“ยงยุทธ” ยันสั่ง กทม.แก้น้ำท่วมขังแล้ว ชี้ หลายจังหวัดดีขึ้น เชื่อสิ้นปีแห้งหมด พร้อมเร่งรัดจ่าย 5,000 คาดจบ 14 ม.ค.ยันมีเงินจ่าย รับเจ้าหน้าที่มีน้อยต้องเห็นใจ ให้รองผู้ว่าฯ รักษาการ ผวจ.แทนในจังหวัดตำแหน่งว่าง ชี้ ระเบียบ ก.พ.เข้มทำแต่งตั้งช้า ชี้ มีแต่สิงห์ดำ แค่สื่อวิพากษ์ ยันเริ่มประเมินผู้ว่าฯ, นอภ.แล้ว รับยังกะไม่ถูกฟื้นฟูและสร้างอนาคตชาติต้องใช้เงินมากเท่าไหร่ อ้างนักธุรกิจยุ่นยังยืนยันไทยน่าลงทุน
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวไม่พอใจเกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ซึ่งยังไม่มีการสั่งการให้ กทม.ดำเนินการรับผิดชอบโดยเร็ว ว่า เข้าใจความรู้สึกประชาชน ตนนั้นน้ำก็ท่วมบ้านเหมือนกัน และรู้สึกเป็นทุกข์ พี่น้องประชาชนก็คงทุกข์เหมือนกัน ทาง กทม.ก็ได้บอกไปแล้วและรีบทำกันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อไม่มีการกดดันก็จะมีการทำงานกันอย่างเฉื่อยชา นายยงยุทธ กล่าวว่า ก็เป็นความรับผิดชอบ ซึ่งเขาก็ต้องรับผิดชอบกับประชาชนอยู่แล้ว เพราะเขาได้รับการเลือกตั้งมา ประชาชนก็กดดันอยู่แล้ว ทางราชการเอง ในฐานะกระทรวงมหาดไทยดูแล กทม.ก็พยายามประสานงานอยู่ตลอด
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดูแลหลายร้อยหมู่บ้านที่น้ำท่วมขังอยู่ในช่วงปีใหม่จะมีความชัดเจนอย่างไรบ้าง นายยงยุทธ กล่าวว่า คร่าวๆ ในวันที่ 20 ท่านนายกฯ ก็อยากจะให้เป็นของขวัญปีใหม่กับพี่น้องประชาชนได้ชีวิตตามปกติสุข ก็พยายามติดตามประสานงาน กับจังหวัดอยู่เรื่อยๆ ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อซักว่า ถึงขนาดนี้ยังยืนยันหรือไม่ก่อนสิ้นปีน้ำจะแห้งหมด นายยงยุทธ กล่าวสั้นๆ เพียงแค่คำว่า ครับ เมื่อซักต่อว่า ตอนนี้รายงานเบื้องต้นหนึ่งร้อยหมู่บ้านแห้งไปเท่าไหร่แล้ว นายยงยุทธ กล่าวว่า เหลือน้อยเต็มทีแล้ว อย่างเมืองเอก ที่ว่าหนักหนาสาหัส เมื่อสองวันที่แล้วก็เหลือเท่าตาตุ่ม ผู้อยู่อาศัยก็เข้าไปฟื้นฟูบูรณะแล้ว
เมื่อถามว่า ทางสมาคมสิ่งแวดล้อมระบุว่า ชุมชนในหลายพื้นที่ กทม.ที่ถูกลืม จะมีการเข้าไปตรวจสอบอย่างไร เพราะว่าขณะนี้น้ำยังไม่ลด นายยงยุทธ กล่าวว่า พยายามที่จะเข้าไปช่วย กทม. เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็ไปดูที่ดอนเมือง ช่วยเร่งรัดในเรื่องเงิน 5,000 บาท ซึ่งวันนั้นก็เป็นเรื่องที่มีคนมาลงทะเบียนแล้วแต่ไม่ยังไม่ได้รับเงิน หรือยังไม่ได้ลงทะเบียนก็มายื่นเรื่อง หรือข้ามเขตก็มายื่นเรื่องได้ ตอนนี้ก็เข้าไปช่วย กทม.อยู่ และแบ่งไปตามจุดต่างๆ อีก 12 จุดในดอนเมือง
เมื่อถามว่า ที่จังหวัดนนทบุรี ยังไม่มีการจ่ายเงิน นายยงยุทธ กล่าวว่า เร่งรัดทำอยู่ ตามจังหวัดก็จะทราบ เมื่อซักว่า ทางมหาดไทยได้มอบหมายหรือเร่งรัดการจ่ายเงินแต่ละจังหวัดให้กับประชาชนที่น้ำท่วม วันไหน นายยงยุทธ กล่าวว่า ให้เสร็จภายในวันที่ 14 มกราคม เมื่อถามว่า แล้วมีเงินที่จ่ายหรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เงินมีอยู่แล้ว ไม่มีก็ต้องหามา 5,000 บาท ต้องให้ประชาชนเขา
