รองผู้ว่าฯ แจงสถานการณ์น้ำเข้ากรุง เผยคืบเข้าถนนวิภาวดีถึงเจ๊เล้ง ขณะที่ขาออกถึงแยกหลักสี่ ชี้น้ำเหนือเข้าช้ากว่าที่คิด ทั้งที่ควรถึงบางซื่อแล้ว แต่ก็ระบายได้ช้าเช่นกัน เหตุมีน้ำทะเลหนุน แจงทำงานประสานศปภ.ตลอด ด้าน “อานนท์” เผย รอศึกษาเจาะถนนระบายน้ำได้จริงหรือไม่ ย้ำมีปัญหาระบายน้ำพบตอม่อขวางทางน้ำอยู่ พร้อมแนะปรับทัศนคติชี้ไม่ได้ร้ายอย่างที่คิด เป็นแค่กลัวกับความลำบาก
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. นายธงทอง จันทรางศุ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทภัย พร้อมด้วย นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม.นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายวีระ วงศ์แสนนาค อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ กทม.หลังจากน้ำทางเหนือได้เริ่มเข้าสู่พื้นที่ กทม.มากขึ้น
โดย นายธีระชน กล่าวว่า น้ำที่อยู่บนพื้นผิวถนนทั้งวิภาวดีและพหลโยธินเป็นน้ำจากทางเหนือที่จะไหลเข้าสู่คูคลองและท่อระบายน้ำ แต่ปัญหาคือ ท่อระบายน้ำมีขนาดเล็ก แต่ปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ทำให้เกิดการต่อสู้กันจากน้ำที่ไหลลงสู่คูคลองและไหลเข้าสู่ท่อระบายน้ำ จนทำให้น้ำเอ่อขึ้นมาบนพื้นผิวถนน ซึ่งปริมาณน้ำทางเหนือได้ไหลเข้าสู่ กทม.ตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. จึงเกิดปัญหาน้ำในคลองประปา ส่งผลให้น้ำท่วมในเขตดอนเมือง-หลักสี่ ขณะที่น้ำเข้าสู่พื้นที่วิภาวดี เมื่อวันที่ 23 ต.ค. และเข้าสู่ถนนพหลโยธินในวันที่ 24 ต.ค.ซึ่งขณะนี้น้ำในส่วนของพหลโยธินได้ข้ามสะพานใหม่เข้าบิ๊กซีแล้ว ส่วนถนนวิภาวดีขาออกถึงแยกหลักสี่ ขาเข้าปริมาณน้ำถึงห้างเจ๊เล้ง ซึ่งถือว่าน้ำเข้ามาช้ากว่าที่คาดการณ์ แต่ได้ลามมาเรื่อยๆ เพราะตอนแรกคิดว่าวันนี้น้ำน่าจะถึงเขตบางซื่อแล้ว ส่งผลทำให้เราสามารถชะลอน้ำที่เข้าสู่พื้นที่กทม.ได้ อย่างไรก็ตามปัญหาอย่างหนึ่ง คือเป็นช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้การระบายน้ำออกได้น้อยกว่าน้ำที่เข้ามา
นายธีระชน กล่าวว่า ศปภ.และ กทม.ได้ทำงานประสานกันมาโดยตลอด และมีการปรับปรุงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน เนื่องจากเกิดความไม่สบายใจ โดยเฉพาะกับข่าวสารที่ออกไป เริ่มตั้งแต่ปัญหาน้ำในคลองประปา ปริมาณน้ำในคลองแสนแสบ และกรณีที่ระบุว่ากทม.ไม่มีการเปิดบานประตูระบายน้ำร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตรงนี้ยืนยันว่า กทม.ได้มีการเปิดประตูระบายน้ำเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ตรงนี้อยากให้ทุกฝ่ายเข้าใจ กทม.โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดที่กทม.ถูกไล่ยิง ใน อ.ลำลูกกา ปทุมธานี จนต้องมีการประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงไปปกป้อง
ขณะที่ นายอานนท์ กล่าวว่า ปัญหาขณะนี้พบว่ามีตอหม้ออยู่ใต้น้ำและขวางทางน้ำ อย่างกรณีคลองแสนแสบมีการสร้างตอหม้อใหม่จริง แต่ตอม่อเก่าไม่ได้นำออกไป ทำให้ขวางทางน้ำ ส่วนกรณีที่ภาคเอกชนเสนอให้เจาะถนน 4 สาย ก็ต้องดูก่อนว่าเมื่อเจาะแล้วน้ำจะผ่านได้จริงหรือไม่ เพราะขณะนี้ความแม่นยำทางวิชาการลดน้อยลง ทำให้คาดการณ์ลำบากและปริมาณน้ำจำนวนมาก ส่วนการเยียวยาก็เป็นเรื่องภายหลัง
“ขณะนี้ดูเหมือนว่าเราสร้างภาพว่าน้ำเป็นเหมือนสารพิษที่จะโดนตัวไม่ได้ ภาพที่สื่อสารออกมาเหมือนน้ำเป็นผู้ร้าย จึงอยากให้สร้างทัศคติที่ว่าน้ำมีคุณค่า เพียงแต่เราอยู่อย่างไม่สะดวกไม่สบายเท่านั้นเอง ด้วยความที่มีการพูดกันมา ทั้งทวิตเตอร์หรืออะไรต่างๆ กลายเป็นเหมือนจิตวิทยา กรอกหูทุกวัน จึงเกิดความเครียด แต่น้ำท่วมก็ไม่มีใครตาย ยกเว้นป่วยหนัก เราสามารถอยู่กับมันได้ อย่างไรก็ตาม จะพบว่า เมื่อ พ.ศ.2520-2550 จะมีปรากฏการณ์เอลนีโญ มีปัญหาภัยแล้ง ไฟป่ามาตลอด ฉะนั้น คราวนี้จะถึงรอบที่โลกพลิกกลับ เราจะเจอปรากฎการณ์ลานินญ่าไปอีก 30 ปี ซึ่งต้องปรับตัวอยู่กับมัน” นายอานนท์ กล่าว
นายอานนท์ กล่าวว่า ปัญหาทางเทคนิคเป็นปัญหาที่หลายคนไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด โดยเฉพาะการลดบานประตูระบายน้ำลงเจ้าพระยา จะสามารถชะลอน้ำได้ แต่ไม่ใช่ทันที จะเห็นผลใน 4-5 วันถัดมา
อย่างไรก็ตาม ขณะที่สถานการณ์น้ำบริเวณท่าอากาศยานดอนเมือง น้ำได้ทะลักเข้ายังพื้นที่มากขึ้น จนส่งผลผลกระทบต่อการเดินทางไป-กลับของเจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น.การท่าอากาศยานดอนเมืองได้ประกาศว่ามีการจัดรถยีเอ็มซีไว้บริการรับส่งเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนที่มาปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปภ.โดยช่วงเช้าสามารถรอรถได้ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หมอชิต ฝั่งจตุจักร ปตท.สาขาใหญ่ แยกเกษตรฯ ในเวลา 07.30 น. 08.30 น.และ 09.30 น.และขากลับจากอาคารชั้น 1 ไปยังแยกหลักสี่ แยกบางเขน ห้าแยกลาดพร้าว และสิ้นสุดที่บีทีเอสหมอชิตฝั่งกรมการขนส่ง ในเวลา 18.00 น.19.00 น.20.00 น.และ 00.15 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป