xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” รับงานแก้น้ำท่วมมีปัญหา ไม่กล้ายืนยันย้าย ศปภ.หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หารือร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.
“ยิ่งลักษณ์” เผย หลังหารือทีม กทม.ยอมรับการประสานมีปัญหา ทำแก้น้ำท่วมตัน ขอชาวบ้านฝั่งตะวันตกทำใจอยู่กับน้ำไปก่อน อ้างระบายน้ำยาก อ้ำอึ้งถูกถามเลย 31 ต.ค.ดีขึ้นหรือไม่ โยนถามผู้ว่าฯ กทม.บ้าง ทั้งไม่กล้ายืนยันย้าย ศปภ.อีกหรือไม่ ยันอยากยืนหยัดให้เต็มที่ ปัดใช้ กม.คุมมวลชนคลอง 8-9-10 ให้เวลา จนท.คุยก่อน ด้าน “คุณชาย” มั่นใจ “บางขุนเทียน จอมทอง คลองสาน” ไม่มีปัญหา ปัด กทม.ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ บอกหน้าที่หลักระบายน้ำฝนไม่ใช่ระบายน้ำเหนือที่มานอกอาณาเขตรับผิดชอบ

วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำที่ขาดการประสานงานร่วมกัน ว่า ก็มีบ้าง ยอมรับว่าการประสานระหว่างหน่วยงานในเรื่องพื้นฐาน และด้านเทคนิคที่ต้องมาปรับพื้นฐานความรู้ให้เท่ากัน ไม่ใช่แค่การประสานงานเพียงอย่างเดียว แม้กระทั่งความรู้เรื่องน้ำก็ต้องให้ทุกหน่วยงานเข้าใจร่วมกัน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการสร้างความเข้าใจร่วมกัน เช่น น้ำที่มาจากด้านเหนือกับน้ำกรุงเทพฯ จะเปิดหรือปิดประตูระบายต้องมีความสัมพันธ์กันทั้งประเทศ อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในวันนี้ เราพยายามที่จะให้คณะกรรมการและหน่วยงานที่จะทำงานร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ล่าสุดในฝั่งตะวันตกและตะวันออกเป็นอย่างไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในภาพรวมฝั่งตะวันออกมวลน้ำจากทางทิศเหนือเริ่มลดลง ซึ่งเราเริ่มระบายออกทางคลองไปบ้างแล้ว แต่ก็อาจจะมีบางประตูที่เราจะต้องชะลอน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาในกรุงเทพฯ มากขึ้น รวมถึงมาตรการที่เราได้ทำแนวกั้นน้ำ เช่น การวางบิ๊กแบ๊ค ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติและเกิดขึ้นมาก่อน เราพยายามที่จะชะลอ ซี่งตนคิดว่าฝั่งตะวันออกดีขึ้น ส่วนฝั่งตะวันตกนั้น การระบายเป็นไปค่อนข้างยาก เพราะในภาพรวมของฝั่งตะวันตกไม่ได้ถูกออกแบบให้ รับน้ำจากทางเหนือไหลลงมาทางใต้ และคลองที่จะระบายน้ำลงสู่ทะเลนั้นแคบมาก

เมื่อถามว่า พื้นที่ชั้นในของกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหรือไม่หากการนำบิ๊กแบ๊คไปทำคันกั้นน้ำมีความล่าช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราก็กำลังเร่งทำอยู่ คาดว่า จะแล้วเสร็จภายในวันนี้ จากการที่สอบถามทีมงานที่ทำ ก็ได้เร่งทำอย่างเต็มที่ เราก็พยายามที่จะทำจุดอื่นพื่อไว้ด้วยโดยการแก้จุดอื่นพร้อมๆ กัน

