“อ.ณรงค์” จี้รัฐดูแลปัญหาว่างงานหลังน้ำลด ชี้ทุ่มเอาใจนายทุนแต่ก็ยังมีการปลดลูกจ้างอยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานนอกระบบไม่มีใครสนใจเลย ระบุถึงเวลาแล้วควรมีธนาคารแรงงานเพื่อช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ พร้อมหนุนค่าแรง 300 บาท ลั่นไม่ต้องกลัวเอกชนย้ายฐานการผลิต เพราะในภูมิภาคนี้ ไทยค่าแรงต่ำ ฝีมือดี คุ้มที่สุดแล้ว ด้าน “ชาลี” ติงนโยบายจ่าย 2,000 บาทให้บริษัท กันไล่พนักงานออก ไม่ได้ผล แนะควรให้ผ่านลูกจ้างโดยตรง
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “คนเคาะข่าว”
วันที่ 30 พ.ย. รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการแรงงานสมานฉันท์ ได้ร่งมพูดคุยในรายการ “คนเคาะข่าว” ทาง ASTV ถึงประเด็น “ชีวิตแรงงานหลังน้ำลด”
รศ.ดร.ณรงค์กล่าวว่า นักเศรษฐศาสตร์ชอบบอกว่าไม่ห่วงปัญหาเรื่องตกงาน ซึ่งความจริงแล้วตัวเลขสถิติการว่างงานกับความเป็นจริงมันไม่ตรงกัน เนื่องจากตามสถิติคนทำงานอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ใน 7 วัน ก็ถือว่าไม่ตกงานแล้ว ช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่ในนาเล็กๆ น้อยๆ ก็เรียกว่าไม่ตกงาน หรือโรงงานหยุดชั่วคราวไม่ได้เงินเดือนก็ไม่นับว่าตกงาน ตัวเลขมันถึงต่ำ ให้ระวัง เพราะภาวะแบบนี้เรียกว่าการทำงานต่ำระดับ ซึ่งจะส่งผลให้กำลังซื้อของประเทศลดฮวบฮาบ และจะกระทบทุกภาคส่วน
รศ.ดร.ณรงค์กล่าวอีกว่า คนงานกินเงินเดือน เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่พยุงเศรษฐกิจไทย แต่รัฐบาลมองไปที่ตัวการผลิตหมดเลย ช่วยภาคธุรกิจอย่างเดียว ทำไมไม่มาดูลูกจ้าง และถึงเอาใจมากขนาดไหนก็เห็นว่านายจ้างก็ยังจะปลดคนออกอยู่ดี เนื่องจากไม่อยากจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ เมื่อรัฐบาลต้องการรักษาสถานะนายจ้าง ทำไมไม่รักษาสถานะลูกจ้างด้วย
รศ.ดร.ณรงค์กล่าวต่อว่า แรงงานนอกระบบภาคเกษตรยังมีแหล่งเงินให้กู้ อย่าง ธ.ก.ส. กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ แต่แรงงานนอกระบบแบบลูกจ้างเคว้งเลย ไม่มีแหล่งไหนรับรอง มันถึงเวลาแล้วที่ควรมีธนาคารแรงงาน ซึ่งคนกลุ่มนี้มีถึง 3-4 ล้านคน แต่ไม่มีใครสนใจเลย
เมื่อถามถึงนโยบายเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท เหมาะสมหรือไม่ นายชาลีกล่าวว่า ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท รัฐบาลทำถูกแล้ว วันนี้คุณภาพชีวิตคนงานไทยยังแย่อยู่ ทั้งๆ ที่ฝีมือไม่แพ้ใคร วันนี้ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้เท่ากับที่เขาทำงาน
