“เฉลิม” ในฐานะ ผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดิน ตั้งเป้าภายใน 1 ปี จะลดปริมาณยาเสพติดให้ได้ ตรึงหน่วย ปส.315 เป็นกำลังหลักช่วยงานปราบยาเสพติด ย้ำยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรมลบข้อครหาฆ่าตัดตอน อ้อน ผบ.เหล่าทัพช่วยเป็นกำลังหลักในการปราบปราม สัญญาจะพูดการเมืองให้น้อย สาบานไม่กล้าคอร์รัปชันแค่ขอรัฐบาลอยู่บริหารครบ 12 ปี
วันนี้ (11 ก.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดปฏิบัติการวาระแห่งชาติ พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ที่ทำเนียบฯ โดยมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล รมว.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก พล.ท.อุดมเดช สีตะบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการ ผบ.ตร. และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.มหาดไทย ร่วมประชุม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดิน เพื่อเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) กล่าวมอบนโยบายว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า 1 ปีจะลดยาเสพติดให้ได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะกวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้นไปทันที ดังนั้นตนตั้งใจว่า ประการแรกจะต้องลดปริมาณยาเสพติดและกลุ่มเสี่ยงให้ได้ โดยเฉพาะในสถานบริการ ล่าสุดได้พูดคุยกับเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยให้มีการคงหน่วยงาน ปส.315 ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่ผ่านมา เพราะมีความจำเป็นจะต้องเอาไว้ช่วยงานเรื่องยาเสพติด เนื่องจากหน่วยงานเหล่านี้มีความรู้ความสามารถ นอกจากนี้ กรมราชทัณฑ์จะต้องเอาจริงเอาจัง เพราะในสมัยหนึ่ง ตนเคยไปพบกับหลานชายของนายเหว่ย เซียะ กัง พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ซึ่งได้บอกว่า เหว่ย เซียะ กัง ได้จ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่ไทย 30 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้บอกว่าจ่ายให้กับใคร แต่ได้ทำให้ตรวนที่ผูกเอาไว้ที่ข้อเข้านายเหว่ย เซี่ยะ กัง หลุดออกจากขาและพ้นจากการถูกจองจำในประเทศไทยเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว
“ผมไม่โทษใคร แต่วันนี้เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก และเราต้องแก้ไขปัญหาให้ถูกจุด โดยเฉพาะการสั่งซื้อขายยาเสพติดจากในเรือนจำ หากท่านไม่สามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์หรือห้ามไม่ให้มีการขายโทรศัพท์ในเรือนจำได้ ท่านก็ควรจะดักฟังไปเลย” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับการปราบปรามนั้นจะยึดหลักนิติรัฐและนิติธรรม ซึ่งในสมัยรัฐบาลที่ผ่านมากล่าวหากันว่ามีการฆ่าตัดตอน แต่จากผลการสอบสวนของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้สั่งให้มีการสอบสวนทั้งหมด และชัดเจนว่า ไม่มีการฆ่าตัดตอนแม้แต่คดีเดียว นอกจากนี้ คณะกรรมการสอบสวนชุด พล.ต.อ.จงรัก จุทานนท์ อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ตั้งขึ้นมาก็ระบุเหมือนกันว่า ไม่มีการฆ่าตัดตอน และดูเหมือนจะมีเรื่องเดียวที่ตำรวจไปเกี่ยวข้องคือ กรณีที่อดีตตำรวจ สน.บางชัน ไปยิงรถคนร้ายค้ายาเสพติด แล้วแฉลบไปถูกลูกของคนร้ายหรือน้องฟลุ๊คที่อยู่ในรถด้วยเสียชีวิต
“สำหรับผมจะใช้หลักละมุนละม่อม แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใดก็ตาม ก็คงจะไม่ถึงกับต้องเอาผ้าขาวไปกราบว่า ขอจับเถอะนะ ซึ่งการปราบปรามแบบจะดำเนินการควบคู่กับการยึดทรัพย์ ปปง.และ ป.ป.ส.จะต้องเข้ามาช่วยเหลือรัฐบาลให้มากขึ้น หากใครค้ายาเสพติดเงินที่ได้มาทั้งหมดจะต้องถูกยึดทรัพย์ และผมจะดำเนินการประสานงานกับต่างประเทศ เพื่อนำ ป.ป.ส.ทุกหน่วยงานไปอยู่ในประเทศเป้าหมาย ที่เป็นสาเหตุของยาเสพติดในประเทศไทย หากผมเจรจาให้ประเทศนั้น ลดราวาศอกเรื่องยาเสพติดกับประเทศเราไม่สำเร็จ ผมก็จะฟ้องร้องต่อโลก โดยจะมีการร้องเรื่องนี้กับองค์การสหประชาชาติ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว และว่า สำคัญคือจะมีการบริหารจัดการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตนจะลดนโยบาย ลดยุทธศาสตร์ แล้วนำการปฏิบัติการมานำทั้งหมด โดยจะมีความเด็ดขาดและการสอบสวนจะให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันทุกกรณี ไม่ใช่ขยายเวลาการสอบอยู่เรื่อยไป
“จากนี้ไปอีก 10 วันผมประชุม ป.ป.ส. หลังจากนั้นผมลงพื้นที่ 3 จังหวัด (จ.เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน) ก็ขอความกรุณาแม่ทัพนายกองทั้งหลายว่า ขอให้สนับสนุนผมด้วย และต่อจากนี้ไปผมจะพูดเรื่องการเมืองให้น้อยลง จะมาทำเรื่องยาเสพติดให้มากขึ้น ที่สำคัญคือ กองบัญชาการกองทัพบก ต้องช่วยผมด้วย เพราะผมเคยเป็นกำลังพลของกองทัพบกมา เคยอยู่กองทัพบกมา 7 ปีก่อนที่จะย้ายมาเป็นตำรวจ ดังนั้น ผมถือเป็นคนของทั้งกองทัพบกและตำรวจ ครั้งนี้หากผมทำผิดพลาด ท่านทั้งหลายก็ต้องรับผิดชอบร่วมกับผมด้วย ในทางการเมือง ผมอาจจะดูแล้วไม่น่ารัก ดูแล้วน่าหมั่นไส้ แต่อย่าโกรธผมเลย ผมไม่เคยทุจริต ผมขอฝากเนื้อฝากตัวเอาไว้กับท่าน ผมยืนยันว่าจะตั้งใจทำงาน ไม่มีเรื่องการหาผลประโยชน์ ไม่มีการทุจริต ถ้าทุจริตขอให้ผมวิบัติหายนะ แต่ถ้าผมทำสำเร็จ ผมไม่ขออะไรมาก แค่ขอรัฐบาลชุดนี้ครบ 4 ปี แล้วอีก 4 ปีอีก 4 ปี รวมเป็น 12 ปีเท่านั้นก็พอ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว