“สนธิ” แนะประเทศไทยควรมีหลักการปกครองที่ทุกคนยอมรับ ก่อนที่จะดำเนินการออกกฎหมายใดๆ เพื่อให้เป็นไปตามหลักการปกครองนั้น ชี้ที่ผ่านมาไม่เคยมี กฎหมายจึงถูกกำหนดโดยคนเพียงไม่กี่กลุ่ม พร้อมเสนอกระจายอำนาจการปกครองด้วยการตัดงบกระทรวงศึกษาลงไปให้แต่ละจังหวัดดูแลโรงเรียนกันเอง เชื่อการศึกษาไทยดีขึ้น ช่วยต่อต้านซื้อสิทธิขายเสียง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง “นายสนธิ ลิ้มทองกุล” ให้สัมภาษณ์
วันที่ 20 ก.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้โทรศัพท์เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ASTV
นายสนธิกล่าวว่า ตนคิดว่าประเทศต้องมีหลักการปกครอง ถ้ามีหลักการปกครองที่ทุกคนยอมรับแล้วก็ให้การศึกษาคนว่าหลักการปกครองนี้คือสิ่งที่เราจะอยู่ร่วมกันตลอดไป อาจจะเดินสายให้ความรู้ หรือลงประชามติที่หลังว่ายอมรับหลักการปกครองนี้ แล้วเราค่อยมากำหนดว่าเราจะใช้กติกาอะไรที่มันเดินไปตามหลักการปกครองอันนี้ กฎหมายอะไรก็ตามที่ขึ้นมาแล้วขัดหลักการปกครองก็ต้องล้มไปโดยปริยาย
ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าหลักการปกครองบอกว่าคนไทยมีสิทธิหากินเท่าเทียมกันหมด ถ้าอย่างนั้นแล้วรัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ก็ต้องล้อหลักการปกครองตรงนี้ว่า ทุนใหญ่ย่อมรังแกทุนเล็กไม่ได้ ฉะนั้น การผูกขาดกิจการที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโลตัสจะมาตั้งแล้วฆ่าโชวห่วยย่อมทำไม่ได้ ซึ่งจะมีหลายหลักการปกครอง ตนคิดว่านักรัฐศาสตร์ที่สนใจ หรือที่ไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการร่างกฎหมาย เราลืมไปว่าจริงๆ แล้วประเทศต้องมีหลักก่อน และหลักการปกครองของเรานี้ต้องล้อขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมดั้งเดิม ประวัติศาสตร์ ที่สำคัญข้อเท็จจริงทางการเมืองของเราด้วย
นายสนธิกล่าวอีกว่า ทีนี้เราไม่เคยมีตรงนี้ขึ้นมาเลย การร่างรัฐธรรมนูญแต่ละครั้ง เราใช้พวกศาสตราจารย์ อาจารย์ หรือผู้เชี่ยวชาญในวงการเมืองมากำหนดว่าประชาชนต้องเล่นการเมืองแบบนี้ การเมืองต้องอย่างนี้ ส.ส.ต้องจบปริญญาตรี แต่เราไม่เคยพูดว่าหลักการปกครองแล้ว คนที่จะเข้ามาปกครองประเทศไทยต้องเป็นคนดี มีคุณธรรม ซึ่งตรงนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการศึกษาแล้ว
นายสนธิกล่าวว่า ตนเคยพูดว่าการกระจายอำนาจ จะทำให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง คำถามมีอยู่ว่าวันนี้เรากระจายอำนาจโดยอ้างว่ามี อบจ. อบต. มีเทศบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราไปยึดสรณะการเลือกตั้งว่านี่คือประชาธิปไตย ซึ่งอันนี้ไม่ใช่แล้ว
แต่ถ้ากระจายอำนาจด้วยการเอาเม็ดเงินลงสู่จังหวัด ถ้าจังหวัดไหนได้งบจากกระทรวงศึกษาฯ มาสนับสนุนโรงเรียนในจังหวัด ตัดการขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาฯ ให้ขึ้นกับจังหวัดนั้นๆไปเลย ตนคิดว่ามองในมุมกลับ การศึกษาไทยเป็นบวก เพราะคนท้องถิ่นย่อมสนใจมากว่าการศึกษาต้องดีกับลูกหลานเขา และยังเป็นการต่อต้านการซื้อเสียง ขายเสียง เพราะพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกเรียนดี ถ้าการศึกษาของจังหวัดอุดรธานี ดีสู้หนองคายไม่ได้ คนอุดรฯ คงเข่นฆ่านายก อบจ.ซึ่งเป็นเจ้าของงบ และดูแลกระทรวงศึกษาฯ ในนั้นให้ตายไปเลย
ตัดให้เขาบริหารงบตรงนั้นไปเลย รวมไปจนถึงตำรวจท้องถิ่นด้วย ตนคิดว่าถ้าเขากระจายอำนาจอย่างนี้จริง คิดว่ามันจะตัดขบวนการนักการเมืองที่วิ่งเข้ามาหาอำนาจในส่วนกลาง เหตุผลเพราะผลประโยชน์ทั้งหมดรวมอยู่ส่วนกลางหมด คิดว่านักการเมืองจะแย่งเป็นนายก อบจ. อบต.กันมาก