บ้านพระอาทิตย์วิเคราะห์
ตามข่าวบอกว่านายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเร่งรัดให้บรรดารัฐมนตรีทั้งหลายสรุปผลงานในรอบ 3 เดือนของแต่ละคนนำมาเสนอ โดยระบุว่าเตรียมจะนำไปแถลงต่อประชาชน ขณะเดียวกันตามข่าวบอกว่ามีรัฐมนตรีบางคนที่ถูกมองว่าไม่มีผลงาน และอยู่ในข่ายที่จะต้องถูกปรับออกไปหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีกันในต้นปีหน้า
ฟังดูเผินๆก็น่าจะเป็นเรื่องดีถ้ารัฐมนตรีคนใด ไม่มีผลงาน ทำงานได้ไม่คุ้มค่า มันก็ไม่สมควรอยู่ในตำแหน่งให้เปลืองเงินเดือน เงินภาษีของชาวบ้าน เพราะรัฐมนตรีเปรียบเหมือนเสนาบดีต้องมีความพิเศษกว่าชาวบ้าน ทั้งในเรื่องของความรู้ความสามารถแต่ถ้าเอาเข้าจริงแล้วเป็นพวกสมองกลวงไร้สติปัญญาเป็นภาระของสังคมก็ควรแล้วที่จะต้องถูกอัปเปหิออกไปโดยด่วน เพราะเปรียบเหมือนเป็นบริษัทเอกชนส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาในการประเมินการทำงานในรอบ 3 เดือนว่าจะบรรจุเข้าทำงานเป็นพนักงานประจำหรือไม่ ถ้าไม่ได้เรื่อง ไม่สมราคาคุยไว้ตามที่ระบุเอาไว้ก็คงต้องเอาออกไปเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดีเมื่อตั้งสติหยุดคิดความหมายของคณะรัฐมนตรีก็ต้องหมายรวมถึงนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้นเมื่อให้รัฐมนตรีส่งผลงานมาให้พิจารณา ตัวนายกรัฐมนตรีก็ต้องรายงานด้วยว่าได้ใช้สมองสร้างผลงานอะไรที่เป็นประโยชน์กับชาวบ้านและประเทศชาติส่วนรวมในรอบ 3-4 เดือนที่ผ่านมา
หากแยกพิจารณากันเฉพาะบรรดารัฐมนตรีแต่ละคนถ้าลองไปถามความเห็นชาวบ้านรับรองว่าน่าจะออกมาตรงกันก็คือ ไม่ได้เรื่องได้ราว แม้ไม่อยากจะพูดว่า “ห่วยแตก” แต่ก็จำเป็นต้องพูดแบบนั้นจริงๆ และความหมายของรัฐมนตรีที่มีผลงานกับรัฐมนตรีที่เป็นข่าวรายวันนั้นมันย่อมต่างกันด้วย เพราะบางคนที่เป็นข่าวก็ไม่ได้หมายความว่ามีผลงานอะไร
ถ้าไม่เชื่อก็ลองไล่เรียงลงมาให้เห็นกันทีละคนก็ได้ เริ่มจาก รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ มีผลงานอะไรที่น่าจดจำบ้าง นอกเหนือจากข่าวคราวทุจริตถุงยังชีพในกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) การเป็นประธานคณะอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม(ศอส.) ซึ่งมีอำนาจมากมายมีทั้งสั่งการรัฐมนตรีต่างๆไม่ต่างจากนายกรัฐมนตรี เพื่อบัญชาการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เริ่มขยายวงกว้าง แต่แล้วเป็นไง เห็นกันอยู่แล้ว สิ่งที่ปรากฏเป็นผลงานของหน่วยงานนี้เท่าที่จำได้ก็คือรายงานยอดผู้เสียชีวิตและสูญหายว่ามีเพิ่มจำนวนกี่รายแล้วเท่านั้นเอง และจากความล้มเหลวดังกล่าวนี่เองจึงต้องนำไปสู่การแต่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) ที่มี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ขึ้นมาซ้ำซ้อนแบบพิลึกพิลั่น ซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างกัน
