“โสภณ” โต้ “เฉลิม” ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโครงการรถไฟฟ้า ฉะเพื่อไทยจัดฉากเล่นละครกลบวิกฤตน้ำ พ.ร.ฎ.อภัยโทษ หวังดิสเครดิตทางการเมือง ลั่นฟ้องกราวรูด “เฉลิม-พิเชษฐ์” โฆษกภูมิใจไทย เฉ่งเพื่อไทยไม่ใช่ลูกผู้ชาย ด้าน “เฉลิม” ไม่หวั่นถูกฟ้องกลับ อ้างไม่เคยเอ่ยชื่อ แฉซ้ำเหตุปล้นบ้านปลัดคมนาคมมาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เพราะขัดผลประโยชน์กัน รับเงินส่วนแบ่งไปแล้ว แต่ไม่บอกผู้ร่วมขบวนการ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "นายโสภณ ซารัมย์" แถลงข่าว
นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และอดีต รมว.คมนาคม แถลงตอบโต้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พาดพิงในการตอบกระทู้ถามสดในสภาฯ กรณีมีคนร้ายปล้นบ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม นับร้อยล้านบาท โดยมีการเชื่อมโยงถึงการทุจริตโครงการในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่า ขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยืนยันว่าจะสู้คดีให้ถึงที่สุด และพร้อมสนับสนุนให้มีการตรวจสอบหาความจริง
นายโสภณกล่าวว่า ประเด็นนี้ตนมองว่าเป็นละครฉากใหญ่ที่พรรคเพื่อไทยพยายามดิสเครดิตการเมืองหวังกลบกระแสวิกฤตน้ำท่วม และการพยายามออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ และนิรโทษกรรมช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชน ยืนยันว่าตนไม่มีความเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการรรถไฟสายสีต่างๆ และสามาถชี้แจงได้ โดยในส่วนของสายสีม่วงที่มีการกู้เงินจากไจกานั้นเพราะดอกเบี้ยถูก
ส่วนสายสีแดง ในส่วนของบางซื่อ-ตลิ่งชัน มีการลงนามในสมัยรัฐบาล คมช. ซึ่งมีการอนุมัติมาแล้ว ส่วนสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต ยังไม่มีการลงนาม และตนไม่มีส่วนเกี่ยวกับกับการประมูลแต่อย่างใด และการพยายามหยิบยกการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ เพื่อสร้างตัวเลขให้ดูสูง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าปลัดคมนาคมน่าจะสู้คดีให้ถึงที่สุดเช่นกันเพื่อพิสูจน์ความจริง
“การตอบกระทู้ในสภาของ ร.ต.อ.เฉลิม วานนี้ เป็นการร้อนรนฟันธงไปก่อน ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีความคืบหน้าชัดเจนขนาดนั้น แต่ก็ยังมีการรีบกล่าวหาปลัดคมนาคมกันอย่างร้อนรน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีหน่วยงานอย่างเช่น ป.ป.ช.เข้ามาร่วมตรวจสอบอยู่ด้วย และการตรวจสอบก็ยังไม่แล้วเสร็จ จึงสงสัยว่าทำไมต้องรีบพูดเรื่องนี้กัน และใช้เวทีสภาผู้แทนราษฎรสร้างกระแส จนอาจทำให้ประชาชนบางส่วนลืมปัญหาเรื่องน้ำท่วม ลืมเรื่องการเตรียมออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไปหมด”
นายโสภณกล่าวว่า เรื่องคดีโจรกรรมทรัพย์สินบ้านปลัดกระทรวงคมนาคม ได้ติดตามความเคลื่อนไหวและรับทราบข้อมูลมาโดยตลอดว่ามีการพยายามโยงเรื่องเข้าสู่ยุคสมัยรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ไม่อยากเคลื่อนไหวเกี่ยวข้อง เพราะไม่ต้องการให้สังคมสับสนเท่านั้น ซึ่งพร้อมที่จะตอบทุกข้อสงสัยต่างๆ เสมอ แต่ยืนยันว่าตั้งแต่ที่ตนเองรับหน้าที่รัฐมนตรี ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวกับผู้รับเหมาต่างๆ และยืนยันกับข้าราชการในกระทรวงตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ขอให้ช่วยทำงาน อย่าให้ต้องอายคน ซึ่งในการประชุม ครม.ก็ไม่เคยนำข้าราชการเข้าไปช่วยชี้แจง เนื่องจากต้องการเข้าใจเรื่องราวและงานของกระทรวงทั้งหมดด้วยตนเอง โดยไม่ต้องการรบกวนข้าราชการประจำโดยไม่จำเป็น
“ผมจะฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายที่ทำให้เสียชื่อเสียงต่อ ร.ต.อ.เฉลิม และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ผู้ตั้งกระทู้ โดยหวังว่าหลักนิติรัฐ และกฎหมายจะเป็นเครื่องพิสูจน์ความถูกต้อง โดยยังไม่มีการประเมินว่าจะเรียกค่าเสียหายเท่าไร แต่เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้จากการฟ้องร้องจะมอบให้มูลนิธิพิการทางสมอง ทั้งนี้มองว่าการเคลื่อนไหวของ ร.ต.อ.เฉลิม ครั้งนี้เพื่อต้องการสร้างตัวเองเป็นฮีโร่เพื่อหวังส้มหล่นหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้” นายโสภณกล่าว
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า กระทู้ดังกล่าวถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างและมีเจตนาไม่ดี ยืนยันว่านายโสภณพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงทุกกรณี ส่วนการเชื่อมโยงบริษัท ซิ-โนไทย นั้น บริษัท ซิ-โนไทยมีสิทธิ์ประมูลการก่อสร้างได้ตามกฎหมาย ดังนั้น วิธีการที่พรรคเพื่อไทยใช้เช่นนี้ ไม่ใช่วิถีทางของลูกผู้ชาย
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่หวั่นกรณีที่นายโสภณ ซารัมย์ เตรียมจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เพราะมั่นใจว่าไม่ได้เอ่ยชื่อนายโสภณในที่ประชุมสภาฯระหว่างชี้แจงกรณีปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคม วานนี้ ทั้งนี้ ขอย้ำว่าคดีปล้นบ้านปลัดคมนาคมดังกล่าว นายโก้ เป็นหัวหน้าทีมรับคำสั่งจากนักการเมืองให้ปล้นบ้านปลัดคมนาคม เพราะมีการขัดกันเรื่องผลประโยชน์โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีตัวเลขนับพันล้าน เนื่องจากทราบว่ามีการรับเงินส่วนแบ่งมาแล้ว แต่ไม่มีการบอกกล่าวผู้ร่วมขบวนการ จึงเกิดการบงการปล้นเงินส่วนนี้ขึ้น
โดยขณะนี้ ตำรวจภูธรภาค 4 กำลังไปติดตามตัวนายโก้ ที่มีกระแสข่าวว่าหลบหนีอยู่ที่ประเทศลาว พร้อมกันนี้ยังยืนยันจะไม่แทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือล้วงดูสำนวนสืบสวนสอบสวนแต่อย่างใด
ร.ต.อ.เฉลิมยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า นักการเมืองที่เกี่ยวข้องน่าจะมีเงินจำนวนมากกว่า ที่บ้านของปลัดฯคมนาคม และได้รับข้อมูลมาว่ามีรถเข้า-ออกบ้านนักการเมืองกลุ่มดังกล่าว ผิดปกติในช่วงนี้ด้วย ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าจะขุดรากถอนโคนคนทำผิดให้ได้
