“วรเจตน์” พร้อมกลุ่มนิติราษฎร์ โต้ “มาร์ค-ปชป.” ปัดออกแถลงการณ์ช่วยลบล้างความผิดให้ “ทักษิณ” แต่เป็นการลบล้างเพื่อให้นำคดีต่างๆ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ ถือเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่ โดยขั้นตอนถามประชามติ ปชช.ยันแนวทางนี้ ตปท.ก็ทำกัน เผย “มาร์ค” เคยชวนร่วมทำงานกับ ปชป.จึงไม่ควรกล่าวหาตนเองเป็นฝ่ายคนของพท.
วันนี้ (25 ก.ย.) รองศาสตราจารย์ วรเจตน์ ภาคีรัตน์ พร้อมกลุ่มอาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในนามคณะนิติราษฎร์ แถลงข่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าฝ่ายค้าน ที่กล่าวหาว่า ตนแถลงการณ์รัฐประหาร เนื่องจากต้องการช่วยพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพราะได้รับเงินจากใคร และ นายถาวร เสนเนียม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่า ตนเอง และกลุ่มนิติราษฎร์ ไม่มีค่าพอ จากกรณีเชิญ นายอภิสิทธิ์ ไปแสดงวิสัยทัศน์ต่อเวทีสาธารณะ เนื่องจากมองว่าเป็นการใช้หมวกฐานะนักวิชาการ
รองศาสตราจารย์ วรเจตน์ ระบุว่า การลบล้างผลพวงรัฐประหารนั้น เพราะเป็นต้นตอของความขัดแย้งทางการเมืองในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และที่เสนอให้ล้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เพราะมีการนำเอาประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค.มาใช้บังคับแก่คดี จึงถือว่าเป็นผลที่เกิดจากการรัฐประหาร แต่การขอให้ประกาศลบล้างผลพวงการรัฐประหารเป็นโมฆะ ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการนิรโทษกรรม อภัยโทษ หรือลบล้างความผิดให้แก่พันตำรวจโท ทักษิณ หรือนักการเมืองคนใด แต่เป็นการลบล้างเพื่อให้นำคดีต่างๆ มาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ ถือเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งขั้นตอนต่างๆ สามารถทำได้โดยการทำประชามติถามประชาชน ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยของประเทศ ว่า จะให้มีการประกาศความเสียเปล่า ลบล้างผลพวงการรัฐประหารให้เป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งแนวทางนี้หลายประเทศเคยทำกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน หลังยุคเผด็จการนาซี ตุรกี สเปน และ กรีซ
ส่วนเรื่องข้อเสนอให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 2549 นั้น ก็ไม่ได้ให้ยกเลิกทั้งฉบับ เพราะจะทำให้การบริหารราชการแผ่นดินสมัยรัฐบาล พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีปัญหา ข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ให้ยกเลิกเฉพาะมาตรา 36 และ 37 บัญญัติให้นิรโทษกรรมการรัฐประหาร และรับรองการกระทำคณะของ คปค.ให้ชอบตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเอาผิดคนทำรัฐประหาร ซึ่งมีสถานะเป็นกบฏ หากทำได้จะช่วยให้สังคมไทยเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านได้อย่างสันติ และจะทำให้ไม่มีใครกล้าทำรัฐประหารอีก
“ยืนยันไม่ได้ทำเพื่อทักษิณคนเดียว และไม่เคยรู้จักกับทักษิณเป็นการส่วนตัว แต่เคยมีแถลงการณ์อย่างนี้มาตั้งแต่ครั้งที่ยุบพรรคไทยรักไทย และเรื่องหุ้น เพราะเห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายโดยมิชอบ” รองศาสตราจารย์ วรเจตน์ กล่าว
รองศาสตราจารย์ วรเจตน์ ระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ พรรคประชาธิปัตย์เองก็เคยทาบทามอาจารย์ วรเจตน์ ให้ไปช่วยงานพรรค ดังนั้น เรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทราบดี จึงไม่ควรกล่าวหาว่าอาจารย์เป็นคนของพรรคเพื่อไทย พร้อมตั้งคำถามกลับไปยังพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยว่า ทำไมต้องเดือดร้อนในเรื่องการออกแถลงการณ์ฉบับนี้