เมื่อถามว่า นอกเหนือจากเงิน 5,000 บาท ยังมีเงินส่วนอื่นช่วยเหลือค่าเสียหายอื่นๆ หรือไม่ และมีหลักเกณฑ์อนุมัติอย่างไรบ้าง นายยงยุทธ กล่าวว่า หลายที่เริ่มไปแล้ว อาจจะมีบางส่วนใน กทม.ที่เข้าไปสำรวจไม่ได้ เจ้าหน้าที่อาจจะมีน้อยก็ต้องเห็นใจใน กทม.ต้องสำรวจสองส่วนด้วยกัน คือ ส่วนที่น้ำท่วมขัง และเมื่อน้ำลดก็ต้องไปดูความเสียหาย ดูเครื่องมือทำมาหากิน ตนคิดว่า ทุกคนก็ไม่นิ่งนอนใจ ก็ต้องรับผิดชอบกับประชาชนด้วยกัน
เมื่อถามว่า เรื่องขยะหลังน้ำลดขณะนี้หลายพื้นที่มีปัญหา ทั้งในพื้นที่ชุมชน และพื้นที่สาธารณะที่ยังไม่เข้าไปเก็บ นายยงยุทธ กล่าวว่า ขยะจริงๆ ก็เป็นสินค้าตัวหนึ่ง ที่มีคนต้องการเอาไปแยกหมุนเวียนใช้ต่อ เพื่อเอาไปใช้เป็นเชื้อเพลิง ก็พยายามจะหาคนที่มีรายได้กับขยะ ให้มาขนไปเอง บางทีก็มีการซื้อขาย ไม่ใช่ของที่ไม่มีค่า มีค่าเพราะว่านำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงหมุนเวียน เป็นสินค้า พลาสติกรีไซเคิลได้อีก
เมื่อถามว่า ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องน้ำยืนยันว่าจะต้องเป็นไปตามสัญญาที่จะทำให้กับประชาชน นายยงยุทธ กล่าวสั้นๆ อีกครั้งว่า ครับ ครับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีผู้ว่าราชการอีก 16 ตำแหน่งที่ยังไม่ได้มีการแต่งตั้ง และจะต้องมีการฟื้นฟูจังหวัดเหล่านั้นจะสามารถทำได้หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ผู้ว่าราชการไม่มี ก็มีรองผู้ว่าราชการอยู่ ก็ใช้อำนาจรักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด ทำงานไปให้ได้และพยายามแต่งตั้งผู้ว่าฯ ให้เร็ว บังเอิญว่าเป็นกฎระเบียบของ ก.พ.ที่จะเลื่อนจากระดับ 9 เป็นระดับ 10 ไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม โดยมีผู้บังคับบัญชาตัดสินใจได้เลย แต่ปัจจุบันจะต้องสอบ เสนอ ความคิดความอ่านของตัวเอง มีการสอบสัมภาษณ์ มีขั้นตอนเยอะ ที่กระทรวงจะมีคณะกรรมการมีเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า ที่บอกว่า มีแต่สิงห์ดำไม่มีสิงห์แดงเลย เพราะรัฐมนตรีก็สิงห์ดำเหมือนกัน เรื่องนี้เป็นอย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า ทำไม่ได้หรอกครับ เรียกว่า เป็นสีสันในการวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การประเมินผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอแต่ละจังหวัด หลังจากมีการส่งหนังสือแจ้งไปแล้ว ขณะนี้มีการเริ่มกระบวนการหรือยัง นายยงยุทธ กล่าวว่า ส่งหนังสือแจ้งไป และกำหนดหลักเกณฑ์ในการประเมิน เพราะการประเมินนั้นคนละแบบกับที่ฝ่ายประจำประเมิน ตรงนี้เป็นการประเมินให้รีบทำนโยบายของรัฐบาลให้สำเร็จและมีปัญหาขัดข้องอะไรบ้างก็ให้บอกกันมา สมัยก่อนก็มีการทำแต่จะให้ ส.ส.เป็นฝ่ายประเมินเป็นการภายใน ตอนนั้น ส.ส.สามารถทำได้เพราะรัฐธรรมนูญยังไม่ห้าม แต่ขณะนี้รัฐธรรมนูญห้ามแล้ว ก็คงต้องใช้การรับฟังเอา
