ผบช.น.เผย ได้ประสานตำรวจประเทศลาวช่วยติดตามจับกุม “ไอ้โก้” หัวโจกปล้นบ้าน “สุพจน์” มาดำเนินคดี ย้ำ การนำสืบยังไม่ทิ้งประเด็นทุจริตโครงการรถไฟฟ้า เตรียมเรียกอดีตปลัดคมนาคมให้ปากคำเพิ่ม เกี่ยวกับจำนวนเงินที่หายไปไม่ตรงกับของกลางที่ตรวจยึดได้ ซึ่งต้องพิจารณาถึงเจตนาว่าเข้าข่ายให้การเท็จหรือไม่ ขณะที่ยอดเงินของกลางเพิ่มขึ้นเป็น 18 ล้านบาทเศษ หลังเจ้าหนี้ “สิงห์ทอง” ผู้ต้องหาร่วมปล้นนำมาส่งคืนตำรวจ
วันนี้ (25 พ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น.เปิดเผยความคืบหน้าคดีปล้นบ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ว่า ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทิ้งประเด็นการทุจริตโครงการรถไฟฟ้า หลังจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้พูดต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร์เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ว่าเป็นสาเหตุสำคัญของการปล้นทรัพย์ครั้งนี้
พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ขณะนี้ยอมรับว่า ยังไม่มีพยานหลักฐานที่จะสามารถเชื่อมโยงไปถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนอกเหนือจาก นายวีระศักดิ์ เชื่อลี หรือ โก้ ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ยังหลบหนีการจับกุม คาดกบดานอยู่ในประเทศลาว ซึ่งได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศลาว เพื่อช่วยติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว หลัง ร.ต.อ.เฉลิม ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าอาจถูกฆ่าตัดตอนได้
ส่วนหลักฐานที่เป็นกระเป๋าขนเงินที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดอ้างถึงในการอภิปรายในสภา เมื่อวานที่ผ่านมา นั้น พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นข้อมูลที่ตรงกับแนวทางการสืบสวนของตำรวจ พร้อมกันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมเรียกตัวนายสุพจน์เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังคำให้การครั้งแรกเรื่องจำนวนเงินที่ไม่ตรงกับเงินของกลางที่ตรวจยึดมาได้ ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงเจตนาด้วยว่าเข้าข่ายให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่หรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น.เปิดเผยว่า ล่าสุด เจ้าหนี้ของ นายสิงห์ทอง ใจชื่นชม หรือ ไก่ ได้นำเงินมาคืนให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจาก นายสิงห์ทอง ได้นำเงินที่ปล้นไปใช้หนี้ที่เคยกู้ยืมเป็นจำนวนเงิน 3 แสนบาท ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดเงินของกลางเพิ่มเป็น 18 ล้านบาทเศษ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการตรวจค้น 10 จุด ในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เป็นจุดต้องสงสัยว่า นายประพันธ์ เรียงเครือ 1 ในผู้ต้องหาที่ยังคงให้การปฏิเสธอยู่ จะนำเงินไปซุกซ่อนไว้ยังไม่พบของกลางหรือเบาะแสที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ต่อมาเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากช่วงเช้าที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีปล้นเงินบ้านนายสุพจน์ เดินทางไปขอหมายค้นบ้านพักนายประพันธ์ ที่ อ.ลำลูกกา คลอง 3 จ.ปทุมธานี ที่ศาลอาญา ปรากฏว่า จนถึงขณะนี้ศาลยังไม่อนุมัติหมายค้นให้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ที่ทางตำรวจยื่นเรื่องขออยู่ เพราะเป็นคดีที่ละเอียดอ่อนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งในส่วนของการตรวจค้นล็อกเกอร์เก็บสิ่งของ ของ นายประพันธ์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากการตรวจค้นแล้วไม่พบเงินของกลาง หรือสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ขณะนี้เป้าหมายหลักอยู่ที่บ้านพักของนายประพันธ์ ว่า จะมีเงินซุกซ่อนอยู่หรือไม่
