ปชป.ฉะโครงการบ้านหลังแรกแหกตา คำนวณภาษีแล้ว พบผู้มีรายได้เดือนละ 5 หมื่นบาทขึ้นไป จึงจะได้ประโยชน์ แฉซ้ำ เอสซี แอสเสท ได้อานิสงส์กว่าพันยูนิต ห่วงเพาะเชื้อผลประโยชน์ทับซ้อนซ้ำรอย “ทักษิณ” ด้านหัวหน้าประชาธิปัตย์ ยันบ้านหลังแรกไม่ได้ช่วยคนจน แค่กระตุ้นเงินอสังหาฯ ไล่เพื่อไทยไปดูเว็บเอสซีบอกชัดพร้อมรับประโยชน์เต็มที่
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส. กทม.ในฐานะโฆษก ครม.เงาพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า นโยบายนโยบายลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรกของรัฐบาล เป็นนโยบายที่แหกตาประชาชน เพราะผู้ที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่คนจน คนที่ได้เงินเดือนต่ำกว่า 3 หมื่นบาท จะไม่ได้ประโยชน์ แต่ผู้ที่ไ่ด้ประโยชน์ คือ คนทีี่มีเงินเดือนตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป
ทั้งนี้ จากการศึกษาฐานการจ่ายภาษีของบุคคลทีี่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท จะมีค่าใช้จ่ายที่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีจนเต็มเพดาน ตัวอย่างเช่น หักค่าใช้จ่าย 40% แต่ไม่เกินไม่เกิน 6 หมื่นบาท ลดหย่อนผู้มีเงินได้ 3 หมื่นบาท ลดหย่อนบุตร 1.5 หมื่นบาท ลดหย่อนเลี้ยงดูบิดามารดา 6 หมื่นบาท ลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิต และหน่วยลงทุนต่างๆ 3.4 หมื่นบาท เงินสมทบประกันสังคม 9 พันบาท เงินบริจาค 3 พันบาท รวมหักค่าใช้จ่ายและเงินลดหย่อนเป็นเงิน 211,000 บาท เมื่อนำมาหักจากเงินเดือน 3 หมื่นบาท จะเหลือเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน 149,000 บาท ซึ่งถือว่ามีเงินได้ต่ำกว่า 150,000 แสนบาทไม่เข้าข่ายมีเงินได้ที่จะต้องเสียภาษี
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ขณะที่ผู้ที่มีรายได้เดือนละ 50,000 บาทขึ้นไป จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ได้โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนรวมเงิน 100,000 บาทที่สามารถนำมาลดหย่อนจากโครงการบ้านหลังแรกอีก 1แสนบาทจะเหลือเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน จำนวน 371,500 บาท และหากนำมาหักกับฐานเงินได้ที่ไม่ต้องจ่ายภาษี 150,000 บาท เหลือเงินที่จะต้องมาคำนวณในการจ่ายภาษีเพียงประมาณ 75,000 บาท ซึ่งจะต้องเสียภาษี 10% ของวงเงินดังกล่าว คือประมาณ 7,500 บาท เท่านั้น
นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ระบุว่า โครงการบ้านของบริษัท เอสซี แอสเสท ราคา 8 ล้านบาท ขึ้นไปนั้น ความจริงบริษัทนี้มีโครงการทำบ้านทาวน์โฮม ชื่อ “วิสต้า วันเอทโอ 180” รวม 116 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท โครงการคอนโดมิเนียมอีกสามโครงการ คือ เซ็นทริค ซีน 696 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.3 ล้านบาท โครงการ เซ็นทริค 270 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 2.9 - 5.5 ล้านบาท และ โครงการเดอะเครสท์ จำนวน 163 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท รวม 1 พันกว่ายูนิต ถือเป็นโครงการที่เข้าร่วมกับโครงการบ้านหลังแรกได้
“ข้อมูลทั้งหมดผมนำมาจากรายงานประจำปี 2553 ของบริษัท เอสซี แอสเสท ที่ช่วงนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นประธานกรรมการบริหารและเป็นผู้ยื่นเอกสารนี้กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) และ แจกให้กับผู้ถือหุ้นด้วย คนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้คือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และปฏิเสธไม่ได้ว่าบริษัท เอสซี แอสเสทซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ เคยเป็นประธานกรรมการบริหารจึงได้รับประโยชน์ไปเต็มๆ จากการขึ้นวงเงิน 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท นี่คือ สิ่งที่ผมทวงไปยังท่านว่าอย่าให้ผลประโยชน์กัน ซึ่งเคยเกิดขึ้นในรัฐบาลในอดีตนาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเพาะเชื้อและเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ ซึ่งในช่วงนี้รัฐบาลมีเวลาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขให้เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ และการกระทำของผมไม่ใช่การจับโกหกแต่เป็นการยืนยันว่าโครงการนี้ไม่ตอบโจทย์คนจน” นายอรรถวิชช์ กล่าว
นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า ยอมรับว่า โครงการนี้ก็ได้ประโยชน์กับบริษัทอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ เช่นกัน แต่อย่าลืมว่าผลประกอบการของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ในปีที่แล้วมีกำไรพุ่งกระฉูดแล้วรัฐบาลจะไปช่วยเขาทำไม
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงโครงการบ้านหลังแรกของรัฐบาล ว่า ไม่ใช่มาตรการช่วยคนจนอย่างแน่นอน แต่เป็นมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ รวมถึงคนในพรรคเพื่อไทยออกมาปฏิเสธเป็นโครงการเอื้อธุรกิจอสังหาฯของบริษัทเอสซีแอสเสสฯ เพราะบริษัทฯ ทำแต่บ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทำไมไม่พูดว่ามีคอนโดมิเนียมด้วย และลองไปดูเว็บไซต์ของบรษัทเอสซีฯได้เลย เพราะนอกจากจะมีโครงการบอกแล้ว ยังบอกเลยว่าเตรียมรับโครงการเต็มที่ เรื่องนี้ชัดเจนว่ามีบริษัทได้ประโยชน์จากการเพิ่มวงเงิน จาก 3 ล้านบาท เป็น 5 ล้านบาท และคนรายได้น้อยจะได้ประโยชน์น้อยลงมาก