เมื่อถามว่า จากที่นายกฯเคยออกมาระบุว่า หลังวันที่ 31 ต.ค.สถานการณ์จะดีขึ้น แต่วันนี้ล่วงมาวันที่ 3 พ.ย.แล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้นหมายความว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ตนเคยบอกว่าวันที่ 31 ต.ค.นั้น หมายถึงระดับน้ำทะเลจะขึ้นสูงสุด เราจึงออกมาระบุว่าจะประเมินสถานการณ์หลังวันที่ 31 ต.ค.ซึ่งวันนี้สิ่งที่ดีขึ้น คือระดับน้ำทะเลลดลง ขณะนี้เป็นผลกระทบหลังจากวันที่ 31 ต.ค.แล้วน้ำจะแห้ง ซึ่งเป็นผลจากน้ำที่สะสมและเป็นผลจากน้ำทะเลที่หนุนสูงที่ล้นเอ่อเข้ามา ร่วมถึงระบบการระบายที่ยังไม่สามารถระบายได้เต็มที่เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบแบน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ต้องควบคุม ส่วนที่ทดีขึ้นคือ ระดับน้ำทะเล แต่เราต้องให้ระยะเวลาเพื่อให้น้ำระบายลงสู่ทะเล

เมื่อถามว่า ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ต้องย้ายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอดูสถานการณ์ก่อน เพราะใจจริงเราก็อยากจะยืนหยัดอยู่ตรงนี้ ถามต่อว่าการระบายน้ำต้องใช้ระยะเวลานานถึง 1 เดือนหรือไม่ในฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ใช้ระยะเวลาไม่เท่ากัน เพราะฝั่งตะวันออกใช้เวลาเร็วกว่า เมื่อถามว่า ฝั่งตะวันตกในส่วนพื้นที่ จ.นนทบุรี จะใช้เวลานานเท่าไหร่ในการรองรับน้ำ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ฝั่งตะวันออกการระบายน้ำจะทำได้ดีกว่า จากที่เรามีการขุดคลองน้ำก็เริ่มไหลเร็วมากขึ้น แต่น้ำก็ยังไม่เต็มคลองแสนแสบ ซึ่งเราก็พยายามที่จะไล่น้ำลงไป ส่วนฝั่งตะวันตกคงจะยากกว่า เนื่องจากคลองฝั่นตะวันตกเป็นแนวนอน การระบายน้ำต่างๆ ก็ยากมากขึ้น

ทั้งนี้ หลังจากที่ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถามหลายคำถาม จนทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดว่า “ให้ผู้สื่อข่าวไปถาม ผู้ว่าฯ กทม.(ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร) มั้งไหมค่ะ เดี๋ยวจะหาว่ารู้ระบบ กทม.มากเกินไป” เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าฝั่งตะวันตกจะต้องยืดระยะเวลาในการรับน้ำยาวออกไปอีก 1 เดือน เพราะการวางบิ๊กแบ็ก ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า บิ๊กแบ็กจะช่วยฝั่งตะวันออก ซึ่งฝั่งตะวันออกการแก้ปัญหาหลักๆ คือ เรื่องของบิ๊กแบ็ก การหรี่น้ำ การระบายน้ำ ส่วนฝั่งตะวันตก แม่น้ำเจ้าพระยา มีรอยรั่วนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด โดยเราจะเข้าไปดำเนินการตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไปและจะแล้วเสร็จในวันที่ 15 พ.ย.ตนขอเรียนประชาชนตรงๆ ว่า เราต้องอยู่ในสภาพนี้ไปก่อน เพราะน้ำทะเลจะหนุนสูง แม้เราจะทำการหยุดน้ำจากทางเหนือแล้ว แต่น้ำก็ยังตีเข้ามาจากทางฝั่งตะวันตกอีก เพราะยังมีรูรั่วอีก 13 จุด ซึ่งรูรั่วนี้เกิดมาก่อน ไม่ได้เกิดจากการกระทำของประชาชน

เมื่อถามว่า วันนี้สถานการณ์น้ำได้ขยายเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในแล้วจะแก้ไขอย่างไร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า น้ำมันแผ่ ดังนั้น มันก็ต้องขยายพื้นที่มากขึ้น ที่สำคัญจะรุนแรงมากกว่าที่เคยเป็นมาหรือไม่ คาดว่ากรุงเทพฯ ทางเหนือจะไม่รุนแรง และกรุงเทพฯ กลางที่น้ำแผ่เข้ามา ดูจากสถานการณ์แล้ว คาดว่า จะไม่รุนแรง ดังนั้น หาก ศปภ.และกรุงเทพฯร่วมมือกันจะสามารถบริหารจัดการการระบายน้ำตะวันออกได้ ดังนั้น ที่เป็นห่วงมากที่สุด คือ ฝั่งตะวันตก เพราะน้ำยังเข้ามาเยอะอยู่ จากนนทบุรี และปทุมธานี ซึ่งตรงนี้เราจะแก้ไขให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งระบบระบายน้ำทางด้านตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพฯ กรมชลประทาน มันไม่ดีเท่าฝั่งตะวันออก น้ำจึงเข้ามามาก และระบบระบายน้ำไม่ดีเท่า จึงน่าเป็นห่วง

