ASTVผู้จัดการรายวัน- "ประชา- สุขุมพันธุ์" เล่นบทคืนดีกันอีกรอบ หลังผอ.ศปภ.ขอโทษส่งหนังสือยามวิกาล แต่ยังออกโรงปกป้อง "เก่ง-การุณ" พร้อมตั้งรองปลัดกทม.ไกล่เกลี่ยชาวดอนเมือง ปรับช่องรื้อบิ๊กแบ็กเป็นฝายน้ำล้นกว้าง 10 เมตร ให้เรือผ่านได้ และแก้ปัญหาน้ำเน่า ส่วนการกู้ถนนสาย 340 คืบ 70 % คาด 2 วันเสร็จ ด้านเฮลิปคอปเตอร์ คณะทัวร์นายกฯ ไม่สามารถบินได้ต้องค้างที่สิงห์บุรีแทน
วานนี้ (14 พ.ย.) ที่ศูนย์ปฎิบัติการณ์ช่วยเหลืออุทกภัย( ศปภ.) ภายหลังจากเกิดกระแสข่าวความขัดแย้งของศปภ.กับกทม. กรณีชาวบ้านรื้อถุงแนวกันน้ำบิ๊กแบ็กย่านดอนเมืองเมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวัน ได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์ของผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. ได้ออกมาปฎิเสธข่าวเรื่องดังกล่าว ว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด ทั้งในส่วนของความเข้าใจของชาวบ้าน และในส่วนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. จนกระทั่งพล.ต.อ.ประชาได้ออกมายืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงเย็น ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะเดินทางมาหารือ และแถลงข่าวร่วมกันที่ ศปภ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะเดินทางมาถึง ประมาณ 15 นาที พล.ต.อ.ประชา พร้อมด้วย พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นายธงทอง จันทรางศุ โฆษก ศปภ. ได้เดินออกมายืนรอต้อนรับ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ที่หน้าประตูทางเข้าศปภ.หน้าลิฟต์ ชั้นหนึ่ง
ต่อมาเวลา 16.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้เดินทางมาถึง ศปภ.ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยพล.อ.ประชา เดินไปต้อนรับซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวกับ พล.ต.อ.ประชา ว่า " ผมไปดูที่บิ๊กแบ็กมาก่อนแล้ว เห็นว่ามวลชนได้ข้อสรุปแล้ว"
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ประชา ได้เพียงแต่กล่าวคำว่าครับ พร้อมทั้งนำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ขึ้นห้องประชุมชั้น 15
ภายหลังการประชุมเกือบหนึ่งชั่วโมง พล.ต.อ.ประชา พร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ร่วมกันแถลงข่าว ถึงปัญหาการรื้อบิ๊กแบ็กของประชาชนเขตดอนเมือง โดยพล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เสนอในที่ประชุมว่า มีขยะจำนวนมาก ศปภ. และกทม.จะร่วมกันเก็บขยะเพื่อช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ในเรื่องอาหารที่ไปแจกจ่าย ยังพบว่ามีน้อย ไม่เพียงพอ ก็จะร่วมกันดำเนินการเรื่องอาหาร ศปภ.และกทม.ยืนหยัดจะแก้ปัญหาร่วมกัน
**ปรับช่องรื้อบิ๊กแบ็กเป็นฝายน้ำล้น
ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า แนวคิดของประชาชนชาวดอนเมืองพร้อมจะประสบความเดือดร้อนต่อไปเพื่อส่วนรวม เพื่อชะลอน้ำเข้ามาในกรุงเทพฯ ชั้นใน ซึ่งตนขอชื่นชมชาวบ้านดอนเมืองไว้ ณ ที่นี้ด้วย ซึ่งสถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากถ้าไม่มีการแก้ไขข้อสรุปของ ศปภ. ทางกทม. เห็นความจำเป็นและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ สมควรปรับสภาพแนวกระสอบทรายยักษ์บริเวณดังกล่าว ให้เป็นจุดฝายน้ำล้น โดยให้มีช่องทางสัญจรทางเรือด้วย ซึ่งการทำฝายน้ำล้น จะทำให้น้ำใหม่ชะลอลง และทำให้น้ำไม่ขังเน่าเหม็น ซึ่งถือเป็นข้อสรุปที่ยอมรับของทุกฝ่ายร่วมกัน ในการหาทางออก
