“มาร์ค” ลุยตรวจน้ำท่วมบ้านหมี่ ลพบุรี เตรียมขอหารือ “ปู” จ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกรเหยื่อน้ำท่วม งง รัฐบาลอ้างจ่ายชดเชยไปแล้วร้อยละ 70 เอาตัวเลขจากไหน เกรงพวกปลิงสวมสิทธิ์รับจำนำ แนะสำรวจข้าวก่อนเข้าโครงการ เหยื่อน้ำท่วมเตรียมประชดเกี่ยวข้าวใต้น้ำขอเงินชดเชย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ที่ ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากประตูน้ำพางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี พังทลาย ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมหมู่บ้านได้รับความเสียหายในเรื่องพืชผลเกษตรกรร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยชาวบ้านได้ขอให้นายอภิสิทธิ์ช่วยเหลือ เรื่องการจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่ไม่สามารถเข้าโครงการรับจำนำข้าวได้เนื่องจากไม่มีผลผลิต
โดย นายอภิสิทธิ์ ชี้แจงว่า พรรคได้ทวงถามเรื่องการจ่ายเงินค่าชดเชย ตามโครงการประกันรายได้ ให้กับเกษตรกที่มีการลงทะเบียนไปก่อนหน้านี้แล้วมาโดยตลอด แต่ นายกิติรัฐ ณ ระนอง รมช.พาณิชย์ มาตอบกระทู้ในสภาว่าจะไม่มีการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร อย่างไรก็ตามตนจะพยายามเสนอให้รัฐบาลทบทวนอีกครั้ง เพราะมีเกษตรกรจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน โดยจะอาศัยช่วงเวลาที่ได้พบกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในงานเดินการกุศลต่อต้านคอร์รัปชัน ในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ โดยตนจะขอให้นายกฯจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่จะไม่ได้รับเงินค่าชดชเยจากโครงการรับจำนำข้าว โดยรัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้คำว่าเงินส่วนต่างตามโครงการประกันรายได้ก็ได้ แต่ขอให้มีการเยียวยากับเกษตรกรจริงๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางตัวแทนเกษตรกรได้สอบถามนายอภิสิทธิ์ ว่า หากไม่มีผลผลิตจะสามารถไปจำนำกับรัฐบาลได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ตอบว่า คงไม่ได้ ทำให้เกษตรกรรายดังกล่าวพูดว่า ถ้าอย่างนั้นจะเกี่ยวต้นข้าวที่จมน้ำอยู่ใต้น้ำไปจำนำได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ให้ใจเย็นๆ ตนจะไปติดตามสอบถาม และขอให้รัฐบาลช่วยเหลือต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ในบริเวณนี้มีน้ำท่วมขังมาเป็นเวลาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ไม่สามารถอาศัยบ้านพักได้ จึงได้อพยพครอบครัวและสัตว์เลี้ยงมาอาศัยบนสะพาน โดยระหว่างการเยี่ยมชาวบ้านนายอภิสิทธิ์ ได้เข้าโรงครัวและตักอาหารแจกจ่ายให้กับชาวบ้าน และลงเรือพร้อมกับลุยน้ำมอบอาหารให้กับชาวบ้านที่พายเรือมารับด้วย
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จากกระทู้ถามของพรรคประชาธิปัตย์ในสภา เกี่ยวกับการดูแลเกษตรกรจากภัยน้ำท่วม ทำให้เป็นห่วงเกษตรกรเมื่อรัฐบาลพูดชัดว่าได้ตัดสินใจไม่จ่ายเงินส่วนต่างประกันรายได้ให้เกษตรกรในช่วงก่อนโครงการรับจำนำเริ่มในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เพราะเท่ากับว่าจะมีเกษตรกรจำนวนมากประสบความเดือดร้อน เพราะรัฐบาลไม่ได้เช้าไปช่วยเหลือเกษตรกรที่เกี่ยวข้างเพื่อหนีน้ำก่อนวันที่ 7 ต.ค.ที่จริงแล้วในส่วนที่รัฐบาลพูดว่าได้จ่ายชดเลยผลผลิตเสียหายไร่ละ 2,222 บาทไปแล้วนั้น แล้วเกษตรกรที่เกี่ยวข้างหนีน้ำไปก่อน เกษตรกรที่ไม่ได้ส่วนต่างประกันรายได้ แล้วจะเอาข้าวที่ไหนไปจำนำในวันเริ่มโครงการวันที่ 7 ต.ค.ที่จริงแล้วรัฐบาลเข้าใจผิดเพราะ 2,222 บาทต่อไร่ ยังไม่ได้จ่าย แต่ส่วนที่จ่ายได้ทันทีคือ ค่าที่อยู่อาศัยเสียหายครัวเรือนละ 5,000 บาท เพราะ 2,222 บาท การดำเนินการที่ผ่านมาต้องรอน้ำผลเพื่อสำรวจสภาพความเสียหายของพืชผล ซึ่งที่ผ่านมา ก็สำรวจยังไม่ถึงครี่งของเกษตรกรทั้งหมด แถมยังจ่ายไม่ถึงครึ่งของี่สำรวจได้อีกด้วย ดังนั้น ที่บอกว่าจ่ายไปแล้วร้อยะละ 70 จึงไม่จริง พูดตัวเลขออกมาได้อย่างไร ตัวเลขมาจากไหน ส่วนบัตรเครดิตเกษตรกรนั้น หลักที่แท้จริงเราต้องให้ความช่วยเหลือไม่ให้เกษตรกรเป็นหนี้มากกว่า
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนที่รัฐบาลจะเร่งการช่วยเหลือนำร่องในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ อุดรธานี ก่อนนั้น ต้องถามว่าใช่หลักเกณฑ์อย่างไร แต่ส่วนใหญ่พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมาก คือ ภาคเหนือตอนบน และอยากฝากเกี่ยวกับโครงการรับจำนำ ว่า ต้องดูตัวเลขและสำรวจที่มาของข้างที่จะเข้าโครงการว่ามาจากที่ไหน เพราะเมื่อข้าวเกษตรกรเสียหายจากน้ำท่วมหมดแล้ว รัฐบาลต้องตรวจสอบโรงสีต่างๆว่าเป็นข้าวมาจากไหน เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ รัฐบาลต้องยืนยันว่า ในวันที่ 7 ต.ค.จะเป็นการรับจำนำจากเกษตรกรจริงๆ และต้องวางมาตรการเพื่อป้องกันการทุจริต