เมื่อถามว่า แสดงว่า เป็นได้ว่าพื้นที่ฝั่งตะวันตกจะถูกน้ำท่วม ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ กล่าวว่า ยังครับ ยังมีพื้นที่อีกหลายพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งเขตบางขุนเทียน จอมทอง คลองสานยังไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นเรามีความว่าจะสามารถปกป้องสถานการณ์ได้ ส่วนจะปกป้องได้กี่เขตนั้น ตนไม่อยากทำนาย เพราะน้ำเป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้ เพราะหากน้ำมาทางไหนก็จะแผ่ขยายวงกว้าง หากน้ำมามากก็จะแผ่ตัวไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า วันนี้ ทาง กทม.ยอมรับแล้วหรือไม่ว่าปัญหาของประสิทธิภาพการระบายน้ำต่อปริมาณที่เข้ามาในพื้นที่ เรารับมือไม่ได้ใช่หรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ระบบระบายน้ำมีขึ้นเพื่อระบายน้ำฝนที่ตกหนัก และน้ำล้นตลิ่ง ไม่ได้สร้างเพื่อระบายน้ำจากเหนือไปใต้ ดังนั้น เราระบายน้ำได้ส่วนหนึ่ง จากเหนือไปใต้ฝั่งพระนคร ประมาณ 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน และทางด้านฝั่งธนบุรี ระบายน้ำได้ประมาณ 3 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่น้อยมาก

เมื่อถามต่อว่า แต่ก่อนหน้านี้ กทม.เคยให้ความมั่นใจในเรื่องประสิทธิภาพการระบายน้ำ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขอเรียนว่า หน้าที่หลักของเราคือการระบายน้ำท่วมขังที่มาจากน้ำฝน และน้ำล้นตลิ่ง แต่ถ้าน้ำมาจากทางเหนือและผ่านเจ้าพระยาเรารับได้ แต่ถ้าผ่านจุดอ่อนของ กทม. ซึ่งไม่ใช่อยู่ในอาณาเขตของ กทม. เราไม่สามารถทำอะไรได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ จ.ปทุมธานี ไม่ว่าจะเป็น ที่หลักหก หรือ ทางฝั่งตะวันออก และจุดอ่อนในพื้นที่บางกรวย บางบัวทอง รวมทั้งคลองมหาสวัสดิ์

เมื่อถามอีกว่า กทม.ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาร่วมกันกับรัฐบาลได้ใช่หรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ในระยะสั้น วันนี้พรุ่งนี้ (5 พ.ย.) ทำไม่ได้เลย แต่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรี ในระยะยาว ว่าเราจะทำด้วยกัน เมื่อถามต่อว่า กทม.มีอุปสรรคในการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆในการระบายน้ำหรือไม่ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ไม่มี เราระบายน้ำมาโดยตลอด

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวเสริมว่า การประสานงานจริงๆ แล้ว โครงสร้างการทำงานเดิมเป็นลักษณะที่แยกกันทำงานระหว่างกรุงเทพฯและภาพรวมอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาทุกจังหวัดมีแนวทางระบายน้ำของทุกจังหวัดอยู่แล้ว เราไม่เคยคุยกันถึงเรื่องการระบายน้ำทั้งประเทศเลย ดังนั้น ในส่วนของจ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี ก็ทำกันเอง ซึ่งเราไม่เคยคุยกันถึงเรื่องรอยต่อระหว่างพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเลย ดังนั้น เราต้องนำปัญหาเหล่านี้มาแก้ไขปัญหาต่อไป ทั้งนี้ กรุงเทพฯ หากจะวางระบบแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำก็ต้องปรึกษากับ จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี และจังหวัดโดยรอบกรุงเทพฯ

เมื่อถามว่า สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้จะส่งผล ในการตั้งกระทรวงน้ำขึ้นมาแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในอนาคตหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ยังไม่ขอพูดถึงกระทรวงน้ำดีกว่า แต่ขอว่าวันนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรุงเทพฯ มาวางแผนแก้ไขปัญหาระยะยาวรวมกัน ในภาพของประเทศ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีจังหวัดใดเป็นทางผ่านของน้ำ เพื่อไม่ให้ปัญหานี้กลับมาเกิดขึ้นอีก