"กรณีคันกั้นน้ำวิภาวดีรังสิต ถือเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้ามีปัญหาอะไร ทุกฝ่ายต้องหารือร่วมกัน หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล อยากให้ประชาชนที่พื้นที่อื่นที่เดือดร้อนจากคันกั้นน้ำก็ดี หรือที่ ศปภ.กทม. ได้กำหนดขึ้นมาแก้ไขปัญหา ถ้ามีปัญหาอะไรให้หารือกันดีกว่า ไม่อยากให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำอะไรโดยพลการ จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เราจะพ้นปัญหาได้ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายหารือกัน นี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุด" ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
พล.ต.อ. ประชา กล่าวว่า ฝายน้ำล้นจะมีความกว้างประมาณ 10 เมตร ซึ่งเป็นจุดเดียวกันที่เป็นประเด็นความขัดแยังกันอยู่ขณะนี้ ทั้งนี้ฝายน้ำล้นต้องให้เรือผ่านเข้าออกได้ ซึ่งฝ่ายเทคนิคลงไปพูดคุยกับประชาชน และทำความเข้าใจตลอดเวลา เราจะบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก็น่าจะมีข่าวดีแม่น้ำเจ้าพระยาอาจลดลงบ้าง ทำให้การระบายน้ำทำได้ดีขึ้น
เมื่อถามว่าต้องให้ประชาชนทนไปอีกที่วันเท่า ที่ไปตกลงกับประชาชนไว้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ถ้าไม่มีน้ำใหม่เข้ามากทม.สามารถระบายน้ำออกจากเส้นทางหลักได้ภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนตรอก ซอกซอย ต้องใช้เวลาไล่ตามพื้นที่จากสูงไปต่ำ
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการร่วมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่อยู่คันกั้นน้ำ ระดับน้ำที่เป็นตัวกำหนดการท่วมขังส่วนใหญ่เป็นน้ำจากคลองรังสิต ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำในคลองรังสิตเริ่มลดลง 3 ซม.ต่อวัน ระดับน้ำวันนี้อยู่ที่ประมาณ 3.30 เมตร ระดับขอบตลิ่ง 3.00 เมตร ถ้าน้ำลดวันละประมาณ 3 ซม. ก็อยู่ประมาณ 10 วัน ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้ แต่เราไม่ได้พูดกันว่าต้องแช่กันเป็นเดือน หรือประมาณ 10 วัน ซึ่งอาจจะเร็วหรือช้ากว่า
ส่วนขั้นตอนการดำเนินการปรับฝายน้ำล้นนั้น ศปภ.จะรีบดำเนินการอย่างเร็วที่สุด พร้อมทั้งกทม. จะได้เร่งดำเนินการระบายน้ำในคลองต่างๆ รองรับน้ำที่ไหลเข้ามาผ่านช่องเปิดนี้ เพื่อชะลอความเดือดร้อนของประชาชน ที่อยู่ภายในแนวกระสอบทรายยักษ์ รวมทั้งเป็นการช่วยลดระดับน้ำในคลองรังสิตเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่อยู่นอกแนวกระสอบทรายยักษ์อีกด้วย ได้แก่ คลองเปรมประชากร ผ่านคลองบางเขน ออกแม่น้ำเจ้าพระยา , คลองบางซื่อผ่านดินแดง ลงบึงมักกะสัน, คลองลาดพร้าว ผ่านคลองชวดใหญ่ ลงบึงมักกะสัน, คลองแสนแสบผ่านคลองอรชนลงสู่ระบบอุโมงค์ระบายน้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวขออภัย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่ส่งเอกสารไปในยามวิกาล ซึ่งถือว่าทำผิดเวลาไปเล็กน้อย และกล่าวว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะร่วมมือกันทำงานกันต่อไป
