“หมอนิรันดร์” บุกพบสมัชชาประชาชนเครือข่าย 4 ภาค เล็งนำเหตุชายชุดดำเผาเพิงพักเข้าที่ประชุมอนุกรรมการสิทธิชุมชน ชี้ มีละเมิดสิทธิ์ไร้ตำรวจห้าม ยันชาวบ้านมีสิทธิ์อาศัยที่รัฐ เล็งเชิญผู้เกี่ยวข้องคุย 11 ก.ค.ด้าน “หมอชูชัย” แถลงขอโทษไม่เปิดผลสอบเผาเมือง อ้าง กก.บางคนเจอข้อมูลเพิ่ม ปัดแดงผงาดทำเลื่อน เชื่อไม่มีใครโดนการเมืองแทรก
วันนี้ (7 ก.ค.) ที่สำนักงานกรรมการสิทธิมนุษยชน นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมือง สิทธิการเมืองและสิทธิชุมชน ได้เดินทางไปพบกับกลุ่มสมัชชาประชาชนเครือข่าย 4 ภาค ซึ่งได้มารวมตัวกันอยู่ที่ลานจอดรถโกเด้นเพลส ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ หลังจากถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กว่า 200 คน พร้อมอาวุธครบมือบุกขับไล่ และเผาบ้านกลุ่มสมัชชาประชาชนเครือข่าย 4 ภาคที่เข้ามายึดครองปลูกสร้างเพิงพักบนที่ดินของบริษัท ไทยอเมริกัน เท็กซ์ไทล์ จำกัด และบริษัท ไทยเมล่อน เท็กซ์ไทล์ จำกัด ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และมีเหตุปะทะจนมีผู้บาดเจ็บหลายราย ซึ่งกลุ่มสมัชชาฯ ดังกล่าวได้เดินทางมารวมตัวกันที่ศูนย์ราชการตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา
นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวตนจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมือง สิทธิการเมืองและสิทธิชุมชน เพื่อตรวจสอบการถูกละเมิดสิทธิเนื่องจากมีการทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สิน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลในระหว่างเกิดเหตุ ทั้งนี้ชาวบ้านมีสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่สามารถเข้าไปอยู่หรือมีที่ดินทำกิน เพราะชาวบ้านเหล่านี้ไม่มีที่ดินทำกินจึงเข้าไปครอบครองที่ดินของรัฐ อีกทั้งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการตั้งคณะกรรมการที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่เป็นประธานในการแก้ไขเรื่องที่ดินทำกิน อย่างไรก็ตามในวันที่ 11 ก.ค.เวลา 11.00 น.ทาง กสม.จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานธรรมนัสกรุ๊ป ตัวแทนบริษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) คณะกรรมการของรัฐบาลชุด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สภ.จ.ปทุมธานี เข้ามาให้ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ต่อไป
ด้าน นายแพทย์ ชูชัย ศุภวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) แถลงข่าวขอโทษสื่อมวลชนที่ไม่สามารถเปิดเผยรายงานตรวจสอบกรณีเหตุการณ์การชุมนุมกลุ่ม นปช.ในวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม ตามที่เคยให้ข่าวก่อนหน้านี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกับนางอมรา พงศาพิชญ์ ประธาน กสม.และได้ข้อสรุปตรงกันว่า การประชุม กสม.วานนี้ (6 ก.ค.) น่าจะเป็นการพิจารณารายงานครั้งสุดท้ายสามารถเสนอต่อสาธารณะได้ในวันที่ 8 กรกฎาคม ดังกล่าวแล้ว
นายแพทย์ ชูชัย เปิดเผยว่า ทั้งนี้ เนื่องจากกรรมการบางท่านเห็นว่า มีประเด็นอื่นๆ ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากการประชุมครั้งที่แล้ว และที่ประชุม กสม.เห็นว่า ควรพิจารณาให้ครบถ้วน และเห็นว่าเงื่อนไขเวลาในการเปิดเผยรายงานที่ขยายออกไปอีกไม่น่าจะเป็นปัญหาใดๆ ขณะที่เป็นเพราะสถานการณ์และกระแสการเมืองในขณะนี้ทำให้ กสม.เลื่อนการเปิดเผยรายงานการตรวจสอบฯ นี้หรือไม่ ตนเห็นว่า ไม่น่าเป็นเช่นนั้น เพราะ กสม.เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ที่มีความอิสระ เป็นกลาง ไม่ขึ้นกับรัฐบาลใดๆ อีกทั้ง กสม.ยังมีกลไกสากลตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา โดยอาศัยหลักการปารีส ที่ว่า กสม.จะต้องดำรงตนอย่างเป็นกลาง อิสระ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความน่าเชื่อถือ หากไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามหลักการปารีส หรือรัฐธรรมนูญ จะถูกลดระดับจากเกรดเอ เป็นบี หรือซี ดังนั้น กสม.ในประเทศต่างๆ จึงถูกคาดหวังจากสังคมว่า เป็นองค์กรที่จะทำความจริงให้ปรากฏในสังคมในประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยความอิสระ เที่ยงธรรม และมีความกล้าหาญทางจริยธรรม ไม่อยู่ภายใต้อิทธิพลของอำนาจรัฐใด
เมื่อถามว่า มีปัญหาการเมืองใน กสม.ของกรรมการหรือไม่ นายแพทย์ชูชัยฯ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบคำถามแทนกรรมการท่านใดได้ แต่เชื่อว่า ไม่น่าจะมีและไม่ควรจะมี เป็นการดีที่สื่อมวลชนสนใจติดตามตรวจสอบองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เพราะตนในฐานะอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ทราบดีว่า ได้มีการเพิ่มอำนาจและบทบาทหน้าที่ของ กสม.และผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างมาก จึงจำเป็นอยู่เองที่จะต้องถูกตรวจสอบจากสื่อมวลชนและสังคมอย่างหนัก