“หมอสุรวิทย์” เผยสั่ง สนง.พุทธศาสนาฯ ดูแลพระสงฆ์ที่ประสบปัญหาอุทกภัย เตรียมนำปัจจัยถวายองค์ละ 80 บาทต่อวันช่วงผจญน้ำท่วม พร้อมจัดรายการ “รวมน้ำใจคนไทยฟื้นฟูบูรณะวัดที่ประสบภัย” ด้าน รมว.วัฒนธรรมเตรียมลงพื้นที่ตรวจวัดไชยวัฒนาราม หลังคันกั้นน้ำพัง จี้ผู้ว่าฯ กู้ให้เสร็จในเย็นวันนี้ ยอมรับเกินความคาดหมาย เพราะตั้งกำแพงกั้นสูงแล้ว
น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถึงการช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมว่า ตนสั่งการให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแจ้งแนวทางปฏิบัติไปในทุกจังหวัดว่าให้นิมนต์พระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ไม่ว่าจะอยู่ในจังหวัดใด หากไม่มีที่พักหรือที่จำวัดให้นิมนต์ไปอยู่ในวัดที่สะดวกและปลอดภัย โดยใช้โมเดลเดียวกับตอนนิมนต์พระที่อยู่ชายแดนเขมร
ส่วนพระสงฆ์ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถึงขั้นต้องนั่งฉันอาหารบนถนนนั้น ได้แจ้งให้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนิมนต์ไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ขณะนี้มีพระสงฆ์ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมแล้ว 14,000 รูป ส่วนพระสงฆ์ที่ไม่สามารถไปบิณฑบาตได้ เบื้องต้นทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะนำปัจจัยถวายองค์ละ 80 บาทต่อวัน และในวัดที่น้ำท่วมจะเพิ่มให้อีกวัดละ 5,000 บาท นอกจากนี้จะมีการถวายเครื่องอัฐบริขาร และเครื่องใช้ต่างๆ ให้ด้วย
สำหรับโบสถ์หรือมัสยิดต่างๆ ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้น ก็จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในการเยียวยา
นพ.สุรวิทย์กล่าวว่า ตนยังแจ้งให้แต่ละจังหวัด ขอความร่วมมือจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง ประเมินความเสียหายวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ และให้รายงานเข้ามา ซึ่งทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะเสนอเรื่องไปยังรัฐบาล เพื่อบูรณะฟื้นฟูต่อไป นอกจากนี้จะมีการจัดรายการ ‘รวมน้ำใจคนไทยฟื้นฟูบูรณะวัดที่ประสบภัย’ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนเท่าไหร่ในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดที่ได้รับความเสียหาย เพราะอยู่ระหว่างการสำรวจ อีกทั้งใน 1-2 วันนี้มีจำนวนวัดที่ได้รับความเสียหายเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ
ด้าน นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงปริมาณน้ำที่ใหลเข้าท่วมวัดไชยวัฒนาราม จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโบราณสถานที่สำคัญ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ได้รับรายงานว่าน้ำได้ใหลเข้ามาบริเวณกำแพงรอยต่อระหว่างบ้านกับวัด โดยเดิมมีช่องอยู่แล้วและได้นำกระสอบทรายไปอุดไว้ แต่ความแรงของน้ำที่ค่อนข้างแรง มีปริมาณน้ำที่มากจึงทำให้กระสอบทรายพังลง ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมวัดไชยวัฒนารามเรียบร้อยแล้วรวมถึงบ้านเรือนประชาชนในบริเวณนั้นด้วย
รมว.วัฒนธรรมกล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ทางผู้ว่าฯ และข้าราชการ รวมถึงประชาชนได้ลงไปช่วยกันดูในพื้นที่แล้ว และทางอธิบดีกรมศิลป์ก็จะได้ลงไปดูความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโบราณสถานด้วย สำหรับตนเองหลังประชุม ครม.บ่ายวันนี้ก็จะลงพื้นที่เช่นเดียวกัน ซึ่งทางผู้ว่าฯ ได้แจ้งว่าจะพยายามกู้ให้น้ำแห้งได้ภายในเย็นวันนี้ ซึ่งจะใช้ทั้งสูบน้ำออก และเร่งเสริมกระสอบทรายกั้นน้ำ
นางสุกุมลกล่าวว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นขณะนี้คงยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องรอน้ำลดก่อน แต่คร่าวๆ ประมาณการไว้เดิม 100 กว่าล้าน และขณะนี้ยังคงมีน้ำใหลเข้ามาอีก ซึ่งคาดว่าจะมีอีกประมาณ 2 ลูกก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ดังนั้นคงต้องมีการรวบรวมข้อมูลอีกครั้ง ตอนนี้ต้องยอมรับว่าโบราณสถานที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายหมด และน้ำใหลเข้าท่วมวัดไชยวัฒนารามครั้งนี้ ต้องถือว่าเกินความคาดหมาย เพราะคิดว่าได้กั้นไว้สูงมากแล้ว แต่ก็ยังท่วมได้ ก็คงต้องมีการหารือกันถึงมาตรการป้องกันต่อไป เพราะโบราณสถานมีอายุเก่าแก่มาก เมื่อถูกน้ำท่วมก็อาจทำให้เกิดพังทลายได้