** "ประชา"ขอโทษ"สุขุมพันธุ์"
รายงานข่าวจากห้องประชุมแจ้งว่า หลังจากเริ่มการประชุม พล.ต.อ.ประชา ได้กล่าวขอโทษ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เป็นอันดับแรก หลังจากช่วงค่ำวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางศปภ.ได้ส่งหนังสือด่วนไปยังกทม.ในเวลา 22.00 น. จึงทำให้ทางผู้ว่าฯกทม. ออกมาแถลงข่าวเป็นการด่วนและมีท่าทีไม่พอใจ
อย่างไรก็ตาม หลังจาก ผอ.ศปภ.ได้กล่าวขอโทษแล้ว ทำให้บรรยากาศการประชุมคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
สำหรับเนื้อหาในการประชุม ที่ประชุมได้มีการแต่งตั้ง นายสมภพ ระงับทุกข์ รองปลัดกทม. เป็นหัวหน้าทีมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกับชาวบ้านย่านดอนเมือง พร้อมทั้งรับฟังความทุกข์ร้อนของชาวบ้านบริเวณดังกล่าว ที่ขณะนี้ กทม.ได้รวบรวมเรื่องร้องทุกข์ของชาวบ้านไว้ พร้อมทั้งแจ้งให้ทางศปภ.ได้รับทราบ ซึ่งทางศปภ. ได้มอบหมายให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลประชาชนให้ทั่วถึงมากขึ้น พร้อมทั้งแจ้งไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้เพิ่มโรงครัวมหาดไทยในพื้นที่ดอนเมืองมากขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนหลังจากที่ต้องอยู่กับน้ำมาเป็นระยะเวลากว่า 1 เดือน
**ศปภ.เร่งซ่อม"บิ๊กแบ็ก"
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. ในฐานะโฆษกศปภ. กล่าว่า จะเร่งซ่อมแซมแนวคันบิ๊กแบ็กที่ประชาชนรื้อให้แล้วเสร็จให้ได้ภายในวันที่ 14 พ.ย. นี้ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูแลในพื้นที่แล้ว อีกทั้งประชาชนก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด โดยทางตัวแทนของชุมชนก็ยินดีที่จะให้ทางกทม.เข้าไปซ่ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า อมแซมให้กลับคืนมาเหมือนเดิม เพียงแต่ขอให้เปิดช่องทางเพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรทางเรือได้ด้วย แต่การเปิดช่องทางดังกล่าวจะต้องไม่ส่งผลกระทบกับการระบายน้ำของกทม.ด้วย
**ปชช.เกือบแสนแช่น้ำเหนือบิ๊กแบ็ก
นายพรเทพ เตชะไพบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยว่า ตอนนี้กทม.กำลังวัดระดับน่ำในคลองหลักสี่ เพื่อที่จะทราบว่าหากเปิดช่องทางแนวกั้นบิ๊กแบ็กแล้ว จะสามารถทราบได้ว่ามวลน้ำที่ถูกปล่อยเข้ามาเพิ่มเติมมีปริมาณเท่าไร ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่า ประชาชนประมาณ 8 หมื่นถึง 1 แสนคน ที่อยู่เหนือแนวคันบิ๊กแบ็ก ยังต้องทนอยู่กับระดับน้ำความสูงประมาณ 1.30 ม. ซึ่งต้องเข้าใจถึงความลำบากของพวกเขา แต่ติดอยู่ที่การช่วยเหลือ และเยียวยา การใช้วิธีทำอาหารเลี้ยงคนจำนวนมากขนาดนี้ทั้ง 3 มื้อ ยอมรับว่าครัวของกทม. ทำไม่ทัน และพื้นที่ก็เป็นพื้นที่อพยพ แต่ปัญหาคือ ประชาชนไม่ยอมย้าย
**"เก่ง"ปัดนำชาวบ้านรื้อบิ๊กแบ็ก
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีประชาชนพื้นที่เขตดอนเมืองรื้อแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก ช่วงจะเลี้ยวเข้า สน.ดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิตว่าไม่สบายใจที่มีข่าวว่าตนเป็นคนนำชาวบ้านไปบุกรื้อแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็ก เพราะตนไม่เห็นด้วยหากจะมีการรื้อคันกั้นน้ำ ขณะเดียวกันกลุ่มชาวบ้านที่มารื้อส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนจัดตั้งที่ถูกปลุกปั่นกันมา มีเพียงไม่กี่สิบคนที่ตนคุ้นหน้าคุ้นตา ว่าเป็นคนในพื้นที่เขตดอนเมือง
