ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รับมอบ ฮ.เบลล์ 412 บรรจุ บก.ทท.2 ลำ ใช้ภารกิจนำกรมแผนที่ทหารเข้าสำรวจหลักแดน ช่วยเหลือชาวบ้าน โยนรัฐบาลตัดสินใจอนุมัติงบซื้อยุทโธปกรณ์ตามคำขอหรือไม่
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้เป็นประธานในพิธีบรรจุมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบใช้งานทั่วไป รุ่น เบลล์ 412 อีพี (Bell 412 EP) เพื่อใช้ในราชการกองทัพไทยจำนวน 2 ลำ โดยภายหลังรับมอบ พล.อ.ทรงกิตติ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การรับมอบครั้งนี้เป็นการบรรจุเข้าไปประจำการในกองบัญชาการกองทัพไทย หลังจากที่ดำเนินการจัดซื้อจัดหาเครื่องบินแบบเบลล์ 412 มา เราพยายามใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยภารกิจที่สำคัญ คือ ต้องการนำเจ้าหน้าที่ คือ กรมแผนที่ทหาร เข้าไปยังจุดต่างๆ เวลาไปสำรวจหลักเขตแดน การใช้งานทั่วๆ ไป รวมถึงการช่วยเหลือประชาชน จะเห็นว่า มีเครื่องมือที่สามารถยกคนออกจากพื้นที่ได้ และมีเครื่องมือเปลี่ยนแปลงเป็นเฮลิคอปเตอร์พยาบาลแบบ 6 เตียงได้ ซึ่งเราเห็นว่า ใช้ประโยชน์ได้มาก เพราะเราพยายามหาสิ่งที่สามารถใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และให้คุ้มค่ากับงบประมาณที่ได้เสียไป
เมื่อถามว่า ในส่วนของกองทัพบกก็ได้มีการจัดซื้อจัดหาเช่นเดียวกัน พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ของกองทัพบกก็อยู่ในแผน โดยส่วนใหญ่กองทัพบกจะใช้งานทางยุทธวิธี ซึ่งหมายรวมถึงการปฏิบัติการ หากเป็นกองร้อยทหารม้าอากาศ จะใช้ในการโจมตีเป้าหมาย และใช้ในการยกกำลังพลเข้าสู่เป้าหมาย นอกจากนั้นยังใช้ในการส่งกำลังหากมีความจำเป็นและภารกิจในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเป็นการมองภาพรวมทั้งหมดในอนาคตของกองทัพว่าเราควรจะมีอะไรบ้าง แล้วเราก็แบ่งมอบว่าในปีนี้จะขอดำเนินการจัดซื้อจัดหา ซึ่งบางปีก็ไม่ได้จะต้องเลื่อนไปปีต่อไปตามความเหมาะสม สถานการณ์และงบประมาณ
“เราจะมาบอกว่าเท่านี้เท่านั้นมันไม่ได้ จะต้องได้รับอนุมัติซึ่งรัฐบาลเป็นผู้ตัดสินใจ แต่เรามีแผนไว้หมดแล้ว โดยจะเรียนผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีขั้นตอนอยู่ โดยพิจารณาจากมุมมองสถานการณ์ภายนอกประเทศ ภายในประเทศ ในขณะที่การกำลังก้าวสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2015 เป็นอย่างไร หรือแนวโน้มของกองทัพต่างๆ ทั้ง อียู นาโต้ หรือกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นอย่างไร เราควรจะปรับตัวอย่างไร ควรจะมีขีดความสามารถแบบไหนเพิ่มขึ้นโดยที่ใช้กำลังพลน้อยลง ใช้เครื่องมือให้สูงขึ้น ใช้ระบบมากขึ้น ซึ่งการใช้ระบบมากขึ้นก็หมายความว่าต้องใช้งบประมาณมากขึ้นด้วย เพราะราคาขึ้นอยู่กับเทคโนโลยี เราเป็นแต่เพียงผู้นำเสนอให้ทราบถึงความต้องการ และดูว่าในอนาคตกองทัพต้องพัฒนาอะไรบ้าง เพราะการมองภาพรวมของกองทัพนั้นไมได้อยู่ที่กองทัพเดียว แต่มองหลายประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาเรามีการฝึกร่วมและมีการทำงานร่วมกับกองทัพหลายๆประเทศ โดยมีความร่วมมือกันในหลายเรื่อง และเมื่อมีความร่วมมือกันบางอย่างก็ลด แต่บางอย่างก็ต้องเพิ่ม คือ เพิ่มในความสามารถในการติดต่อสื่อสาร ในการควบคุมบัญชาการ สามารถร่วมทำงานกันได้และลดบางส่วนที่ไม่จำเป็น” พล.อ.ทรงกิตติ กล่าว