รศ.ดร.ณรงค์กล่าวเสริมว่า ตอนวิกฤตเศรษฐกิจปี 40 เรียกว่าร้ายแรง แต่สำหรับคนงานปีนี้ร้ายแรงกว่า ตอนนั้นเกษตรกรยังอยู่ได้ แต่นี่เกษตรกรไปหมดแล้ว ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทจึงจำเป็น เพราะไม่เพียงพยุงพลังซื้อของครอบครัว แต่พยุงสังคมด้วย ภาคเกษตรในภาคอีสานรายได้ 100 บาท มาจากไร่นา 24 บาท ที่เหลือมาจากค่าจ้างที่ลูกส่งไปให้
จ่าย 300 บาทก็เห็นใจธุรกิจขนาดเล็ก เพราะบริษัทใหญ่สามารถกู้ดอกได้ถูก ได้รับการส่งเสริมการลงทุน เสียภาษีก็น้อย ฉะนั้นพวกนี้ไม่ควรอ้างว่า 300 บาท จ่ายไม่ได้ ส่วนบริษัทเล็กๆ ตนเชื่อว่าเขามีทางออก
ที่บอกว่าจะทำให้นักลงทุนย้ายฐานการผลิต จะย้ายไปไหน ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ ประเทศไทย ช่องว่างของค่าแรงกับประสิทธิภาพการทำงานมันสูงมาก นั่นคือฝีมือสูงแต่ค่าแรงนิดเดียว ฝีมือเราแพ้แค่สิงคโปร์ กับมาเลเซีย แต่ค่าจ้างเขาก็สูงกว่าเรามาก ถ้าอ้างว่าจะย้ายไปจีนยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะตอนนี้ค่าจ้างประเทศจีนสูงกว่าไทยแล้ว แต่คุณภาพต่ำกว่าเรา รัฐบาลไทยเอาใจนายทุนมากเกินไป ไม่ต้องห่วง เขาได้กำไรมหาศาลอยู่แล้ว
นายชาลีกล่าวว่า ตนคิดว่าการผลิตรถยนต์ถ้าจะย้ายคงไปที่อินโดนีเซีย แต่ขนาดฮอนด้าโดนน้ำท่วมหนักขนาดนี้ยังไม่ย้าย เพราะเขาคิดแล้วมันไม่คุ้ม เนื่องจากหากผลิตในอินโดนีเซียส่งเข้ายุโรปเขาไม่เอา เอาแต่เมดอินไทยแลนด์ เพราะฝีมือเราเท่าญี่ปุ่น
ส่วนกรณีที่รัฐบาลจะช่วยลูกจ้างหัวละ 2,000 บาท ยังเข้าใจสับสน ความจริงแล้วรัฐบาลจะช่วยนายจ้าง หมายถึงว่าให้นายจ้างไปทำสัญญากับรัฐ แล้วรัฐจะจ่าย 2,000 บาทต่อลูกจ้าง 1 คน ให้กับนายจ้าง เพื่อไม่ให้ไล่ออก พวกเราถึงต้องโวย เพราะจะมีใครมาเข้าโครงการรับ 2,000 แต่ต้องจ่าย 3,000 เขาก็ไม่เอา เลิกจ้างไปเลยดีกว่าไหม ทางที่ดีรัฐควรหาเงินมาก้อนหนึ่ง ถ้านายจ้างไม่จ่ายก็เอาเงินนี้มาให้ โดยไม่ให้ปลดพนักงานออก ช่วยโดยตรงไม่ต้องผ่านนายจ้าง
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ ปัญหาตกงานจะมากขึ้นหรือไม่ นายชาลีกล่าวว่า ไม่คิดว่าจะตกงานเยอะ แม้แรงงานข้ามชาติเข้ามาเยอะแต่มันก็ยังมีอุปสรรค และปี 2557 จะเกิดการค้าเสรี แรงงานไทยก็หมุนไปที่ประเทศอื่นที่เงินดีกว่า ส่วนแรงงานจากประเทศที่ค่าจ้างต่ำกว่าเราก็หมุนเข้ามาแทน เป็นวงจร เราติดอย่างเดียวคือภาษา พอไปทำงานต่างประเทศเลยได้ค่าแรงต่ำกว่าคนอื่น แต่เรื่องฝีมือนี่ไม่กลัวใคร
รศ.ดร.ณรงค์กล่าวว่า ขอร้องว่าถ้าจะจ้างแรงงานต่างด้าว ต้องทำให้ถูกกฎหมาย ทุกคนต้องเข้าประกันสังคม และค่าจ้างต้องเท่าคนไทย เพราะถ้าเท่าคนไทยเขาไม่จ้างคนต่างด้าวแน่