อย่างไรก็ตาม แนวบิ๊กแบ็กที่ถูกรื้อล่าสุดนั้น ก็เป็นเพียงการรื้อกระสอบทรายใต้น้ำในแนวเดิม ที่มีการอนุโลมให้มีการเปิดมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเมื่อชาวบ้านร้องขอเช่นนั้น ตนจึงได้โทรศัพท์ไปปรึกษา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. จนได้ข้อสรุปเป็นข้อต่อรองกับชาวบ้านไปว่า หากเช่นนั้นอยากจะขอเวลา 2 วัน ซึ่งมีเดดไลน์ 18.00 น. ของวันที่ 14 พ.ย. ในการประสานไปยัง ศปภ. เพื่อให้ กทม.เข้ามาดูแล ว่าจะอนุญาตให้เปิดหรือปิด ในส่วนที่เป็นรอยโหว่ดังกล่าว รวมทั้งดูแลเรื่องการระบายน้ำใต้คันบิ๊กแบ็กต่อไป แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากชาวบ้านที่มาชุมนุมกันอีก ตนจึงจำใจต้องถอยออกมาจากการเจรจา และจำยอมให้ชาวบ้านรื้อกระสอบทรายในแนวดังกล่าวออกไป
นายการุณกล่าวว่า เมื่อชาวบ้านไม่ยินยอมในเงื่อนไขที่ตนเสนอ จึงเท่ากับว่าที่เจรจากันไปไม่มีผล ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อ ศปภ. มีมติให้ทาง กทม.เข้าไปซ่อมแซมแนวบิ๊กแบ็กที่ถูกรื้อ ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามมติ ศปภ. และตนก็พร้อมที่จะเข้าไปช่วย กทม.ซ่อมแซมด้วย
**ส่งกำลังตร.100 นายดูแลบิ๊กแบ็ก
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงการดูแลแนวคันบิ๊กแบ็ก ที่เขตดอนเมืองว่า เรื่องนี้เราได้เจรจากันมาโดยตลอด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการสับสนในข้อมูลว่า ศปภ. ยินยอมให้เปิดแนวคันกั้น ซึ่งต่อมาทั้งทาง ศปภ. และ กทม. ยืนยันไม่ได้อนุญาตให้ขยายแนว จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 นายเข้าดูแลความเรียบร้อยดังกล่าว
** กู้ถนนสาย 340 คืบ 70% ***
ความคืบหน้าการกู้ทางหลวง หมายเลข 340 สายบางบัวทอง-สุพรรณบุรี เพื่อใช้เป็นเส้นทางลงสู่ภาคใต้ หากถนนพระราม 2 ถูกตัดขาดนั้น นายวันชัย ภาคลักษณ์ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า การกู้คืนถนนสาย 340 สามารถดำเนินการคืบหน้ามาแล้วร้อยละ 70 เหลือการวางท่อปูนอีก 280 เมตร และคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 2 วันนี้ เนื่องจากน้ำบางจุดแห้งแล้ว และบางจุดน้ำลดระดับอยู่ที่ 10-15 ซม. แต่ยังไม่สามารถใช้การได้ตามปกติ โดยเฉพาะบางช่วงที่มีน้ำสูง
** จี้"ปูนิ่ม"แจงงบละลายน้ำกู้ถนนสาย 340
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรมต.ประจำสำนักนายกฯ เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลทุ่มเทงบประมาณเพื่อเร่งกู้ทางหลวงสาย 340 ระยะทาง 20 กม. ว่า เป็นวิธีคิดแบบตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ที่ต้องมาสูญเสียงบประมาณในการกู้ถนนสายดังกล่าว ถือว่าไม่มีความคุ้มค่าในการลงทุน ถ้ารัฐบาลต้องการหาเส้นทางให้ประชาชนเดินทางไปสู่ภาคใต้ เพื่อเชื่อมต่อกับภาคกลางและกทม. ก็ควรใช้งบประมาณในการกู้ถนนสาย 340 นี้ ไปป้องกันถนนสายพระรามที่ 2 จะคุ้มค่ากว่า
