รมว.ยุติธรรมรับชง ครม.ตั้ง “อดุลย์” ข้ามห้วยมาเป็น เลขาฯ ป.ป.ส. โยก “ชาติชาย” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นรองปลัดฯ อ้างไม่ได้เอื้อประโยชน์ “นช.แม้ว” จับตากระทรวงยุติธรรม ย้ายใหญ่ล้างบางขั้วอำนาจเก่า คนใกล้ชิดพรรคเพื่อไทยได้ดีทั่วหน้า “ทวี” ข้ามกระทรวงไปเป็น ผอ.ศอ.บต.ดูแลสถานการณ์ใต้ “เป็ดเหลิม” เชื่อแก้ปัญหาใต้ได้เพราะเคยลงไปทำงาน ช่วงเป็นอธิบดีดีเอสไอ
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าในการประชุม ครม.วันนี้ จะเสนอให้พิจารณาบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 พร้อม ยืนยันการโยกย้ายครั้งนี้ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่หวังการปราบปรามยาเสพติดที่มีประสิทธิภาพตามที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ โดยจะดึง พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ให้มาช่วยในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส. เพราะมีความชำนาญปราบปรามยาเสพติด แทนนางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ
ส่วนการโยกนายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรมถือว่าสูงขึ้น และมีอำนาจดูแลกรมราชทัณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ครม.วันนี้จะมีการย้ายล้างบางข้าราชการขั้วเก่าหลายตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่ต้องติตดามดู ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายวิเชียร ชวลิต เด็กในสายพรรคภูมิใจไทยของนายเนวิน ชิดชอบ ที่อาจจะถูกย้ายในการประชุม ครม.ครั้งนี้เพื่อเปิดทางให้นายพระนาย สุวรรณรัฐ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ขึ้นรั่งตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแทน
ในส่วนของกระทรวงยุติธรรม เป็นที่แน่นอนว่าจะมีการโยกย้ายใหญ่ ข้าราชการระดับ 10 ในสังกัด ทั้งแทนตำแหน่งที่เกษียณอายุราชการ และย้ายสลับตำแหน่ง เช่น นางสุวรรณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้นายพิทยา จิณาวัฒน์ จากรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม โดยขอตัว พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รอง ผบ.ตร. มาช่วยราชการ 1 ปี ในตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ส.
ย้ายนายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม แล้วแต่งตั้ง พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันตชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ข้ามกระทรวงมาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์
นอกจากนี้ อาจจะมีการย้าย นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม โดยสลับให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม คนสายเดียวกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติะรรม มาเป็นเลขาธิการ ป.ป.ท.แทน ส่วนตำแหน่งของ นายนัทธี จิตสว่าง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ที่จะเกษียณอายุราชการอีก 1 ตำแหน่งนั้น แต่งตั้งให้ นายฐานิส ศรียะพันธุ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้ตรวจราชการ
สำหรับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองปลัดกระทรวงยุติธรรม คนใกล้ชิดตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย อยู่ในคิวที่จะโยกสลับไปกินตำแหน่งเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นข้าราชการระดับ 11 แทนนายภาณุ อุทัยรัตน์ ซึ่งถือเป็นคนของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ทำงานเกาะติดปัญหาภาคใต้มาตลอด โดยจะเสนอเป็นวาระจรให้ที่ประชุม ครม.พิจารณา หาก พ.ต.อ.ทวีได้รับเลื่อนไปเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.จะส่งผลให้ระดับ 10 ในกระทรวงยุติธรรมว่างอีก 1 ตำแหน่ง จึงเลื่อนให้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เด็ก พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง มาเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ถึงกระแสข่าวโยกย้าย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ไปเป็นเลขาธิการ ศอ.บต.ว่า ไม่ทราบเรื่องเพราะเรื่องยังไม่ผ่านมาที่ตน แต่ถ้ามีการโอนย้ายจริงจะต้องร่วมกันเสนอมา 2 กระทรวง คือ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงมหาดไทย ดังนั้น ตนแสดงความเห็นไม่ได้เพราะเป็นความจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในสมัยที่ พ.ต.อ.ทวี เป็นตำรวจกองปราบปรามกับเป็นรองอธิบดี และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็เคยลงไปทำงานที่ภาคใต้ แต่ในฐานะเลขาฯ ศอ.บต.ตนก็ไม่มั่นใจว่ากระทรวงมหาดไทยจะยอมรับหรือไม่ เพราะการทำงานใน ศอ.บต.เป็นภาพรวมด้านโยบายมากกว่าปฏิบัติ
ส่วนการเรียกประชุมนายตำรวจระดับดอกเตอร์เพื่อมาหารือเพื่อพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้ให้ข้อสรุปคือให้ไปคิดแผนพัฒนา สตช.5 ด้าน คือ 1.สืบสวน 2.สอบสวน 3.ปราบปราม 4.กำหนดมาตรฐานโรงพักให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนและบริการระชาชน 5.เว็บไซต์หมิ่นสถาบันต้องหามาตรการไม่ให้มีโดยเด็ดขาด ถ้ามีต้องดำเนินการหรือถ้ามีต้องให้น้อยที่สุด ซึ่ง 5 ด้านนี้ตนเป็นคนให้นโยบาย
