xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” รับโอกาสสูงน้ำท่วม กทม.ชั้นใน แต่จะให้กระทบน้อยที่สุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ปู” รับน้ำมีมากเกิน โอกาสสูงที่จะทะลัก กทม.ทั้งชั้นใน กลาง นอก เผยพื้นที่เสี่ยงสุดคือแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา-พื้นที่ตามแนวพนังกั้นน้ำ-นอกแนวริมน้ำ ชี้กรณีเลวร้ายที่สุด กทม.จะท่วมตั้งแต่ 10 ซม.-1.5 เมตร แต่ยันจะควบคุมให้กระทบน้อยที่สุด

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง "น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" แถลงการณ์  

วันนี้ (25 ต.ค.) เวลาประมาณ 20.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงการณ์เรื่อง เตือนภัยสถานการณ์น้ำท่วมผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ว่า ขณะนี้มวลน้ำก้อนใหญ่ที่ไหลมาจากภาคกลางจะผ่านกรุงเทพมหานครเพื่อไหลลงสู่ทะเล ซึ่งได้กำชับให้หน่วยงานของทุกกระทรวง กรุงเทพมหานคร และทุกเหล่าทัพนั้น ช่วยระวังป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำกระทบ สร้างความเสียหายให้แก่กรุงเทพมหานครให้น้อยที่สุด

สำหรับข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ คือ พลังของน้ำครั้งนี้มีแนวโน้มมากเกินกว่าที่พนังกั้นน้ำ ประตูน้ำ หรือมาตรการต่างๆ ที่จะป้องกันไว้ได้ และมีโอกาสอย่างสูงยิ่งที่น้ำจะทะลักเข้ามาทั้งในเขตพื้นที่ชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ขณะนี้พื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่สุด คือ แนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแนวพนังกั้นน้ำต่างๆ รวมถึงพื้นที่ที่อยู่นอกแนวริมน้ำ ก็จะได้รับผลกระทบ โดยการเกิดน้ำท่วม ส่วนระดับน้ำจะสูงเท่าใดนั้น ก็ขึ้นอยู่กับขีดความสามารถในการบริหารจัดการวิกฤตน้ำทะลักครั้งนี้ให้ค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกับบรรเทาความรุนแรง ตลอดจนขึ้นอยู่กับความสูงของพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท่วมสูงไม่เท่ากัน

“เมื่อวานนี้ ดิฉันได้มีโอกาสไปตรวจอุโมงค์ระบายน้ำยักษ์ และมาตรการต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บัญชาการทหารบก ดิฉันขอยืนยันว่า ทุกฝ่ายจะใช้วิธีการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะแบ่งเบาและลดภาระเรื่องของน้ำท่วมขังในส่วนของกรุงเทพมหานครให้เร็วที่สุด”

สำหรับแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้น้ำเข้าท่วมในกรุงเทพมหานคร ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาชนได้พยายามป้องกันตั้งแต่บริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ซึ่งขณะนี้มีน้ำเหนือซึ่งผ่านจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี ได้ล้นเข้ามาที่บริเวณอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี และเขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังป้องกันบริเวณคลองมหาสวัสดิ์ โดยเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อระบายไปสู่อ่าวไทย นอกจากนั้น ตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา รัฐบาลและกรุงเทพมหานครจะดูแลแนวคันกั้นน้ำเพื่อให้สามารถทานแรงอันมหาศาลของน้ำให้ได้

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำมีปริมาณมากเกินกว่าศักยภาพของระบบจะรองรับได้ ดังนั้น พื้นที่ในเขตต่างๆ ทางฝั่งธนบุรี รวมทั้งจังหวัดปริมณฑลจะมีน้ำท่วมในพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มในระดับเฉลี่ยประมาณ 0.5 เมตร อีกมาตรการหนึ่งที่ได้พยายามกระทำเพื่อลดความกดดันของพลังน้ำ คือ การปิดประตูระบายน้ำปากคลองเปรมประชากร เพื่อให้พื้นที่ที่อยู่บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะเขตดอนเมือง หลักสี่ สายไหม บางซื่อ บางเขน ถนนพหลโยธิน ไปจนถึงอนุสรณ์สถานดอนเมือง และถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้ได้รับผลกระทบที่ลดน้อยลง โดยจะเร่งระบายน้ำจากคลองรังสิตลงคลองหกวาสายล่าง เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะเข้าสู่กลางใจเมืองกรุงเทพมหานคร หรือพื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน และไม่สร้างความเสียหายให้มากเกินไป ซึ่งถ้ามาตรการเหล่านี้เป็นไปตามแผน และไม่มีการเสียหายของแนวป้องกันต่างๆ เพิ่มเติม ก็น่าจะสามารถควบคุมไม่ให้ระดับน้ำสูงเกิน 50 เซนติเมตร
บริเวณด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร คือ บริเวณมีนบุรี หนองจอก ลาดพร้าว ซึ่งมีคลองระพีพัฒน์ คลองหกวาสายล่าง คลองแสนแสบ ก็จะมีทั้งมาตรการเร่งระบายน้ำไปทางตะวันออก เพื่อลงสู่ทะเลตามแนวคลองที่ขุดเอาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นที่ได้มีการชี้แจงกับประชาชนไปแล้ว และไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองแสนแสบอีกด้วย อย่างไรก็ตามเนื่องจากพื้นที่เหล่านี้อยู่ในเขตหลากน้ำ ดังนั้น ระดับน้ำจะสูงกว่าบริเวณอื่นๆ โดยจะอยู่ในช่วงประมาณ 1 ถึง 1.5 เมตร

