกประชุมนายตำรวจระดับดอกเตอร์เพื่อมาหารือเพื่อพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้ให้ข้อสรุปคือให้ไปคิดแผนพัฒนา สตช.5 ด้าน คือ 1.สืบสวน 2.สอบสวน 3.ปราบปราม 4.กำหนดมาตรฐานโรงพักให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนและบริการประชาชน 5.เว็บไซต์มั่นสถาบันต้องหามาตรการไม่ให้มีโดยเด็ดขาด ถ้ามีต้องดำเนินการหรือถ้ามีต้องให้น้อยที่สุด ซึ่ง5ด้านนี้ตนเป็นคนให้นโยบาย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเว็บไซต์หมิ่นส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศจะทำอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า แม้ปราบปรามยากก็อย่าท้อถอย บางครั้งต้องใช้วิธีการเจรจา ซึ่งปัญหาที่ผ่านมากองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจะขอตรวจค้นแต่ขั้นตอนอยู่ที่กระทรวงไอซีที ตนยังบอกว่าหากมีอะไรติดขัดก็ให้บอกมาเพื่อประสานกับรัฐมนตรี
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า หากมีการประชุมและมีแนวทาง5ด้านนี้ก็จะแจ้งผ่านรักษาการแทน ผบ.ตร. ตนก็จะนำเข้า ก.ตร.เพื่อขออนุมัติแผนและสั่งการให้มีการปฏิบัติตามแผนที่พวกดุษฎีคิด โดย 5 ด้านนี้ได้ขอร้องให้ทำใน 90 วัน เรื่องไหนเสร็จก่อนก็เอามาก่อนคือต้องบูรณาการความคิดและการข่าว ยุคตนจะทำให้ดีที่สุด การแต่งตั้งจะไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ไม่มีอักษรย่อ อ.-ส.ทั้งสิ้น
สำหรับโผโยกย้ายนายตำรวจประจำปีนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ลงไปยุ่งเพราะตั้งใครมาก็พวกตนทั้งนั้น โดยเฉพาะรุ่น 27-28 ที่จะเกษียณอายุราชการ ตนฝึกมาทั้งนั้น ไปย้ายใครก็ไม่ได้รักทุกคน รอให้ผู้บังคับบัญชาเป็นผู้พิจารณา
เมื่อถามถึงกระแสข่าวปรับโยกย้ายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า ตนยังไม่เห็น แม้ว่าตนจะกำกับแต่ก็ให้เป็นสิทธิของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตนไม่ก้าวก่าย เมื่อถามว่ามีการปูทางเพื่อรอการกลับมาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า คนละเรื่อง เอาคนละเรื่องมาถาม เดี๋ยวเป็นข่าวยุ่งอีก แล้วสมัยที่เขาเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมราชทัณฑ์เปลี่ยนทำไม ต้องเข้าใจความถูกต้องชอบธรรม ไม่ใช่อะไรหน่อยก็ไปเกี่ยวกับท่าน มันคนละเรื่อง
เมื่อถามว่านโยบายที่แล้วเอาคนจาก ป.ป.ส.เข้าไปปราบยาในราชทัณฑ์กลับมีจำนวนมากขึ้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า บอกแล้วว่ากรณีปราบโทรศัพท์ไม่ได้ก็ขออนุญาตศาล หรือขออนุญาตผู้มีส่วนเกี่ยวข้องว่านี่มันเป็นอาชญากรรมของประเทศ ก็ดักฟังและจับเข้าคุก ไม่มีการแก้ไข เดี๋ยวก็เขาบิน เขาบิน ยุคนี้ไม่มีเขาบิน มีแต่ภูเขาธรรมดา จริงๆ แล้วจะมีการซื้อขายไม่ได้เลยหากรัฐเอาจริงเอาจัง ซีนบอเดอร์ 8 จว.ไม่ได้ซื้อจากกรุงเทพฯ เอามาจากตรงโน้น และตนกำลังประสานยูเอ็นดีซีพี ถ้าประเทศไหนไม่ให้ความร่วมมือตนฟ้อง