**ศปภ.มั่นใจควบคุมบางชัน-ลาดกระบังได้
นายอานนท์ นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์ความรู้เฉพาะด้านศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และคณะทำงานศปภ. กล่าวถึงการควบคุมสถานการณ์น้ำ บริเวณนิคมอุตสาหกรรมบางชันว่า ณ วันนี้อยู่ในจุดควบคุมได้ กรณีบางชัน ลาดกระบัง ต่างกับนิคมย่านพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นน้ำหลาก ควบคุมไม่ได้ ระบบการควบคุมน้ำไม่มีเลย แต่กรณีบางชัน ลาดกระบัง อยู่ในพื้นที่ควบคุมได้ในระดับที่ค่อนข้างมาก เงื่อนไขข้างนอกต่างกัน ถ้าควบคุมไม่ได้ป่านนี้สูงกว่าอยุธยาเยอะ บางชันควบคุมได้ 1.5 ม. ต่ำกว่าจุดวิกฤตที่เขาขอไว้ 1.6 ม. ถ้าไม่ควบคุมระดับน้ำจะสูงไปนานแล้ว
**"สุวรรณภูมิ"จับมือชุมชนรับมือน้ำ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ เขตลาดกระบัง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และผู้นำชุมชนโดยรอบพื้นที่สนามบิน ประชุมวางแผนรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลมาทางด้านตะวันออกของกทม.ผ่านเขตลาดกระบังและจ.สมุทรปราการ
นายสมชัย สวัสดิผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และรักษาการผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. เปิดเผยว่า ทสภ. ได้เชิญผู้แทน จ.สมุทรปราการ เขตลาดระบัง นายก อบต. และผู้นำชุมชนต่างๆ ที่อยู่โดยรอบสนามบินทั้ง 85 แห่ง เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงเรื่องระบบป้องกันน้ำท่วมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ( ทสภ.) ที่ประกอบด้วยเขื่อนดินสูง 3.5 เมตร โดยได้สร้างมาตั้งแต่ปี 2538 แล้วเสร็จในปี 2542 ซึ่งระบบดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อชุมชน รวมทั้งเป็นระบบที่สามารถรับน้ำภายใน ทสภ. ได้เป็นอย่างดีถึง 4 ล้านลบ.ม. โดยไม่ต้องสูบออก
"นอกจาก ทสภ. ได้ก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมดังกล่าวแล้ ยังได้มีการคำนึงถึงชุมชน โดยการขุดลอกคลองหนองงูเห่า ซึ่งเป็นคลองขนานสนามบินด้านทิศตะวันออกและคลองลาดกระบังที่ขนานด้านทิศตะวันตกให้กว้างจากเดิมเป็น 35-40 ม. รวมทั้งมีการขุดคลองด้านเหนือของสนามบิน และด้านใต้ของสนามบิน เพื่อเชื่อมคลองทั้ง 2 เข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มรองรับและระบายน้ำจากเขตลาดกระบัง" นายสมชัย กล่าว
**นายกฯใช้ Goliath บินเยียวยาชาวสิงห์บุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้เดินทางไปติดตามการเยียวยาและฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยที่จ.สิงห์บุรี ด้วยเฮลิคอปเตอร์ (ฮ.) รุ่น MI 17 ของรัสเซีย หรือที่เรียกกันว่า Goliath ยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็น ฮ.ลำเลียงขนาด 20 ที่นั่ง วีไอพี 2 ที่นั่ง ซึ่งแถวที่นั่งเหมือนกับเครื่องบิน C 130 คือมีทางขึ้นอยู่ท้ายลำ ซึ่งตามปกติแล้วกองทัพจะใช้ ฮ.รุ่นนี้ในภารกิจลำเลียงกำลังพลไปตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงลำเลียงทหารที่ได้รับบาดเจ็บกลับมารักษา ทั้งนี้ฮ.รุ่นนี้ตามปกติแล้วจะประจำอยู่ที่กองบินสนับสนุนทั่วไป ศูนย์การบินทหารบก จ.ลพบุรี
** ผบ.ทบ.ย้ำอย่าทะเลาะกัน-เลิกขัดแย้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำด้านตะวันตก น้ำยังคงท่วมขังบริเวณชุมชนเคหะธนบุรี 1 ข้างห้างโลตัส ถนนพระราม 2 โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้เดินไปตรวจเยี่ยมการทำงานของกองพลทหารราบที่ 9 จ.