ศปภ.-กทม.หย่าศึก! หนังสือสั่งการรอบดึก “ประชา” ควง “คุณชาย” แถลงข่าว เคลียร์ปัญหาชาวดอนเมือง ยอมเปิดแนวบิ๊กแบ็ก 10 เมตร ทำฝายน้ำล้น พร้อมแบ่งให้เรือผ่าน ช่วยระบายน้ำแก้ปัญหาน้ำเน่า จบปัญหาชาวบ้าน “สุขุมพันธุ์” ขอบคุณชาวดอนเมืองเสียสละ เร่งระดมความช่วยเหลือทั้งอาหาร-เก็บขยะ
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลืออุทกภัย (ศปภ.) ภายหลังจากเกิดกระแสข่าวความขัดแย้งกรณีการรื้อแนวกันน้ำบิ๊กแบ็กของชาวบ้านย่านดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธข่าวเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ว่า เป็นการสื่อสารที่ผิดพลาดทั้งในส่วนของความเข้าใจของชาวบ้านและในส่วนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ จนกระทั่ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.กระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศปภ.ได้ออกมายืนยันกับผู้สื่อข่าวว่าในช่วงเย็น หลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเดินทางมาแถลงข่าวร่วมที่ ศปภ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ จะเดินทางมาถึง ประมาณ 15 นาที พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นายธงทอง จันทรางศุ โฆษก ศปภ.ได้เดินออกมายืนรอต้อนรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่หน้าประตูทางเข้าศูนย์ ศปภ.หน้าลิฟต์ชั้นหนึ่ง ทั้งนี้ ในระหว่างที่ยืนรอ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ผู้สื่อข่าวได้พูดกระเซ้า พล.ต.อ.ประชา ว่า ท่านถึงกับต้องออกมายืนต้อนรับท่านผู้ว่าฯ กทม.เลยเหรอ พล.ต.อ.ประชา ได้พูดอย่างอารมณ์ดีว่า “แหม ก็เค้ามาจากประชาชนน่ะ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น เวลา 16.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางมายังศูนย์ ศปภ.ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยกล่าวกับ พล.ต.อ.ประชา ว่า “ผมไปดูที่บิ๊กแบ็กมาก่อนแล้ว เห็นว่ามวลชนได้ข้อสรุปแล้ว” ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา ได้เพียงแต่กล่าวคำว่า “ครับ” พร้อมทั้งนำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ขึ้นห้องประชุมชั้น 15
ภายหลังการประชุมเกือบ 1 ชั่วโมง ในเวลา 17.00 น. พล.ต.อ.ประชา พร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ร่วมกันแถลงข่าวหลังหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงปัญหาการรื้อแนวกระสอบทรายยักษ์หรือบิ๊กแบ๊กของประชาชนเขตดอนเมือง
พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสนอในที่ประชุมว่า มีขยะจำนวนมาก ศปภ.และกทม.จะร่วมกันเก็บขยะเพื่อช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้ในเรื่องอาหารที่ไปแจกจ่ายยังพบว่ามีน้อย ไม่เพียงพอ ก็จะร่วมกันดำเนินการเรื่องอาหาร ศปภ.และกทม.ยืนหยัดจะแก้ปัญหาร่วมกัน
ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ตนได้ลงไปในพื้นที่ก่อนที่จะมาประชุมที่นี้ และมอบหมายให้รองปลัด กทม.หารือต่อในพื้นที่ ทั้งนี้ ตนพอทราบแนวคิดของประชาชนชาวดอนเมืองที่พร้อมจะประสบความเดือดร้อนต่อไปเพื่อส่วนรวม เพื่อชะลอน้ำเข้ามาในกรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งตนขอชื่นชมชาวบ้านดอนเมืองไว้ ณ ที่นี้ด้วย แต่สถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากถ้าไม่มีการแก้ไขข้อสรุปของศูนย์ปฎิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กรุงเทพมหานคร เห็นความจำเป็น และความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ สมควรปรับสภาพแนวกระสอบทรายยักษ์บริเวณดังกล่าว ให้เป็นจุดฝายน้ำล้นโดยให้มีช่องทางสัญจรทางเรือด้วย ซึ่งการทำฝายน้ำล้นจะทำให้น้ำใหม่ชะลอลง และทำให้น้ำไม่ขังเน่าเหม็น ซึ่งถือเป็นข้อสรุปที่ยอมรับของทุกฝ่ายร่วมกันในการหาทางออก
