“สุขุมพันธุ์” สั่งเฝ้าระวังเขตคลองสามวา หลังประตูระบายน้ำคลองสามวา ถูกสั่งเปิด 1 เมตรจากนายกฯ ขณะที่เขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง คอลงแสนแสบ ลำปะทิว เสี่ยงไม่แพ้กัน ส่วนฝั่งตะวันตกน้ำขยายตัวไม่ลดระดับ นครปฐมมวลน้ำเยอะเร่งระบายขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย
วันนี้ (1 พ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร (กทม. ) แถลงภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กทม.ประกาศให้ แขวงบางไผ่ เขตบางแค เป็นพื้นที่อพยพเนื่องจากน้ำได้ขยายตัวเข้าไปในเขตบางแคแล้ว และชุมชนทุกชุมชนได้รับผลกระทบแล้ว สำหรับแขวงบางชัน เขตคลองสามวานั้นได้ประกาศให้เป็นเขตเฝ้าระวังเท่านั้น เพราะได้รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้เปิดประตูน้ำที่คลองสามวาให้กว้าง 1 เมตร
“เมื่อเปิดกว้างขนาดนี้ แขวงบางชันจะกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงทันที ทั้งนี้ ยังคงมีความกังวลว่า ระดับน้ำ ในพื้นที่ กทม.ตะวันออกจะเป็นอย่างไร เบื้องต้น ได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า ศปภ.ไม่สามารถปิดประตูที่คลอง 8 และ คลอง 10 ได้ เพราะประชาชนไม่ยอม ซึ่งความต้องการเดิมต้องการเหลือการระบายน้ำ 30 ซม. ทั้งนี้ เมื่อไม่สามารถปิดประตูลงได้ จะเกิดผลกระทบในเขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง คลองแสนแสบ และคลองลำปะทิว สิ่งเหล่านี้เพิ่มกับการเปิดประตูคลองสามวา จะมีผลต่อ 2 นิคมอุตสาหกรรมบางชัน และลาดกระบังอย่างมาก” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ พื้นที่ที่เป็นห่วงมาก คือ ทางด้านตะวันตก น้ำเริ่มขยายตัวออกไป ยังไม่ลด ยังมีมวลน้ำในจังหวัดนครปฐมจำนวนมาก กทม.ต้องติดตามฝั่งตะวันตกเป็นพิเศษ สิ่งที่ต้องทำ คือ การเร่งระบายน้ำทั้งประตูน้ำและเครื่องสูบน้ำของรัฐบาล ให้เร่งระบายน้ำโดยการสูบน้ำออก ในการนี้ต้องขอความสนับสนุน จากทุกฝ่าย เพื่อให้เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา กทม.ตะวันตก ระบายน้ำไม่ดีเท่า กทม. ตะวันออก
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า สถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีความแน่นนอน กทม.ด้านตะวันออก จะมีข้อสรุปอย่างไร ต้องยึดตามที่ได้ตกลงกันไว้ ยืนยันว่าตนเองรักพี่น้องประชาชน แต่บางครั้งต้องใจแข็งเพื่อส่วนรวม เพราะคือการปกครอง ที่จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาผลประโยชน์
“ขอยืนยันว่าผมก็เป็นนักการเมืองที่รักประชาชนเช่นเดียวกับนักการเมืองท่านอื่น แต่ก็ดูผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักด้วย แต่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ กทม. มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินงาน”
สำนักระบายน้ำช่วยฝั่งธนฯ เร่งระบายน้ำเต็มที่
นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวว่า น้ำในคลองมหาสวัสดิ์ส่วนหนึ่งล้นผ่านเข้ามาในด้านกรุงเทพฯ ตะวันตกแล้ว ระบบระบายน้ำหลักในขณะนี้ คือ คลองภาษีเจริญ โดยได้เร่งระบายออกไปยังคลองอื่นๆ เพื่อลงแม่น้ำเจ้าพระยา และกทม.ได้ประสานขอให้ศปภ.เพิ่มระบบระบายน้ำที่กระทุ่มแบนเพื่อระบายน้ำออกไปยังพื้นที่อื่นให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม มวลน้ำที่มาจากทางเหนือค่อนข้างมาก ทางฝั่งธนบุรีจึงต้องเร่งป้องกัน ทั้งนี้ กทม.ได้เร่งดำเนินการเสริมแนวป้องกันแล้ว แต่รถบรรทุกเข้าไปได้ยากมาก จึงได้เปลี่ยนมาใช้เรือแทน และเร่งดำเนินการสูบน้ำโดยใช้ปั๊มน้ำ 4 ตัว สามารถระบายได้ 100 กว่า ลบ.ม.ต่อวินาที และที่จ.นครปฐมก็สามารถเร่งระบายได้ 100 กว่า ลบ.ม.ต่อวินาทีเช่นเดียวกัน
ในส่วนกรุงเทพฯ ตะวันออก จากการที่ ศปภ.ไม่สามารถปิดประตูระบายน้ำด้านบนได้ เนื่องจากประชาชนไม่ยอม ทำให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านล่าง และหากน้ำล้นคันเข้ามาจะทำให้พื้นที่ทั้งหมดมีปัญหา ทั้งนี้มีหลายตัวแปรทั้งที่ประตูน้ำมีนบุรี ประเวศ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องดูตัวแปรทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันด้วย