หันมาดูคนอื่นบ้าง ยกตัวอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เจ้าตัวอาจเข้าใจผิดว่าเป็นข่าว ได้โชว์ภาษาอังกฤษทุกวันว่านี่คือผลงาน รับรองว่าไม่ใช่แน่นอน เพราะไม่เห็นจะมีอะไรโดดเด่น นอกเหนือจากใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ผลักดันให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ พี่เมียของ ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจากนั้นก็มีการแต่งตั้ง พล.ต.ท.วินัย ทองสอง “หลานเขย”ของ พจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ ได้เลื่อนชั้นจากรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สำเร็จ
อีกเรื่องที่หากนับว่าเกือบจะเป็นผลงานก็คือ อาสารักษาการนายกรัฐมนตรีหลังจากวางแผนให้ ยิ่งลักษณ์ ติดค้างอยู่ต่างจังหวัดเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายในเรื่องการขัดกันแห่งผลประโยชน์ด้วยการผลักดันพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษด้วยการสอดไส้ครอบคลุมไปถึง ทักษิณ แต่บังเอิญว่าความลับรั่วจนถูกเปิดโปงถูกต่อต้านจึงต้องถอยแล้วกำลังคิดหาทางเอาเปรียบชาวบ้านด้วยหนทางอื่น
อย่างนี้คงไม่นับเป็นเรื่องของผลงาน รวมไปถึงการให้สัมภาษณ์สารพัดเรื่องแล้วเป็นข่าวรายวันด้วย
นอกจากนั้นบรรดารัฐมนตรีคนอื่นก็ไม่เห็นแววที่ควรจะต้องจดจำและมีความหวังได้เลย ตรงกันข้ามมีแต่เรื่องน่าเหยียดหยามและขยะแขยง นึกไม่ถึงว่าคนประเภทนี้เข้ามาเป็นรัฐมนตรีเป็นผู้บริหารประเทศได้อย่างไร ถูกตั้งคำถามว่าทำไมประเทศไทยถึงได้โชคร้าย หลายคนบอกว่าตำแหน่งสำคัญได้ผ่านการเห็นชอบและผ่านการคัดเลือกจาก ทักษิณ ชินวัตร แต่เมื่อผลที่ออกมาอย่างที่เห็นก็ต้องถามกลับไปว่า มาตรฐานของ ทักษิณ เป็นแบบนี้หรือ
สำหรับการพิจารณาผลงานของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บ้าง ลองถามจริง แล้วตอบจริงสิว่าเธอมีผลงานอะไรบ้างที่เป็นจริงเป็นจัง การเป็นผู้นำไม่ใช่แค่ไปเฉิดฉาย แค่ยิ้มหวาน ไปเปิดงานกดปุ่มแพรคลุมป้าย เท่านั้น หากวัดผลงานจากการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่เป็นอยู่เชื่อว่าไม่ต้องอธิบายกันมากเห็นกันอยู่แล้วว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยเอาแค่พูดจาที่ต้องใช้ความรู้รอบตัวแบบเด็กชั้นประถมเธอยังสอบไม่ผ่านเลย นับประสาอะไรจะมาเป็นผู้นำประเทศ ดังนั้นก่อนที่จะให้คนอื่นแสดงผลงานประกอบการพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรี ตัวนายกฯยิ่งลักษณ์ เองนั่นแหละลองเค้นออกมาให้เห็นสักเรื่องสิว่าทำอะไรให้ได้ชื่นใจบ้าง
และถ้ามีการวัดผลงานห่วยแตกของบรรดารัฐมนตรีเพื่อเป็นเหตุผลในการให้ออกจากเก้าอี้ ถ้าเป็นแบบนี้จริงคนที่ต้องไปก่อนคนอื่นก็คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั่นแหละ !!
