นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช. ) เรียกร้องให้ นางอมรา พงศาพิชญ์ ลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อ กรณีรายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม นปช. ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2553 ที่มีผู้เสียชีวิต 91 ศพ รั่วออกไปเผยแพร่ทางสื่อมวลชน และมีการบิดเบือนไม่ปกป้องผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง ว่า กสม.ควรทำหน้าที่สอบสวนเรื่องดังกล่าวต่อไป เพราะ แม้รายงานจะรั่ว ก็สามารถสอบสวนภายในได้
ดังนั้นนางอมรา ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะอาจมีการวางยา เพื่อให้เข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากอาจจะเห็นว่า ผลสอบออกมาแล้วไม่เป็นไปตามที่ต้องการ จึงใช้เกมการเมืองข้างนอกกดดัน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ผลสอบรั่วออกมา และคิดว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไม่ต้องเสียเวลาไปตรวจสอบสาเหตุที่ผลสอบรั่วด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการใดๆ แต่ กสม.ทั้งคณะควรพิจารณาตัวเองว่า จุดยืนด้านสิทธิมนุษยชน รั่วหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา กสม.ชุดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อบทบาทเหตุการณ์ล้อมปราบปรามประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งตนไม่เคยเห็นว่า กสม.ชุดนี้จะออกมาปกป้อง หรือเรียกร้องสิทธิให้กับผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างเป็นรูปธรรม
" ถ้า กสม.มีจุดยืนรั่ว แล้วผลสอบออกมาอย่างไร ก็ไม่มีความหมาย ดังนั้น กสม.ทุกคนควรนั่งล้อมวงประชุมเรื่องนี้ก่อนดีหรือไม่ว่า จุดยืนและอุดมการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนคืออะไร ได้ตอบสนองภารกิจของคนในชาติหรือไม่ และจะรับผิดชอบอย่างไร" นายณัฐวุฒฺ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีต กสม. เป็นบุคคลหนึ่งที่ออกมาต่อสู้กับคณะรัฐ ประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 สุดท้ายถูกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถอดถอน เป็นกรรมการองค์กรอิสระเพียงคนเดียว ที่ถูกถอดถอนจากสภาที่ตั้งโดยเผด็จการ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบาดแผลฉกรรจ์ครึ่งหนึ่ง และครั้งนี้ก็เป็น กสม.อีกชุดหนึ่งที่ทำให้สังคมไทยได้รับความเจ็บปวดกับคำว่าสิทธิมนุษยชน
ดังนั้นนางอมรา ไม่จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพราะอาจมีการวางยา เพื่อให้เข้าทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากอาจจะเห็นว่า ผลสอบออกมาแล้วไม่เป็นไปตามที่ต้องการ จึงใช้เกมการเมืองข้างนอกกดดัน
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้น ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ผลสอบรั่วออกมา และคิดว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ไม่ต้องเสียเวลาไปตรวจสอบสาเหตุที่ผลสอบรั่วด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการใดๆ แต่ กสม.ทั้งคณะควรพิจารณาตัวเองว่า จุดยืนด้านสิทธิมนุษยชน รั่วหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา กสม.ชุดนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ต่อบทบาทเหตุการณ์ล้อมปราบปรามประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งตนไม่เคยเห็นว่า กสม.ชุดนี้จะออกมาปกป้อง หรือเรียกร้องสิทธิให้กับผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างเป็นรูปธรรม
" ถ้า กสม.มีจุดยืนรั่ว แล้วผลสอบออกมาอย่างไร ก็ไม่มีความหมาย ดังนั้น กสม.ทุกคนควรนั่งล้อมวงประชุมเรื่องนี้ก่อนดีหรือไม่ว่า จุดยืนและอุดมการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนคืออะไร ได้ตอบสนองภารกิจของคนในชาติหรือไม่ และจะรับผิดชอบอย่างไร" นายณัฐวุฒฺ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีต กสม. เป็นบุคคลหนึ่งที่ออกมาต่อสู้กับคณะรัฐ ประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 สุดท้ายถูกสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถอดถอน เป็นกรรมการองค์กรอิสระเพียงคนเดียว ที่ถูกถอดถอนจากสภาที่ตั้งโดยเผด็จการ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นบาดแผลฉกรรจ์ครึ่งหนึ่ง และครั้งนี้ก็เป็น กสม.อีกชุดหนึ่งที่ทำให้สังคมไทยได้รับความเจ็บปวดกับคำว่าสิทธิมนุษยชน
