กกต.ระบุคำร้องขอให้พิจารณาคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของ “จตุพร” หากที่ประชุมเห็นว่าเข้าข่ายขัด รธน.91 อาจต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เหตุต้องพิจารณาตามข้อ กม.หลายชั้น เพราะศาลมีคำสั่งห้ามออกไปใช้สิทธิ์ ซึ่งจะมีผลทำให้สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.หรือไม่
วันนี้ (5 ก.ค.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวถึงกรณี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่มีคำร้องของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ที่ขอให้ กกต.พิจารณาคุณสมบัติของนายจตุพร จะเป็น ส.ส.ได้หรือไม่นั้น ที่ผ่านมา ในการประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2550 ที่เป็น ส.ส.แบบสัดส่วนในครั้งนั้น หากมีเรื่องร้องเรียน กกต.ถึงกรณีตัวผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.สัดส่วนที่มีเรื่องทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ก็อาจยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งผู้สมัครรายนั้น ซึ่งอาจเหมือนกรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ กกต.ให้เว้นการประกาศไว้ก่อน แต่หากพิจารณาไม่เสร็จใน 30 วัน นับจากวันเลือกตั้ง กกต.ก็จำเป็นต้องประกาศผลการเลือกตั้งไปก่อน แล้วพิจารณาในภายหลัง
นายสุทธิพล กล่าวว่า กรณีของนายจตุพร ต้องดูว่าเป็นเรื่องคุณสมบัติหรือเรื่องที่ทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ทั้งนี้ การที่นายจตุพรจะได้รับการประกาศผลเป็น ส.ส.หรือไม่จึงขึ้นอยู่ที่ กกต.จะพิจารณา อย่างไรก็ตาม ในเรื่องคุณสมบัติหาก กกต.ได้ประกาศผลการเลือกตั้งให้นายจตุพรเป็น ส.ส.แล้วมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ ส.ส.ก็จะเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 ที่ กกต.จะพิจารณาตรวจสอบหากเห็นว่ามีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติ กกต.ก็จะส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า การที่นายจตุพรไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะมีผลให้สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.หรือไม่นั้น ดังนั้น ต้องดูในข้อกฎหมายก่อน แต่กฎหมายก็ได้ห้ามนายจตุพรมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง แม้ต้องการจะไปเลือกตั้งแต่ศาลไม่อนุญาตให้ไปเลือกตั้งก็ไม่สามารถเลือกตั้งได้ ดังนั้น กรณีนี้ต้องดูกฎหมายก่อนและต้องให้ กกต.พิจารณา