xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ติง “ปู” ประกาศแผนฟื้นฟู ทั้งที่ กทม.ยังวิกฤต เรียกความเชื่อมั่นไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  (แฟ้มภาพ)
“มาร์ค” เตือน “ปู” เร่งประกาศแผนฟื้นฟู ขณะที่เมืองหลวงยังไม่พ้นวิกฤต เรียกความเชื่อมั่นไม่ได้ ระบุ สื่อต่างชาติยังกังขาปัญหาน้ำท่วมจะขยายวงกว้างแค่ไหน ติงรีบส่งสัญญาณสถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่มวลน้ำมหาศาลยังจ่อถล่มกรุง หากบริหารพลาดอาจเกิดวิกฤตระลอกสอง ย้ำ ส่งสัญญาณผิดทำประชาชนขาดการเตรียมพร้อม เตือน รัฐบาล บิ๊กแบ็กไม่ใช่คำตอบ ให้ใช้บทเรียนจากความผิดพลาดแก้วิกฤต มีสมาธิบรรเทาทุกข์ให้ชาวบ้าน อย่าบริหารภายใต้แรงกดดันการเมืองและมวลชน


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประกาศแผนฟื้นฟูประเทศของนายกรัฐมนตรีวันนี้ ว่า เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่รัฐบาลต้องทำให้ประชาชนตระหนักว่าปัญหายังไม่คลี่คลาย แต่มีพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นจำนวนมากเพราะการสกัดกั้นมวลน้ำยังไม่เรียบร้อย โดยจะเห็นได้ว่า น้ำยังคงไหลเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แม้ว่าระดับน้ำด้านเหนือของกรุงเทพฯจะลดลง แต่ก็เป็นปริมาณน้อย

ในขณะที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ระดับน้ำกลับเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และคลองบางซื่อ เริ่มมีปัญหาในเรื่องการระบายน้ำออก จึงอยากให้รัฐบาลมีสมาธิกับการจัดระบบดูแลปัญหา เพราะเมื่อน้ำรุกคืบในเมืองมากขึ้น เส้นทางจราจรก็จะมีปัญหามากขึ้นตามมา การใช้ชีวิตปกติของประชาชนจะได้รับผลกระทบ ซึ่งรัฐบาลต้องกำหนดแผนรองรับ ดังนั้น จึงเร็วเกินไปที่จะประกาศแผนฟื้นฟูแล้วจะสร้างความเชื่อมั่นได้ทันที เพราะสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย และจากที่ตนได้พบกับสื่อต่างประเทศก็ยงมีความสับสน ว่า ปัญหาน้ำท่วมจะขยายวงออกไปมากน้อยแค่ไหน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูประเทศ ที่มี นายวีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธานและคณะกรรมการบริหารน้ำทั้งระบบ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า ยังไม่เห็นรายละเอียดของคณะกรรมการและอำนาจหน้าที่ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร แต่ต้องยอมรับว่า มีการตั้งคณะกรรมการจำนวนมากนับตั้งแต่มีการตั้ง ศปภ.มา จึงไม่ทราบว่าจะมีการโอนงานอำนาจหน้าที่จากชุดไหนไปชุดไหนอย่างไร ซึ่งต้องติดตามอีกครั้ง ส่วนที่ไม่มีการตั้งผู้ว่าฯ กทม.เข้าไปเป็นคณะกรรมการบริหารน้ำทั้งระบบนั้น ก็เชื่อว่า น่าจะมีการตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมอีกเพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมากขึ้นเพราะยังขาดอยู่

“ผมไม่คิดว่าการตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูจะเป็นการแก้ปัญหาแบบก้าวกระโดด แต่จะมีผลกระทบทำให้การแก้ปัญหาคลาดเคลื่อน ทำให้การเตรียมตัวของประชาชนมีปัญหา เพราะไปคิดว่าสถานการณ์จะดีขึ้นแล้ว ทั้งๆ ที่ยังมีมวลน้ำจำนวนมากจ่อกรุงเทพฯอยู่ และพื้นที่สำคัญยังมีความเสี่ยงอยู่มากโดยเฉพาะฝั่งตะวันออก ยังมีนิคมอุตสาหกรรมและประชาชนในฝั่งธนฯ รวมถึงสาธร และประชาชนปริมณฑลก็ยังเดือดร้อนจำนวนมาก”

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้นอกจากกองทัพจะออกมารับประกันในการรักษานิคมอุตสาหกรรมบางชันแล้ว รัฐบาลต้องมีแผนในการดูแลที่ชัดเจน เพราะมีบทเรียนจากหลายนิคมมาแล้วว่าจะประมาทไม่ได้ เนื่องจากการควบคุมน้ำมีความขัดแย้งกับมวลชน ทำให้การบริหารน้ำไม่เป็นไปตามช่องทางปกติ ซึ่งปริมาณน้ำที่ยังจ่อกรุงเทพฯอยู่จะทำให้เกิดวิกฤตระลอกสองในกรุงเทพฯหรือไม่ก็ขึ้นนอยู่กับการบริหารจัดการของรัฐบาล แต่ที่สำคัญคือ ต้องทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบมีความเข้าใจและเตรียมพร้อมรับสถานการณ์

“ที่รัฐบาลจะบอกว่าเมื่อวางบิ๊กแบ๊กเสร็จแล้ว ก็ทิ้งทุกอย่างให้ กทม.ดำเนินการนั้นไม่ได้ เพราะการดูแลประชาชนยังเป็นหน้าที่ของรัฐบาล อีกทั้งพื้นที่ใน กทม.ก็ไม่ใช่แค่อำนาจของท้องถิ่นแต่เป็นอำนาจของราชการที่รัฐบาลต้องสนับสนุนการทำงานของ กทม.ด้วย ซึ่งทาง กทม.ก็ชี้แจงแล้วว่าบิ๊กแบ๊กได้ผลเพียง 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และยังมีบางแนวที่ยังวางไม่สำเร็จด้วย ผมหวังว่า ที่ผ่านมา มีความผิดพลาดจากการบริหารน้ำเกิดหลายครั้ง ผมหวังว่า รัฐบาลจะเรียนรู้จากความผิดพลาดเหล่านั้น เพราะกาคบริหารภายใต้แรงกดดันทางการเมืองและมวลชนเป็นตัวทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาลมากที่สุด ดังนั้น รัฐบาลต้องมีความชัดเจนเข้มแข็งมีความเป็นเอกภาพ”
กำลังโหลดความคิดเห็น