“อภิสิทธิ์” ชี้ กทม.อีก 20 เขตกำลังจะจมน้ำ ต้องแก้ปัญหาก่อน ไม่ใช่เวลาจะพูดเรื่องใช้เงิน 8-9 แสนล้านฟื้นฟู ต้องรีบเตือนประชาชน ห่วงสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น วังทองหลาง ห้วยขวางสุ่มเสี่ยง เชื่อสิ้นเดือนนี้น้ำก็ยังไม่แห้ง เผยทำงานร่วมรัฐบาลมีตึงเครียดตอน “เจ๊หน่อย” เข้ามาจุ้น ได้แต่เตือนลูกพรรคใจเย็นๆ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า ตั้งแต่น้ำท่วมมามีอะไรหลายอย่างที่เราพยายามจะไม่พูด แต่จะพยายามแก้ปัญหาไปก่อน ในทางการเมืองพยายามจะลดความขัดแย้งลง พยายามจะไม่พูด อย่างเรื่องสิ่งของบริจาคที่มีการรั่วไหล มีการแบ่งสีแบ่งอะไร พยายามจะไม่พูด ตอนที่ตนไปเยี่ยมศปภ.ที่ดอนเมือง ก็ได้เสนอแนะไปหลายเรื่อง ซึ่งรัฐบาลมีอำนาจตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร
ตอนนี้ รัฐบาลเสียสมาธิไป มัวไปพูดเรื่องฟื้นฟูใช้เงิน 8-9 แสนล้านบาท ในขณะที่ตอนนี้กทม.อีก 20 เขตกำลังจะจมน้ำ เราได้เห็นในหลายๆ เขตแล้วว่าน้ำมุดมาตามท่อ รัฐต้องส่งสัญญาณให้ถูก ให้ประชาชนรู้สถานการณ์ เพราะตอนนี้น้ำคืบเข้ามาทุกขณะ ระดับน้ำสูงขึ้น ไม่ได้ทรง ไม่ได้ลดลง
ข้อมูล การตัดสินใจต้องรวมศูนย์ เช่น การเปิดปิดประตูน้ำ จะดูทีละจุดไม่ได้ ต้องดูเป็นภาพรวม สิ่งที่ผิดพลาดมา ที่คลองสามวามีมวลชนมากดดัน แล้วนายกฯ ก็ทำตามมวลชน สุดท้ายที่นิคมฯบางชันต้องมาลุ้นกันใหม่ หรืออย่างเรื่องที่มีนักการเมืองตอนเหนือของกทม.เกี่ยวข้องกับเรื่องการพังคันกั้นน้ำคลองประปา
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงว่า ถ้าแนวโน้มสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง ในที่สุดกทม.ทั้ง 50 เขตจะจมน้ำหมด จะบริหารจะทำกันได้ลำบากมากขึ้น ตอนนี้ กทม.จะเป็นเกาะอยู่แล้ว มีอยู่น้ำรอบด้าน
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมในสมัยรัฐบาลของตนว่า ตอนนั้นเราเน้นระดมความช่วยเหลือ ความร่วมมือจากหลายๆ ฝ่าย แม้กระทั่งขั้นตอนการฟื้นฟู ก็ให้เอกชนเข้ามาช่วย การฟื้นฟูตอนนั้นไม่ได้ใช้งบประมาณเลย แต่ภาครัฐจะต้องทำหน้าที่ประสานงานให้มากขึ้น ในภาวะวิกฤติแบบนี้ เข้าใจว่ารัฐบาลทำงานลำบาก ผมไม่คาดคั้น
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าตนเป็นนายกฯตอนนี้ มีจุดต่างคือ จะดูแลจุดที่บริหารจัดการปกติได้ อย่างโรงงานที่ปิดไป ลูกจ้างไม่มีงานทำเดินทางกลับบ้าน ก็ไปกระตุ้นเศรษฐกิจตรงนั้นในพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วม ประการที่ 2 จะจัดระบบดูแลให้ทั่วถึง มีศูนย์ส่วนหน้าในการติดต่อประสานงาน ประการที่ 3 ให้ชาว กทม.ติดตามสถานการณ์ ให้ได้รู้ทิศทาง ต้องมีการแจ้งเตือน ส่วนเรื่องการฟื้นฟูก็ไม่ว่ากัน แต่วันนี้ ต้องบริหารจัดการแก้ปัญหาก่อน ต้องไม่แบ่งสี ไม่แบ่งพื้นที่ ไม่ใช้มวลชนมากดดัน แต่ต้องใช้ผู้รู้ แก้ปัญหาตามหลักวิชา และตัดสินใจบนพื้นฐานอย่างนั้น แต่ที่ผ่านมา มีการเอาการเมืองในพื้นที่มากดดันคนทำงาน ว่าต้องตัดสินใจตามการเมือง
การระบายน้ำทางตะวันออก ตะวันตก หรือตรงกลางต้องสมดุล ทุกปีก็เป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ที่ จ.สมุทรปราการ มีเครื่องสูบน้ำมาก แต่มวลน้ำยังไม่ไป ก็ต้องดูว่าติดขัดตรงไหนก็มาช่วยกัน รัฐบาลต้องเป็นเจ้าภาพเชิญทุกฝ่ายมาคุยกันทั้ง กทม. จังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม
ตอนนี้ตนมีความกังวล กทม. 20 เขตที่คาดว่าจะปลอดภัย แต่ถ้าแนวโน้มเป็นแบบนี้ ก็กลัวว่า เขตวังทองหลาง เขตห้วยขวาง ก็จะมีปัญหา
เรื่องการทำงานร่วมกับรัฐบาล นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็มีความตึงเครียดบ้าง เริ่มตึงเครียดครั้งแรก ก็ตอนที่นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เข้ามา มีการวิพากษ์วิจารณ์ กทม.ก็ตึงขึ้นมาหน่อย ตนก็ประสานงานทาง กทม บอกว่าต้องใจเย็นๆ อย่าทะเลาะกัน แล้วก็มาตึงอีกครั้ง ตอนที่นายธีระชน รองผู้ว่าฯ กทม.เห็นว่าถ้าไม่ระบายน้ำออกทางตะวันออกก็จะสร้างปัญหากับกรุงเทพชั้นในได้ ตอนนี้ก็คลี่คลายแล้ว เพราะได้เข้าไปร่วมทำงานกับ ศปภ. ตนพยายามบอกว่าต้องใจเย็นอย่ามีอารมณ์ คุยกันด้วยเหตุผล
สำหรับแผนฟื้นฟู 8-9 แสนล้านบาท นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องตัวเลข เร็วเกินไปที่จะพูด ตอนนี้ยังไม่สรุปความเสียหาย อย่างนิคมฯ บางชัน นิคมฯ ลาดกระบัง ฟันธงได้หรือยังว่าจะไม่เป็นอะไร เมื่อยังไม่สรุปความเสียหหาย จะใช้เงิน จะต้องถามว่าจะทำอะไรบ้าง ต้องพอเห็นก่อนว่าจะทำอะไร ถึงจะพูดเรื่องเงิน
ตอนนี้ตนไม่เชื่อว่าสิ้นเดือนนี้น้ำจะแห้ง จะยืดเยื้อออกไปอีกหน่อย หลังจากนี้จะต้องสรุปบทเรียนให้ได้ ว่ามีจุดอ่อนตรงไหน แผนต่อไปจะทำอะไร จะปรับปรุงระบบอย่างไร บนพื้นฐานตามความจริง