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กรณีคันกั้นน้ำวิภาวดีรังสิตนั้น ถือเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้ามีปัญหาอะไรทุกฝ่ายต้องหารือร่วมกัน หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล อยากให้ประชาชนที่พื้นที่อื่นที่เดือดร้อนจากคันกั้นน้ำก็ดี หรือที่ศปภ.กทม.ได้กำหนดขึ้นมาแก้ไขปัญหา ถ้ามีปัญหาอะไรให้หารือกันดีกว่า ไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรโดยพละการ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เราจะพ้นปัญหาได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายหารือกัน นี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝายน้ำล้นทำกี่เมตร พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ประมาณ 10 เมตร และจุดเดียวที่เป็นประเด็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ฝายน้ำล้นต้องให้เรือผ่านเข้าออกได้ ซึ่งฝ่ายเทคนิคลงไปพูดคุยกับประชาชนและทำความเข้าใจตลอดเวลา เราจะบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก็น่าจะมีข่าวดีแม่น้ำเจ้าพระยาอาจลดลงบ้าง ทำให้การระบายน้ำทำได้ดีขึ้น
“อีกส่วนหนึ่งที่อยากเรียนคือจากข้อมูลประชาชนเขตดอนเมืองที่มีปัญหาจะรื้อกระสอบทรายยักษ์ในเวลา 18.00น.ของวันที่ 14 พ.ย.จึงเป็นที่มาของหนังสือฉบับเมื่อคืนนี้ ถ้าไม่มีเรื่องรื้อกระสอบทรายหนังสือคงไม่ออกไป ซึ่งขณะนี้ประชาชนเข้าใจปัญหาร่วมกันแล้ว จะไม่รื้อกระสอบทรายแล้วก็ขอบคุณประชาชนที่เข้าใจสภาพปัญหา” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ต่อข้อถามว่าต้องให้ประชาชนทนไปอีกที่วันเท่าที่ไปตกลงกับประชาชนไว้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าไม่มีน้ำใหม่เข้ามา กทม.สามารถระบายน้ำออกจากเส้นทางหลักได้ภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนตรอกซอกซอย ก็ต้องใช้เวลาไล่ตามพื้นที่จากสูงไปต่ำ
ด้าน นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการร่วมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่อยู่แนวคันกั้นน้ำ ระดับน้ำที่เป็นตัวกำหนดการท่วมขังส่วนใหญ่เป็นน้ำจากคลองรังสิต ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในคลองรังสิตเริ่มลดลง 3 ซม.ต่อวัน ระดับน้ำวันนี้อยู่ที่ประมาณ 3.30 เมตร ระดับขอบตลิ่ง 3 เมตร ถ้าน้ำลดวันละประมาณ 3 ซม.ก็อยู่ประมาณ 10 วัน ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้ แต่เราไม่ได้พูดกันว่าต้องแช่กันเป็นเดือน หรือประมาณ 10 วัน ซึ่งอาจจะเร็วหรือช้ากว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การทำฝายน้ำล้นดังกล่าวทำเพียงจุดเดียวที่มีปัญหาคือ ช่วงตัดแนวถนนวิภาวดีรังสิต โดยมีความยาวไม่เกิน 10 เมตร แบ่งครึ่งทำเป็นฝายน้ำล้น และอีกครึ่งแบ่งเป็นทางให้เรือได้สัญจร ทั้งนี้ ทางศูนย์ ศปภ.จะรีบดำเนินการอย่างเร็วที่สุด พร้อมทั้งกรุงเทพมหานครจะได้เร่งดำเนินการระบายน้ำในคลองต่างๆ รองรับน้ำที่ไหลเข้ามาผ่านช่องเปิดนี้ เพื่อชะลอความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่ภายในแนวกระสอบทรายยักษ์ รวมทั้งเป็นการช่วยลดระดับน้ำในคลองรังสิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่นอกแนวกระสอบทรายยักษ์อีกด้วย ได้แก่ คลองเปรมประชากรผ่านคลองบางเขนออกแม่น้ำเจ้าพระยา, คลองบางซื่อผ่านดินแดงลงบึงมักกะสัน, คลองลาดพร้าว ผ่านคลองชวดใหญ่ลงบึงมักกะสัน, คลองแสนแสบผ่านคลองอรชนลงสู่ระบบอุโมงค์ระบายน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ต.อ.ประชา กล่าว ขออภัย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ส่งเอกสารไปในยามวิกาล ซึ่งถือว่าทำผิดเวลาไปเล็กน้อย และกล่าวว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปเราจะร่วมมือกันทำงานกันต่อไป ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา ได้ยกมือไหว้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ทั้งคู่ได้ยกมือไหว้กันและกันอยู่เป็นระยะเวลานานพอสมควร
