“ยงยุทธ” โอ๋ชาวคลองสามวา ทะเลาะพังประตูน้ำไม่ผิด อ้างขนาดนักวิชาการยังเห็นไม่ตรงกัน ชี้ต้องเจรจา ด้าน “วิชาญ” ยกคำสั่งนายกฯ เปิดประตู 1 เมตร ยันไม่กระทบบางชัน อ้างเช็กแล้วระดับไม่ต่างกัน ซัด “สุขุมพันธุ์” พูดไม่จริง แฉ นักการเมืองบางฝ่ายขับเก๋งออดี้ยุก่อเรื่อง ชี้เรื่องการเมืองชัด โอ่ ตร.รู้ตัวแล้ว คาดมือที่ 3 แต่ไม่ใช่ฝ่ายรัฐแน่ ปูดมีจ้างคนนอกด้่วย ขู่อัดวีดิโอไว้แล้ว ปัดทำหนังสือแทรกแซงข้าราชการ อ้างบรรเทาความเดือดร้อน
วันนี้ (2 พ.ย.) นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงปัญหาความขัดแย้งการเปิดปิดประตูน้ำคลองสามวา ว่า หลายหน่วยงานรวมถึงนักวิชาการยังมีความเห็นที่ไม่ตรงกัน ซึ่งชาวบ้านเองก็มีความเห็นไม่ตรงกันไม่ใช่เรื่องที่จะผิดอะไร หากได้คุยกันก็จะมีข้อยุติ เชื่อว่า เรื่องนี้จะไม่บานปลาย เพราะเจตนาของคนจริงๆ ไม่ได้ต้องการที่จะมาทำร้ายกัน ทุกฝ่ายแค่กังวลว่า จะแก้ปัญหาน้ำกันอย่างไร ดังนั้นจุดประสงค์จึงตรงกันมีเพียงวิธีการที่แตกต่างกัน แต่ถ้าวัตถุประสงค์ต่างกันอันนี้จึงจะเป็นเรื่องยากจึงจำเป็นจะต้องมีการเจรจาพูดคุยกันเพื่อทำความเข้าใจ เมื่อถามว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคุ้มกันเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปปฏิบัติงาน นายยงยุทธ กล่าวว่า บางครั้งก็มีความจำเป็น เพราะบางทีสถานการณ์หน้าซิ่วหน้าขวานก็จะเกิดอารมณ์ขึ้นมา คงต้องมีการเจรจาและการป้องกันควบคู่กันไป หากป้องกันอย่างเดียวไม่เจรจากันคงไม่ได้ ซึ่งนายกฯได้มอบหมายให้ตนไปพบปะมวลชนที่คลองสามวาด้วย
ด้าน นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์ความวุ่นวายการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวา ว่า ขณะนี้ไม่มีประชาชนขัดขวางหลังจากที่ได้คุยกับ ทางกทม. ผอ.เขต และตัวแทนประชาชน ซึ่งการเปิดประตูเพิ่มจาก 80 ซม.เป็น 1 เมตร ไม่ได้เป็นการกระทำโดยพลการ แต่เป็นคำสั่งของนายกฯ อย่างไรก็ตาม การเปิดประตูดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บางชัน เพราะจากที่เช็กระดับน้ำแล้วแทบไม่ต่างกัน ถ้าจะต่างกันก็เพียงแค่ 2-3 ซม.ดังนั้น สิ่งที่ผู้ว่าฯ กทม.พูดจึงไม่เป็นความจริงที่ว่าหากเปิดประตูแล้วจะเกิดผลกระทบกับบางชัน
นายวิชาญ กล่าวว่า กรณีนี้มีประเด็นที่มีประชาชนส่วนหนึ่งหลงกับคำยุยงของฝ่ายการเมืองบางฝ่าย ที่มีคนขับรถเก๋งยี่ห้อออดี้ไปยุยงประชาชนให้เปิดประตูน้ำ ทำให้เรื่องลุกลามไปเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งเบื้องต้นตำรวจรู้ตัวคนที่ไปยุยงแล้ว ประเด็นนี้สาเหตุมาจากมือที่ 3 ที่ทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งไม่่โทษว่าเป็นฝ่ายไหน แต่ไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาลแน่นอน คิดว่า คงจะเป็นสำนึกส่วนตัวของนักการเมืองคนนั้นมากกว่า นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีการว่าจ้างเพราะมีคนจากนอกพื้นที่ส่วนหนึ่งเข้ามาผสมโรงด้วย ซึ่งได้ถ่ายวีดีโอบันทึกภาพไว้หมดแล้ว
“ฝ่ายรัฐบาลวันนี้เราพยายามแก้ไขปัญหา แต่ผมไม่ได้โทษ เพราะฝ่ายการเมืองต้องบอกตรงๆว่าเป็นส่วนตัว เพราะสำนึกของคนบางคนเป็นสำนึกส่วนตัว ไม่ได้เหมาว่าเป็นฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล แต่ผมขอว่าเป็นฝ่ายการเมืองที่มีสำนึกส่วนตัวในเรื่องดังกล่าว ซึ่งบวกความคิดและความเห็นแก่ตัว ที่ไม่รู้ว่าการระบายน้ำต้องระบายทั้งระบบ และความไม่เข้าใจของพี่น้องประชาชนที่ถูกปลุกปั่น” นายวิชาญ กล่าว
นายวิชาญ กล่าวว่า แม้ว่าเป็น ส.ส.แต่ยังมีความคิดคนละอย่าง ดังนั้นจึงต้องมีคนกลางคือคณะกรรมการที่มาบริหารเรื่องน้ำ
เมื่อถามว่า ส่วนตัวได้ทำหนังสือขอเปลี่ยนตัวคนที่ควบคุมประตูน้ำชลหารพิจิตร เนื่องจากไม่ยอมเปิดประตูระบายน้ำ มีการสั่งให้เปิด 10 ประตู แต่เปิดแค่ 2 ประตู นายวิชาญ กล่าวว่า เมื่อตนลงพื้นที่ไปดู ถึงมีการเปิดมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่ามีการเปลี่ยนตัวหรือยังยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ แต่เป็นการช่วยเหลือเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน หากมีการตีความว่าเป็นการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการ เพื่อถอดถอนผม ถ้าคิดจะตีความเฮงซวยอย่างนั้นก็เอาเถอะ
