ส.ส.ปชป.ชำแหละนโยบายรถคันแรก สร้างหนี้สาธารณะ พร้อมถามเมืองไทยรถติดไม่พออีกหรือ เชื่อกระทบพลังงานทางเลือก-ตลาดรถมือสอง สงสัยมีประโยชน์ทับซ้อน บ.ผลิตรถ ติงควรนำเงินไปสร้างขนส่งสาธารณะมากกว่า
นายโกวิท ธารณา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ว่า นโยบายดังกล่าวเป็นการเร่งทำนโยบายที่หาเสียงไว้กับชนชั้นกลาง ในลักษณะแก้ผ้าเอาหน้ารอด เพราะเน้นแก้ไขปัญหาของพรรคเพื่อไทย แต่กลับสร้างปัญหาที่เป็นผลกระทบมากมายอีกตามมา ทั้งการเพิ่มหนี้ของชาวบ้านที่ต้องกู้เงินมาซื้อรถ เพราะเห็นราคาถูกจากการลดภาษี โดยรัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 500,000 คัน เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าว จึงอยากถามว่า ขณะนี้ปัญหารถติดในประเทศไทย ยังมีไม่พออีกหรือ เปรียบเทียบได้ว่า ขณะที่รถยนต์มี 3 ส่วน ถนนมีเพียง 1 ส่วนเท่านั้น
“คนออกรถมา ก็ไม่มีถนนให้วิ่ง ดูได้จากหน้าเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลปีใหม่ ที่รถติดทั้งสายอีสาน และสายเหนือ ทั้งวันทั้งคืน ซ้ำยังกระทบต่อนโยบายพลังงานทางเลือก กระทบต่อตลาดรถมือสองอีกด้วย”
นายโกวิท ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า นโยบายดังกล่าวอาจเข้าข่ายเอื้อให้แก่ผู้ประกอบการผลิตรถยนต์บางรายในลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ พร้อมกล่าวอีกว่า หนำซ้ำประชาชนเมื่อซื้อมาแล้ว ก็ต้องรอถึง 5 ปี จึงจะโอนเป็นชื่อของตัวเองได้ หากในช่วงปีที่ 2-3 ผู้ซื้อไม่มีเงินส่งรถ รถถูกยึดขายทอดตลาด แต่รัฐบาลได้ชดเชยเงินให้แล้วคันละ 100,000 บาท ถามว่าใครจะรับผิดชอบเงินงบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนที่นำมาใช้ในโครงการนี้ที่ตั้งไว้ 30,000 ล้านบาท ทั้งหมดเหมือนการเพิ่มหนี้ให้ประเทศ ทั้งที่ทั่วโลกกำลังเกิดวิกฤตปัญหาเศรษฐกิจทั้งทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา แต่รัฐบาลนี้กำลังส่งเสริมให้ประชาชนสร้างหนี้ด้วยนโยบายลดแลกแจกแถม หากต้องการแก้ไขปัญหาคมนาคม เหตุใดจึงไม่นำงบประมาณส่วนนี้ไปปรับปรุงระบบขนส่งรางคู่ ที่เน้นให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนเพื่อแก้ไขปัญหารถติด และประหยัดพลังงาน ไม่มีประเทศไหนที่แก้ไขปัญหาอย่างหนึ่ง แต่กลับสร้างปัญหาตามมาอีกมากมายเช่นนี้