วันนี้ (1 พ.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร (กทม. ) แถลงภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา กทม.ประกาศให้ แขวงบางไผ่ เขตบางแค เป็นพื้นที่อพยพเนื่องจากน้ำได้ขยายตัวเข้าไปในเขตบางแคแล้ว และชุมชนทุกชุมชนได้รับผลกระทบแล้ว สำหรับแขวงบางชัน เขตคลองสามวานั้นได้ประกาศให้เป็นเขตเฝ้าระวังเท่านั้น เพราะได้รับบัญชาจากนายกรัฐมนตรีให้เปิดประตูน้ำที่คลองสามวาให้กว้าง 1 เมตร
“เมื่อเปิดกว้างขนาดนี้ แขวงบางชันจะกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงทันที ทั้งนี้ ยังคงมีความกังวลว่า ระดับน้ำ ในพื้นที่ กทม.ตะวันออกจะเป็นอย่างไร เบื้องต้น ได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่า ศปภ.ไม่สามารถปิดประตูที่คลอง 8 และ คลอง 10 ได้ เพราะประชาชนไม่ยอม ซึ่งความต้องการเดิมต้องการเหลือการระบายน้ำ 30 ซม. ทั้งนี้ เมื่อไม่สามารถปิดประตูลงได้ จะเกิดผลกระทบในเขตหนองจอก มีนบุรี ลาดกระบัง คลองแสนแสบ และคลองลำปะทิว สิ่งเหล่านี้เพิ่มกับการเปิดประตูคลองสามวา จะมีผลต่อ 2 นิคมอุตสาหกรรมบางชัน และลาดกระบังอย่างมาก” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ พื้นที่ที่เป็นห่วงมาก คือ ทางด้านตะวันตก น้ำเริ่มขยายตัวออกไป ยังไม่ลด ยังมีมวลน้ำในจังหวัดนครปฐมจำนวนมาก กทม.ต้องติดตามฝั่งตะวันตกเป็นพิเศษ สิ่งที่ต้องทำ คือ การเร่งระบายน้ำทั้งประตูน้ำและเครื่องสูบน้ำของรัฐบาล ให้เร่งระบายน้ำโดยการสูบน้ำออก ในการนี้ต้องขอความสนับสนุน จากทุกฝ่าย เพื่อให้เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา กทม.ตะวันตก ระบายน้ำไม่ดีเท่า กทม. ตะวันออก
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวต่อว่า สถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีความแน่นนอน กทม.ด้านตะวันออก จะมีข้อสรุปอย่างไร ต้องยึดตามที่ได้ตกลงกันไว้ ยืนยันว่าตนเองรักพี่น้องประชาชน แต่บางครั้งต้องใจแข็งเพื่อส่วนรวม เพราะคือการปกครอง ที่จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาผลประโยชน์
“ขอยืนยันว่าผมก็เป็นนักการเมืองที่รักประชาชนเช่นเดียวกับนักการเมืองท่านอื่น แต่ก็ดูผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักด้วย แต่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง ทั้งนี้ กทม. มีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินงาน”
สำนักระบายน้ำช่วยฝั่งธนฯ เร่งระบายน้ำเต็มที่
นายสัญญา ชีนิมิตร ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวว่า น้ำในคลองมหาสวัสดิ์ส่วนหนึ่งล้นผ่านเข้ามาในด้านกรุงเทพฯ ตะวันตกแล้ว ระบบระบายน้ำหลักในขณะนี้ คือ คลองภาษีเจริญ โดยได้เร่งระบายออกไปยังคลองอื่นๆ เพื่อลงแม่น้ำเจ้าพระยา และกทม.ได้ประสานขอให้ศปภ.เพิ่มระบบระบายน้ำที่กระทุ่มแบนเพื่อระบายน้ำออกไปยังพื้นที่อื่นให้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม มวลน้ำที่มาจากทางเหนือค่อนข้างมาก ทางฝั่งธนบุรีจึงต้องเร่งป้องกัน ทั้งนี้ กทม.ได้เร่งดำเนินการเสริมแนวป้องกันแล้ว แต่รถบรรทุกเข้าไปได้ยากมาก จึงได้เปลี่ยนมาใช้เรือแทน และเร่งดำเนินการสูบน้ำโดยใช้ปั๊มน้ำ 4 ตัว สามารถระบายได้ 100 กว่า ลบ.ม.ต่อวินาที และที่จ.นครปฐมก็สามารถเร่งระบายได้ 100 กว่า ลบ.ม.ต่อวินาทีเช่นเดียวกัน
ในส่วนกรุงเทพฯ ตะวันออก จากการที่ ศปภ.ไม่สามารถปิดประตูระบายน้ำด้านบนได้ เนื่องจากประชาชนไม่ยอม ทำให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านล่าง และหากน้ำล้นคันเข้ามาจะทำให้พื้นที่ทั้งหมดมีปัญหา ทั้งนี้มีหลายตัวแปรทั้งที่ประตูน้ำมีนบุรี ประเวศ การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องดูตัวแปรทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันด้วย