ผ่าประเด็นร้อน
ก่อนอื่นต้องตั้งคำถามก่อนว่า ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว มีบุญคุณอันอเนกอนันต์ เป็นวีรบุรุษของชาติ เสียสละเพื่อบ้านเมืองและชาวบ้านโดยไม่คิดสิ่งใดตอบแทน เข้ามาบริหารประเทศด้วยความเสียสละ ไม่มีแต่งตั้งญาติพี่น้อง พวกพ้องเข้ามาดำรงตำแหน่งทั้งตำรวจและทหารโดยวางฐานอำนาจ ปกป้องผลประโยชน์ส่วนตัว
เขาเป็นเศรษฐีที่ใจบุญเสียสละ เคยบริจาคช่วยเหลือคนจนนับร้อยล้านพันล้านบาทอยู่ตลอดเวลา และทนไม่ได้เมื่อได้เห็นเพื่อนร่วมชาติทุกข์ร้อนทุกครั้ง ไม่เว้นแม้กระทั่งเหตุการณ์น้ำท่วมคราวนี้ ก็ทักษิณก็บริจาคมาสมทบนับร้อยล้านบาท
เมื่อครั้งที่เป็นเจ้าของพรรคไทยรักไทย ผ่านการเลือกตั้งทุกครั้งไม่เคยซื้อเสียง ชาวบ้านศรัทธาเข้ามาล้วนๆ
การผลักดันน้องสาวตัวเอง คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี มีผลงานน่าประทับใจ พอจะเป็นความหวังได้หรือไม่ มีความรอบรู้เก่งกาจหรือไม่ ขณะเดียวกัน หากเชื่อว่า ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่เบื้อหลังการฟอร์มคณะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยแล้วคิดว่า รัฐมนตรีแต่ละคนมีความรู้ความสามารถน่าภาคภูมิใจหรือไม่
หากที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนเป็นตรงกันข้าม ทักษิณ ไม่ใช่เทวดา คิดว่าเป็นแค่นักต้มตุ๋นคนหนึ่งที่อาศัยเล่ห์เหลี่ยมจนหลอกต้มให้ชาวบ้านที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่หลงใหล ไม่ควรได้รับอภิสิทธิ์ใดๆ เหนือกว่าคนอื่น
ถามว่า ทักษิณ วิเศษวิโสกว่าคนอื่น บ้านเมืองฉิบหายวายป่วงลงไปทันที หากไม่มีทักษิณ อยู่ในโลกนี้ ทั้งชาตินี้และชาติหน้า คนไทยจะรู้สึกแย่ทันทีถ้าขาดเขาไปสักคนหนึ่ง
แต่อีกด้านหนึ่ง ถ้าเขาเป็นแค่ “คนหน้าเหลี่ยม” คนหนึ่ง ไม่ได้มีราคาค่างวดกับคนไทยส่วนใหญ่ ยกเว้นพวกรัฐมนตรีบางคนและ “หัวโจก” คนเสื้อแดงบางคนที่หวังพึ่งพาเงินทองและตำแหน่งจากการบงการของเขาแล้ว ทำไมคนแบบนี้จะต้องได้รับสิทธิพิเศษเหนือคนอื่น
ทำไมคนอื่นถูกศาลตัดสินจำคุก คดีถึงที่สุด กลับไม่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม นอกจากหลบหนีแล้ว ยังบังอาจโจมตีกระบวนการยุติธรรม ให้ร้ายจาบจ้วงพระเจ้าอยู่หัว แต่มาวันนี้กลับคิดขอพระราชทานอภัยโทษด้วยวิธีการที่พิสดารและ “เห็นแก่ตัว” อย่างที่สุด
นาทีนี้คงไม่ต้องมาอธิบายกันให้เสียน้ำลายกันอีกแล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใช้เล่ห์เหลี่ยมอย่างไรบ้างในการยัดไส้ อาศัยช่วงชุลมุนในภาวะที่คนไทยทุกข์ร้อนเรื่องปัญหาน้ำท่วม แต่ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง กลับคิดสุมหัวคิดแต่ช่วยเหลือคนทุจริตคนหนึ่งได้อย่างน่ารังเกียจที่สุด
เพราะหากพิจารณาจากผลงานของ น้องสาวตัวเอง ในฐานะนายกรัฐมนตรี กว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมาถือว่า “ไร้มาตรฐาน” แม้แต่พูดจายังพูดผิดพูดถูก ขาดความพร้อม ขาดแม้กระทั่งความรู้รอบตัว มองในภาพรวมแล้ว อย่าว่าแต่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เอาแค่เสมียนในบริษัททั่วไปเชื่อว่าคงไม่มีใครจ้างให้เสียเงินแน่นอน
การแก้ปัญหาทั้งก่อนและในช่วงเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมล้วนแล้วแต่ห่วยแตก ไม่ได้สร้างความประทับใจเลยแม้แต่น้อย
ที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์ใช้วิธีหลีกเลี่ยงไม่ยอมเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อปิดความผิดทางกฎหมายในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน กลัวว่าพระราชกฤษฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษช่วยเหลือทักษิณ เป็นโมฆะในภายหลัง
สำหรับเงื่อนไขของพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ไม่ว่ามองในมุมไหนล้วนแล้วแต่ต้องการให้ครอบคลุมช่วยเหลือ ทักษิณ โดยตรงนั่นคือ ผู้ต้องโทษที่อายุเกิน 60 ปี มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ตัดคดีที่เกี่ยวข้องกับคดีคอรัปชั่นออกไปมันก็ยิ่งชัดเจน
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นเมื่อมีการขยายความ ทำให้สังคมได้รับรู้แบบนี้ เชื่อว่าจะต้องมีมีปฏิกิริยาตามมาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะออกมาในทางไหนระหว่าง รับรู้แล้วนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร ปล่อยให้มันเป็นไป เพราะธุระไม่ใช่ ขณะที่อีกประการหนึ่งไม่ยินยอมเมื่อรับรู้และเห็นแล้วว่ามันไม่ยุติธรรมกับคนทั่วไป เป็นการเอาเปรียบ เป็นการย่ำยีกฎหมาย ย่ำยีศาลรวมไปถึงกดดันพระราชวินิจฉัย นำกฎหมายที่เกี่ยวกับการพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งเป็นเรื่องของพระราชกุศลเป็นเรื่องการเมืองอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน เพียงเพื่อให้คนคดโกงคนหนึ่งได้ประโยชน์เท่านั้น สุดแล้วแต่คนไทยจะคิดอ่านร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป!!