กาญจนบุรี ที่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนทีได้รับผลกระทบในชุมนุมดังกล่าว พร้อมแจกถุงยังชีพให้กับประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงภายในศูนย์เยาวชนเขตบางขุนเทียน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในเขตบางขุนเทียนประมาณ 2-3 พันคน ขอให้ทุกคนอย่าเครียดจนเกินไป เพราะเป็นภัยธรรมชาติ และให้ช่วยคิดกันว่า จะอยู่กันต่อไปอย่างไรมากกว่ามาตำหนิติเตียน อย่าทะเลาะกัน
ผบ.ทบ. ระบุว่า ไม่ขอวิจารณ์การรื้อ บิ๊กแบ็ก ที่เขตดอนเมือง ขณะนี้ทาง ศปภ.ประเมินอยู่ กรุณาฟังจาก ศปภ.และ กทม. เพราะร่วมกันแก้ปัญหาอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า อยากฝากทางพรรคเพื่อไทยให้เตือนลูกพรรคหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาทำกันอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีคงทำอยู่แล้ว
**"เหลิม"เร่งเคลียร์รถบนโทลเวย์
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาการจราจร ที่ติดขัดอย่างหนักบนทางด่วน และโทลเวย์ เนื่องจากผู้ประสบภัยนำรถไปจอดว่า ตนได้หารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้ประสานไปที่เจ้าของรถในการเคลียร์พื้นที่ให้เหลือที่จอดรถแถวเดียว จากที่จอดรถซ้อนกัน 3 แถวในขณะนี้ เพราะจะอันตราย โดยแนะนำพื้นที่ที่จอดได้โดยไม่มีปัญหา และเกิดความปลอดภัย เนื่องจากจะมีตำรวจคอยดูแลให้ ซึ่งเจ้าของรถก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
*** คณะนายกฯชวดกลับกทม. ค้างสิงห์บุรีแทน
ขณะที่รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า จากการที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี ด้วยเครื่องบินเฮลิคคอปเตอร์ของกองทัพบก (MI 17) เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการ์อุทกภัยในจ.สิงห์บุรี และให้กำลังใจชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย พร้อมทั้งยังมอบเงินช่วยเหลือให้กับญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงเม็ดพันธ์พืชให้กับเกษตรกร โดยกำหนดจะเดินทางกลับถึงพล.ม.2 ในเวลา 18.00 น.
ทั้งนี้ปรากฏว่าสถานการณ์ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า นายกฯ และคณะไม่สามารถเดินทางกลับกรุงเทพมหานครได้ ซึ่งเครื่องบินดังกล่าวไม่สามารถบินได้ในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากเป็นเครื่องบินของรัสเซีย จนทำให้นายกฯ และคณะตัดสินใจค้างคืนที่จ.สิงห์บุรีแทน
อย่างไรก็ตามนายกฯจะใช้โอกาสนี้เดินตลาดสดสิงห์บุรีในช่วงเช้า เพื่อพบปะประชาชน ก่อนเดินทางกลับถึงพล.ม.2 ในเวลา 9.00 น.ต่อไป
ส่วนการประชุมครม.ในวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทน
"ปู"ไม่พอใจ"ประชา"ปล่อยให้รื้อบิ๊กแบ็ก
แหล่งข่าวจากศปภ.แจ้งว่า กรณีชาวบ้านรื้อคันกั้นบิ๊กแบ็กครั้งนี้ ทำให้นายกรัฐมนตรีไม่พอใจ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ. เป็นอย่างมากที่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะนายกรัฐมนตรีได้แจ้งกับสื่อแล้วว่าสามารถแก้ปัญหาได้ แต่พอคล้อยหลังชาวบ้านก็ทำการรื้อบิ๊กแบ็ก นายกรัฐมนตรีจึงสั่งให้พล.ต.อ.ประชา เคลียร์ปัญหานี้โดยเร่งด่วน