xs
xsm
sm
md
lg

“สุรพงษ์” ไม่สนม็อบต้านนิรโทษกรรม “ทักษิณ” อ้าง 15 ล้านเสียงเลือกมา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ(ภาพจากแฟ้ม)
“สุรพงษ์” ปฏิเสธรัฐบาลลักไก่เสนอ พ.ร.ฎ.นิรโทษกรรมช่วย “นช.แม้ว” ช่วงน้ำท่วม อ้างมีคนได้ประโยชน์ 2.6 หมื่นคน ส่วนการตัดเงื่อนไขคดียาเสพติด และทุจริตออกไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อ ปชป.เพิ่มได้ เพื่อไทยก็มีสิทธิ์ตัดทิ้ง เชื่อไม่ทำบ้านเมืองวุ่น เพราะรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง 15 ล้านเสียง ด้าน “ประชา” บอกเป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดอง

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว ครม.มีมติออก พ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมีการเอื้อประโยชน์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ทราบว่า ครม.มีการออกมติ ครม.ดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะไม่ได้อยู่ประชุมด้วย เนื่องจากติดประชุมร่วมรัฐสภาเรื่องไทย-กัมพูชา แต่เท่าที่ติดตามข่าวเรื่องการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษดังกล่าว เห็นว่าเป็นการออกในโอกาสครบรอบ 84 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีการทำเป็นประจำทุกปี ไม่ใช่การลักไก่ออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในช่วงน้ำท่วม และไม่ใช่การเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะทราบว่ามีผู้ได้รับการพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ 2.6 หมื่นคน แต่ไม่รู้ว่ารวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ และขั้นตอนสุดท้ายขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจว่าจะพระราชทานอภัยโทษให้หรือไม่

ส่วนที่ ครม.เสนอพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ โดยตัดเงื่อนไขเรื่องคดียาเสพติดและคดีทุจริตคอร์รัปชันทิ้งไป มีเจตนาเอื้อประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า เงื่อนไขทั้งสองข้อเป็นการออกเพิ่มเติมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลก เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เติมได้ เราก็มีสิทธิ์ตัดทิ้งได้ คุณเติมฉันไม่ว่า แต่ฉันตัดอย่ามาโวย

ทั้งนี้ การออกพระราชกฤษฎีกาถือเป็นอำนาจของ ครม.ที่มีสิทธิทำได้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องนำเข้าสภาหารือ เหมือนสมัยที่รัฐบาลประชาธิปัตย์เคยออกพระราชกฤษฎีกากู้เงิน 4 แสนล้านบาท และไม่เชื่อว่าพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษจะจุดชนวนให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองให้มีการปลุกม็อบสีต่างๆ ตามมาภายหลัง เพราะเราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง 15 ล้านเสียง ซึ่งทุกประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ก็ต้อนรับประเทศไทยที่เข้าสู่ประชาธิปไตยมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง

นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นการตัดสินใจของ ครม.แต่ต้องถามพรรคประชาธิปัตย์กลับว่าออกมาลนลานทำไม ความจริงเรื่องนี้หากมีการทำจริงๆ จะเกิดผลดี ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็สร้างความแตกแยก คดีความ การปราบประชาชน ฟ้องร้องมากมาย จากกรณีการสลายการชุมนุม เมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤษาภาคม 2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ก็อาจเข้าข่ายเป็นผู้ต้องหาเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเพียงการเสนอความเห็นของ ครม. และขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อปีนี้เป็นปีมหามงคล รัฐบาลก็คิดที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความปลอดโปร่ง สามัคคีปรองดอง

“พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคนไทยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน และก็เคยทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ พรรคประชาธิปัตย์อย่ามาหมกมุ่น ตามจองล้างจองผลาญ พ.ต.ท.ทักษิณ สังคมสัมผัสได้ถึงความอิจฉาริษยาและความเห็นแก่ตัวของพรรคประชาธิปัตย์ ที่กลัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะได้ประโยชน์ และกลัว พ.ต.ท.ทักษิณจนขนหัวลุก การดำเนินการของรัฐบาลเป็นการทำเพื่อส่วนรวม ไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง”

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นข้อเรียกร้อง 4 ข้อนั้น ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่เคยมีความคิดที่จะให้ ส.ส.ไปดำเนินการลักษณะกฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย ความคิดของพรรคประชาธิปัตย์ มีแต่การจ้องล้มรัฐบาล กล่าวหาซ้ำๆ เดิมๆ เรื่องภาวะผู้นำ หลับหูหลับตาด่า โดยไม่รู้ว่าเขาเยียวยาฟื้นฟูไปถึงไหนแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ควรเลิกอคติ นำวิกฤตไปสร้างโอกาสทางการเมืองให้ตัวเอง ถ้าอยากจะตรวจสอบการทุจริตก็เอาเลย เรื่องถุงยังชีพก็ว่ากันไป แต่ก็อย่าลืมไปดูกล้องซีซีทีวี กรณีคนตายเมื่อรัฐบาลชุดที่แล้วด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น