กรณีที่เลวร้ายที่สุด หากเราไม่สามารถป้องกันแนวป้องกันจุดใดจุดหนึ่งหรือทั้ง 3 จุดดังกล่าวได้ หรือไม่สามารถชะลอพลังอันมหาศาลของน้ำได้ หรือมีปัจจัยอื่น ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น แนวเขื่อนพัง แนวคันกั้นน้ำพัง ระดับน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานครก็จะสูงต่ำแตกต่างกันไป ตั้งแต่ราว 10 เซนติเมตร จนถึงระดับประมาณ 1.50 เมตร ผลก็คือจะต้องควบคุมให้น้ำเข้าในเขตกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนน้อยวันที่สุด โดยการหยุดการไหลเข้าให้เร็วที่สุด และใช้ระบบสูบน้ำทั้งหมดที่มีอยู่ ทั้งของกรมชลประทาน เรือผลักดันน้ำ และการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครเพื่อลดความรุนแรง ลดการท่วมขังให้เร็วที่สุด

เพื่อความไม่ประมาท และมีการเตรียมตัวเห็นควรให้พี่น้องประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีค่าขึ้นในที่สูงอยู่ในระดับที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมขัง และดิฉันได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาสถานที่สำคัญ เช่น พระบรมมหาราชวัง โรงพยาบาลศิริราช เขตพระราชฐานต่างๆ ระบบสาธารณูปโภค เช่น โรงไฟฟ้า โรงประปา โรงพยาบาล ให้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้น้อยที่สุด

“อนึ่ง ดิฉันขอเรียนว่า เพื่อรองรับสถานการณ์ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นตามแนวถนนวิภาวดีรังสิตด้านทิศเหนือ และด้วยความไม่ประมาท ในเย็นวันนี้ ดิฉันได้ขอให้ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ย้ายผู้ที่พำนักอยู่ในศูนย์พักพิงที่ท่าอากาศยานดอนเมืองไปยังศูนย์พักพิงอื่นในกรุงเทพมหานครตอนใน และต่างจังหวัด เพื่อความสะดวกและความปลอดภัย

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายเครื่องอุปโภคและบริโภคที่ได้รับบริจาค เพื่อแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย จากท่าอากาศยานดอนเมือง ชั้นล่าง ไปเป็นที่อาคารจันทะนะยิ่งยง ในบริเวณสนามกีฬาแห่งชาติศุภชลาศัย ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ต้องการบริจาค หรืออาสาสมัครที่จะช่วยบรรจุสิ่งของ สามารถไปที่นั่นได้ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

และขอกราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า สำหรับ ศปภ.จะปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ และดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมสนับสนุนการทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานครจนกว่าเหตุวิกฤตครั้งนี้จะผ่านพ้น

ในขณะเดียวกัน ดิฉันขอเรียนว่า นอกจากการแก้ไขวิกฤตอันเกิดจากน้ำครั้งนี้ รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องได้จัดการให้มีมาตรการอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อไม่ประมาท รองรับและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนอีกด้วย โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติในวันนี้ให้วันที่ 27-31 ตุลาคมนี้ เพื่อเป็นการระมัดระวังช่วงน้ำทะเลหนุนสูง ให้จังหวัดที่ประสบอุทกภัยทั้งหมด ให้หยุดราชการพิเศษ แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเกี่ยวกับน้ำทั้งหมดที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชนขอความร่วมมือให้ปฏิบัติงานทั้งหมดให้ความสะดวกแก่ประชาชนทุกท่าน พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินกลับบ้านต่างจังหวัด หรือจะพำนักในศูนย์พักพิงต่าง ๆ หรือบางท่านอาจจะตัดสินใจเดินทางไปพักอาศัยอยู่กับญาติในต่างจังหวัดที่ไม่ประสบภัย ดิฉันได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทยอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนเรียบร้อยแล้วค่ะ

สำหรับการดูและด้านสิ่งอุปโภคบริโภคต่างๆ อาทิ อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งจำเป็นต่างๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการ จัดให้มีบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและทั่วถึง และการให้ข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้องและทันต่อเวลา พร้อมกันนี้ ดิฉันขอความร่วมมือสื่อมวลชนทุกสาขาได้ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในยามวิกฤตนี้ด้วย

ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการประปา การไฟฟ้า ก็จะได้มีมาตรการดูแลให้ท่านได้รับความมั่นใจและปลอดภัยจากภัยอันใหญ่หลวงครั้งนี้ รวมทั้งหน่วยงานด้านปกครอง และรักษาความสงบเรียบร้อย ก็จะได้เข้าไปดูแลและคุ้มครองให้ท่านได้รับความสะดวกในการดำรงชีพ ตลอดจนได้รับความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินด้วย

พี่น้องประชาชนคะ วันนี้ดิฉันขอให้พวกเรามีสติ ไม่ตื่นตระหนกจนเกินการณ์ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ประมาทและตั้งมั่นอยู่ในความสงบ ตลอดจนติดตามรับฟังคำแนะนำของทางราชการเพื่อให้กระบวนการจัดการต่างๆ ของรัฐได้ทำหน้าที่ดูแลท่านอย่างดีที่สุด

ด้วยเดชะพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อมของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กับทั้งความพร้อมเพรียงร่วมใจกันของพวกเราชาวไทย ดิฉันมั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้ง สวัสดีค่ะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น