เมื่อถามว่า ถือเป็นการขันนอตการทำงานของผู้ว่าฯ และนายอำเภอในพื้นที่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เหมือนกับที่ให้รัฐมนตรีแสดงผลงาน เพื่อจะได้ทราบว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้วและเกิดปัญหาอะไร เมื่อซักว่า การประเมินครั้งนี้จะให้คุณโทษอะไรบ้าง นายยงยุทธ กล่าวว่า นั้นมันอีกส่วนหนึ่ง เป็นส่วนประกอบหนึ่ง แต่ไม่ใช่เรื่องนี้เรื่องเดียว
ส่วนความคืบหน้าประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) นั้น นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นการเสนอหลักการขึ้นมาก่อน ส่วนรายละเอียดจะมีอนุกรรมการหาแนวทาง เมื่อถามว่า ต้องใช้เงินจำนวนมากหรือไม่และประมาณเงินไว้เท่าไหร่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เงินคงต้องมากแน่เพราะว่า ถ้าจะแก้ปัญหาถาวรก็ต้องลงทุน เพื่ออนาคตที่ดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับประเทศให้กับนักลงทุนต่างชาติก็คงต้องทำ แต่สำคัญว่าการใช้เงินจะต้องมีประสิทธิภาพ คือ ต้องได้ผล และต้องประหยัด เมื่อถามว่า มีการกำหนดเงินที่ชัดเจนไว้เท่าไหร่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ยังกะไม่ถูก เพราะต้องดูโครงการที่จำเป็น และต้องประมาณราคา ของแต่ละโครงการ ยังบอกตอนนี้ไม่ได้
เมื่อถามว่า เท่าที่ ปภ.มีข้อมูลอยู่เกี่ยวกับความเสียหายปีนี้ ประเมินแล้วน่าจะลงทุนกับเรื่องอะไรเป็นหลัก นายยงยุทธ กล่าวว่า ต้องทำเป็นภาพรวมจะพูดเป็นเรื่องๆ คงไม่ได้ ตั้งแต่ผังเมือง การระบายน้ำให้เร็ว การกักเก็บน้ำ เมื่อถามว่า ปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องการระบายน้ำจะทำได้ทันหรือไม่ เนื่องจากนักธุรกิจและประชาชนเป็นกังวลในเรื่องนี้ นายยงยุทธ กล่าวว่า จะถึงฤดูฝนใหม่อีกครั้งก็ต้องทำในส่วนที่จำเป็นก่อน เรื่องพนังกั้นน้ำถาวร คลองประปา ก็ต้องรีบทำ เพราะต้องรักษาไว้ให้ได้ ซึ่งแผนพวกนี้ก็ต้องเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการฯ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องศึกษาพอสมควรในเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม ส่วนการเงินคงไม่มีปัญหา เพราะฐานะของประเทศทุกคนก็ทราบ ว่า ประเทศไทยมีฐานะทางการเงินมั่นคง ระบบการปกครองก็ค่อนข้างมั่นคง ใครๆ ก็อยากให้เรากู้เงินมาใช้ แต่แผนต้องชัดเจน และล่วงหน้า ส่วนกรณีการลงทุนยืนยันว่าประเทศไทย ยังเป็นประเทศที่เหมาะกับการลงทุน จากการไปต่างประเทศ นักลงทุนญี่ปุ่นก็ยังยืนยันว่าน่าลงทุน
