xs
xsm
sm
md
lg

อัปยศผู้นำไทยไร้ศักดิ์ศรี ยกดินแดนแลกประโยชน์!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ต้องยอมรับว่าข่าวการเดินทางเยือนกัมพูชาของ “พี่น้อง” ตระกูลชินวัตร โดยคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีศักดิ์เป็นน้องสาว ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นพี่ชายและเป็น “นักโทษ” กำลังหนีคดีความผิด โดยทั้งคู่มีกำหนดการเดินทางมาถึงในเวลาไล่เลี่ยกัน แม้ในทางเปิดเผยจะไม่มีการได้พบกันก็ตาม

ตามกำหนดการ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ได้เดินทางไปถึงวันที่ 15 กันยายน และเดินทางกลับประเทศในค่ำวันเดียวกัน ขณะที่คนหลังมาถึงวันที่ 16 กันยายนและยังอยู่ที่นั่นจนถึงวันที่ 24 กันยายน

การเดินทางของคนทั้งสองได้รับการจับตามองจากสังคมทั้งในและต่างประเทศ ว่าต้องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางธุรกิจพลังงานในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย แม้ว่าจะมีการปฏิเสธอย่างแข็งขันก็ตาม แต่น่าสังเกตก็คือ ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซก อาน ที่รับผิดชอบเรื่องการเจรจาดังกล่าวก็เปิดเผยออกมาเองว่าจะมีการหารือกันระหว่างผู้นำไทยกับกัมพูชา

คำพูดของรองนายกฯกัมพูชามันก็ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า ข้อสงสัยของสังคมก่อนหน้านี้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากกำหนดการการเยือนของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ที่มาเยือนกัมพูชาก่อนหน้า 1 วัน เหมือนกับว่าไป “นำร่อง” เปิดหัวข้อเจรจา ส่วนอีกคนหนึ่งจะเป็นผู้มาสานต่อตกลงในรายละเอียด แบ่งสัดส่วนผลประโยชน์ระหว่างกันมันก็เป็นไปได้

นอกจากนี้ สิ่งที่ต้องนำมาปะติดปะต่อเชื่อมถึงกันก็คือ กรณี จอห์น เอส วัตสัน ประธานและกรรมการผู้บริหารสูงสุดของบริษัท เชฟรอน คอร์ปอร์เรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลกเข้าเยี่ยมและมอบของที่ระลึกให้แก่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลังจากกลับจากการเดินทางเยือนกัมพูชาเพียง 1 วันเท่านั้น มันก็ยิ่งเข้าเค้า และผิดสังเกตเข้าไปอีก เพราะหากติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวก็จะพบว่าบริษัทเชฟรอนฯเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับสัมปทานเขาไปขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนในอ่าวไทย

ที่สำคัญความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น มันเชื่อมโยงไปถึงประเทศมหาอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อันมหาศาลในครั้งนี้อีกด้วย

แม้ว่าหากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้ว นี่อาจเป็นความเคลื่อนไหวเจรจาในเบื้องต้น เพราะจะต้องมีการจัดทำ “กรอบการเจรจา” แล้วต้องมาขออนุมัติจากที่ประชุมร่วมรัฐสภาเสียก่อนก็ตาม แต่สำหรับการเมืองไทย ระบบรัฐสภาที่การตรวจสอบไร้ประสิทธิภาพ ใช้เสียงข้างมากเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ด้วยแล้ว มันก็ยิ่งทำให้เกิดความระแวง ไม่น่าไว้วางใจได้ตลอดเวลา อีกทั้งเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาล้วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ด้านพลังงานในอ่าวไทยนี่แหละเป็นเรื่องหลัก

นอกจากนี้สิ่งที่ต้องจับตาเป็นพิเศษก็คือ คำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ทันทีที่เดินทางกลับถึงไทย ก็คือ ไม่ยืนยันว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหารเป็นของไทย พร้อมทั้งให้ยอมรับคำตัดสินของศาลโลกที่กำลังพิจารณาคำร้องของฝ่ายกัมพูชาที่เสนอให้ตีความคำพิพากษาของศาลโลกเมื่อปี 2505 ว่าครอบคลุมถึงพื้นที่ดังกล่าวด้วยหรือไม่

แน่นอนว่าฝ่ายที่ “เสมอตัวกับกำไร” ก็คือกัมพูชานั่นเอง ขณะที่ฝ่ายไทยมีแต่เสียเปรียบ และยิ่งนายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่ยืนยันอธิปไตยและให้ยอมรับอำนาจศาลโลกมันก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ของฝ่ายไทยที่จะสูญเสียอธิปไตยมีสูงยิ่งขึ้นไปอีก และแม้ว่าในวันรุ่งขึ้นจะมีการแก้ตัวผ่านทางเฟซบุ๊กจะเสียงแข็งขึ้นมาว่าพื้นที่ 4.6 เป็นของไทย แต่ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า “เป็นพื้นที่ทับซ้อน” ทั้งที่เป็นของไทยมาก่อน และไม่ยอมพูดถึงเรื่องศาลโลกตามที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้

กลายเป็นว่าพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรของไทยโดยสมบูรณ์นั้น กลับต้องขึ้นอยู่กับการชี้ขาดของศาลโลกเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีประเทศไหนให้เข้ามาตัดสินข้อพิพาทดินแดนระหว่างประเทศ ยกเว้นจะได้รับความยินยอมจากประเทศคู่กรณีดังตัวอย่างกรณีปราสาทพระวิหารที่เราเสียรู้ให้กับประเทศมหาอำนาจเมื่อปี 2505 และอำนาจของศาลโลกในเรื่องดังกล่าวก็ได้สิ้นสุดลงไปแล้ว

ดังนั้น หากพิจารณาจากคำพูดของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ไม่ยืนยันอธิปไตยของไทยในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบปราสาทพระวิหาร ความเคลื่อนไหวของทักษิณ ชินวัตร ที่เดินทางไปเยือนกัมพูชา รวมไปถึงการเข้าพบหารือกับผู้นำไทยที่ทำเนียบรัฐบาลของผู้บริหารสูงสุดของบริษัทน้ำมันของต่างชาติในเวลาไล่เลี่ยกัน มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องถูกตั้งข้อสงสัยว่านี่คือ “ผลประโยชน์ทับซ้อน” แอบแฝง กำลังยกดินแดนเพื่อแลกเปลี่ยน เป็นลักษณะ “ต่างตอบแทน” ไม่มีผิด

หากเป็นแบบนั้นมันก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าอัปยศอดสู เพราะนอกตัวผู้นำจะถูกปรามาสในเรื่องความไร้กึ๋น ไร้ฝีมือในการบริหาร ไร้เดียงสาทางการเมืองแล้ว ยังยอมเป็นเครื่องมือให้กับกลุ่มผลประโยชน์ โดยไม่สนใจกับอธิปไตยของชาติ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น