รองเลขาฯ กกต.เผย อยู่ระหว่างร่างคำร้องถึงประธานสภา ยื่นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ “จตุพร” สิ้นสภาพ คาดไม่เกิน 10 วัน ถึงมือ กกต.ก่อนส่งเรื่องสภา ช่วงวันคริสต์มาส 25-30 ธ.ค.นี้ เผยสรรหาตำแหน่งเลขาฯ กกต.แทน “สุทธิพล” มี “อดีตปลัด กทม.” ที่ปรึกษานายทะเบียนพรรคการเมือง ยื่นใบสมัครรายแรก
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายสมชาติ เจศรีชัย รองเลขาธิการ กกต.ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าการส่งคำร้องกรณีขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สิ้นสุดลง ว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการยกร่างคำวินิจฉัย ที่จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน นับแต่วันที่ กกต.มีมติ คาดว่า ไม่น่าจะเกิน 10 วันนับจากนี้ หรือประมาณวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ร่างคำวินิจฉัยก็จะถึงมือ กกต.ทุกคน และเมื่อ กกต.ได้มีการตรวจร่างและลงนามแล้ว เชื่อว่า ภายในวันที่ 25-30 ธ.ค.นี้ คำร้องดังกล่าวจะนี้จะส่งถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้
“แม้ว่าการยกร่างคำวินิจฉัยค่อนข้างจะยาก เพราะมติ กกต.ครั้งนี้ไม่ได้เป็นเอกฉันท์ และ กกต.แต่ละคนมีความเห็นแตกต่างกันในข้อกฎหมาย แต่ก่อนหน้านั้น กกต.มีความชัดเจนในประเด็นข้อเท็จจริงไปแล้ว การเขียนจึงต้องนำข้อเท็จจริงมาประกอบข้อกฎหมายให้ชัดเจน ซึ่งก็ยังเชื่อว่าการยกร่างคำวินิจฉัยจะไม่หลุดจากกรอบเวลานี้” นายสมชาติ กล่าว
นอกจากนี้ นายสมชาติ กล่าวถึงการเปิดรับสมัครเลขาธิการ กกต.แทนตำแหน่งที่ว่าง ที่ กกต.กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 6-30 ธ.ค.ว่า ในการเปิดรับสมัครวันแรกมีผู้สนใจเดินทางมายื่นใบสมัครแล้ว 1 ราย คือ นายพงศ์ศักดิ์ เสมสันต์ ที่ปรึกษานายทะเบียนพรรคการเมือง อดีตปลัดกรุงเทพมหานคร โดยผู้ที่ประสงค์จะยื่นใบสมัครนั้น นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติตามที่ประกาศ กกต.กำหนดไว้แล้ว โดยคุณสมบัติสำคัญจะต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีความเป็นกลางทางการเมือง ผู้สมัครยังจะต้องระบุถึงประสบการณ์ในการบริหารงานที่คิดว่าเป็นผลสำเร็จของตนเองไม่น้อยกว่า 3 เรื่อง พร้อมกับนำเสนอวิสัยทัศน์การบริหารงานในตำแหน่งเลขาธิการ กกต.ให้ได้พิจารณาด้วย อย่างไรก็ตาม การเปิดรับสมัครครั้งนี้ ตนเองคิดว่าจะมีผู้ยื่นใบสมัครไม่น้อยกว่า การรับสมัครเลขาธิการ กกต.ครั้งที่แล้ว โดยน่าจะมีผู้สมัครประมาณ 30-50 คน และเชื่อว่า วาระการดำรงตำแหน่งของ กกต.ชุดปัจจุบันที่เหลืออีกประมาณ 2 ปีจะไม่เป็นส่วนที่ทำให้ผู้ที่จะมาสมัครมีจำนวนน้อยกว่าที่คาด เพราะเลขาธิการ กกต.มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และไม่ได้หมดวาระไปพร้อมกับ กกต.ซึ่งในการบริหารงานของ กกต.ชุดที่ผ่านๆ มา พนักงาน กกต.จะเป็นมือไม้ที่สำคัญของ กกต.ดังนั้น ถ้าเลขา กกต.เป็นหลักที่ดีก็จะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานของ กกต.และสำนักงาน
