กมธ.กฎหมายฯ เสียงแตก ปชป.โดดขวางเพื่อไทยเสนอแก้ พ.ร.บ.กลาโหม ชี้หวังแทรกแซงและนำกองทัพรับใช้ระบบทักษิณ วอนหยุดสร้างประเด็นให้เกิดความขัดแยง เตรียมดันตรวจสอบหมู่บ้านแดง อำเภอแดง ระบุเป็นการสร้างความแตกแยกให้คนในชาติ
กรณีพรรคเพื่อไทยโดยนายประชา ประสพดี รองประธานคณะกรรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเสนอให้คณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวแก้ไขพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 ในสัปดาห์หน้า นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.เพชรบุรี และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยต่อกรณีดังกล่าวและในฐานะตนเองเป็นคณะกรรมาธิการชุดเดียวกันก็จะคัดค้านในที่ประชุมคณะกรรมาธิการต่อไป
นายอรรถพรกล่าวว่า พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 เป็นเกราะป้องกันการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองต่อกองทัพและนำกองทัพมารับใช้นักการเมือง ดังที่เคยเกิดขึ้นในระหว่างปี 2544-2547 ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี และมีการแทรกแซงกองทัพอย่างหนักจนถึงขั้นผลักดันญาติผู้พี่เป็นผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด และถือเป็นยุคมืดของกองทัพ
นอกจากนั้น พ.ร.บ.ดังกล่าวยังเป็นการสร้างเอกภาพในระบบบังคับบัญชาซึ่งถือเป็นหัวใจในทางยุทธการ ดังนั้น การแก้ไข พ.ร.บ.เพื่อเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองเข้าแทรกแซง กองทัพก็จะอ่อนแอลง ซึ่งจะกระทบต่อภาระกิจหลักในการปกป้องประเทศชาติและดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ
“เป้าหมายของพรรคเพื่อไทยต่อกรณีนี้มีอยู่ประการเดียว คือต้องการอำนาจโยกย้ายและจัดขุมกำลังในกองทัพให้หันมารับใช้ระบบทักษิณ เพราะกองทัพคืออุปสรรคสำคัญในการยึดประเทศของระบบนี้”
นายอรรถพรยังได้เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยหยุดการสร้างประเด็นที่เป็นความขัดแย้งในบ้านเมืองและถ้ายังเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ต่อไป ตนในฐานะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ก็จะเสนอให้คณะกรรมาธิการฯตรวจสอบกรณีการจัดตั้งหมู่บ้านแดง อำเภอแดง ซึ่งถือเป็นการสร้างความแตกแยกให้คนในชาติและละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชนที่เห็นต่างในหมู่บ้านและอำเภอนั้น โดยจะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อคณะกรรมาธิการเมื่อภาวะน้ำท่วมคลี่คลายลงเพราะต้องการให้ฝ่ายการเมืองทุ่มเทกำลังแก้ไขปัญหาอุทกภัยซึ่งเป็นวิกฤติของชาติมากกว่ามุ่งหน้ารับใช้คนคนเดียว