เมื่อถามว่า จะมีมาตรการดูแลบิ๊กแบ๊คอย่างไร เพราะเป็นจุดสำคัญในการป้องกันกรุงเทพฯ โดยก่อนนายกฯ จะตอบคำถามนี้ นายกฯ ได้พูดขึ้นว่า ร้อนค่ะร้อน พร้อมตอบคำถามว่า ทุกอย่างวันนี้ใช้คนทำหมด มาตรการต่างๆ ก็เต็มที่ คงต้องใช้คนคอยเฝ้า ซึ่งบิ๊กแบ็กใหญ่มากและมวลชนไม่สามารถพังได้ และเราก็มีมาตรการอย่างเต็มที่และไม่มีมากไปกว่านี้ เพราะติดปัญหาเรื่องโครงสร้างของระบบที่มีมานานแล้ว และเราเองก็ได้เตรียมการป้องกันต่างๆ เพื่อเป็นการชะลอน้ำ ส่วนเรื่องมาตรการขั้นเด็ดขาดนั้น เป็นในส่วนของข้อกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากการทำงานนั้นไม่ได้อย่างเต็มที่ ก็ต้องมีมาตรการภายใต้กฎหมาย มาตรา 31 พระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 2550 ที่เราได้ประกาศให้ 27 จังหวัด เป็นเขตภัยพิบัติร้ายแรง วันนี้เราอยู่ในระบบประชาธิปไตย ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ เราไม่ใช้กฎหมายเป็นตัวนำในการแก้ไขปัญหา แต่ทุกคนต้องมีส่วนรวมในการแก้ไขปัญหาก่อน

ต่อข้อถามว่า ปัญหาในคลอง 8 คลอง 9 และคลอง 10 ที่ประชาชนยังมีความขัดแย้งอยู่จะใช้กฎหมายนี้ไปบังคับหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบการทำงานจะต้องลงพื้นที่ด้วยกันทุกฝ่าย วันนี้เรายังต้องมีการปรับปรุงอยู่ ส่วนหนึ่งเราเคลียร์มวลชนได้แล้ว และยังไม่เจอเจ้าหน้าที่ ดังนั้นจะต้องกลับไปคุยกันใหม่ และนัดทั้งสองฝ่ายเพื่อตกลงร่วมกัน ให้เวลาทีมงานวันนี้อีก 1 วัน

เมื่อถามว่า น้ำที่ไหลมาตามท่อระบายน้ำจะมีการแก้ไขอย่างไร ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันไปพูดกับผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ว่า “ร้อนค่ะร้อน ท่านผู้ว่าฯ ไม่มีแอร์หรือค่ะชั้นนี้” เมื่อถามต่อว่า วันนี้ถือว่าเราแพ้น้ำใช่หรือไม่ มีคำว่าชนะหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้มันเป็นภัยธรรมชาติ ต้องกลับไปดูประวัติศาสตร์ เพราะน้ำมากกว่าประวัติศาสตร์ น้ำมันเยอะมาก เมื่อถามว่า เราจะสร้างประวัติศาสตร์เพื่อชนะน้ำครั้งนี้ได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้น้ำมา 27 จังหวัด หากน้ำมาแค่ 1 จังหวัด ก็ยังพอสู้ได้ เราระดมสรรพกำลังสู้กับน้ำทั้ง 27 จังหวัดมา 3 เดือน รับน้ำมาก็เต็มแล้ว

เมื่อถามว่า การเปิดประชุมร่วม 2 สภาเพื่อพิจารณาว่าด้วยเรื่องการต่อสู้ในศาลโลกในคดีพระวิหาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า รอสภาเปิดก่อน เมื่อถามต่อว่า จะมีการประกาศวันหยุดราชการเพิ่มหรือไม่ นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ต้องรอดูการวางบิ๊กแบ็ก ซึ่งขณะนี้แต่ละหน่วยงานก็สามารถพิจารณาวันหยุดได้เอง หากเราประกาศเป็นวันหยุดก็จะไม่มีใครมาช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในบางพื้นที่ที่น้ำท่วมก็หยุดไปโดยปริยายอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น